images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
รัก และ ชัง บททดสอบของชีวิต ??

ก่อนจะอ่านบล็อกในคืนนี้ซึ่งตั้งใจจะแปะ
คิดว่าบล็อกคืนนี้น่าจะมีสาระและมีอะไรดีๆ แก่คนอ่านของฉันทุกคนนะคะ

ขอบคุณผู้ที่เอื้อเฟื้อตอบคำถามแก่ฉัน คำตอบนี้ทำให้ได้ข้อคิดและวิธีปฏิบัติที่มีประโยชน์มากค่ะ ออกตัวสักนิดว่า ฉันไม่เคยคิดว่าจะเฉียดกรายใกล้ธรรมะมาก่อน ตลอดจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง เพียงแต่คิดว่าธรรมะน่าจะตอบคำถามของฉันได้

ช่วงชีวิตที่ได้ใกล้ธรรมะมากที่สุดก็คือช่วงทุกข์ใจ ทั้งทุกข์ที่เกิดจากความไม่ได้ดั่งหวัง และความไม่เข้าใจในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา

ลองดูคำถามที่ฉันถามกัลยาณมิตรทางธรรมสองท่านวันนี้ ได้ให้ข้อคิดที่ดีแก่ฉันเป็นอันมากค่ะ ฉันมีสี่คำถาม แต่จะยกคำถามข้อที่หนึ่งซึ่งน่าจะเป็นสภานการณ์ที่คุณๆอาจจะเคยเจอมาในที่ทำงาน

เป็นไปได้ว่าในสังคมการทำงานย่อมต้องมีทั้งที่คนชอบและไม่ชอบเรา
ตลอดจนขัดแย้งกับเรา

คำถามที่หนึ่งจึงเป็นเรื่องของการที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนที่เขาไม่ชอบเรา หรือมีทัศนคติที่ขัดแย้งกัน เราควรทำอย่างไร

------------------------------------------

ฉันเชื่อมากเลยค่ะว่าต้องมีคนอ่านบางคนเจอเรื่องทำนองเดียวกันนี้
ฉันแก้ปัญหานี้ด้วยการพยายามสงบจิตใจ ก่อนหน้านี้มันขึ้นๆลงๆค่ะ
แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว

ดูคำตอบของกัลยาณมิตรคุณพันธกุมภา และคุณอนงค์
ซึ่งทำให้ฉันกระจ่างขึ้นมาก

คุณพันธกุมภามองว่าอย่างนี้ค่ะ

ผมมองว่าคนอื่นๆ มี อยู่ 3 แบบ คือ คนที่ชอบเรา, คนที่ไม่ชอบเรา และ คนที่เฉยๆ กับเรา นั่นไม่ว่าเราจะทำอะไร จะพูด จะทำ เป็นอย่างไร ก็จะมีคน 3 ประเภทนี้อยู่ หน้าที่ของเราคือ "เอาใจไว้กับตัวเอง"
คือ "ไม่เอาใจไว้ที่เขา" เพราะเมื่อใดที่เราเอาใจไปไว้ที่เขา เราก็จะรู้สึกทุกข์ เช่น เมื่อเขาไม่ชอบ เราก็ทุกข์ เมื่อเขาไม่ชมเราก็ทุกข์ อันนี้เพราะเราเอาใจไปไว้ที่เขามากไป ทำให้เราทุกข์เพิ่มขึ้น

ยิ่งเมื่อคนที่เขาเห็นแย้งกับเรา ยิ่งไปกันใหญ่เลย ฉะนั้น ขั้นแรกคือ "ให้เราเอาใจไว้กับตัวเองก่อน" ทีนี้ การเอาใจไว้กับตัวเอง ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นแก่ตัวหรือไม่ใส่ใจคนอื่นนะครับ

เรื่องที่เขาไม่เข้าใจ เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ, ถ้าหากเขาร้อนใจใส่เรา เราก็เย็นใจใส่เขา คนบางคนเวลาเจอเราก็จะมีเรื่องเดิมๆ มาว่า มาวิจารณ์เรา เราก็ปล่อยให้เขาได้ "ปล่อย" เรื่องราวเหล่านั้นออกมา
เมื่อเขาพูดเสร็จ เราก็ "รับฟัง" อย่างตั้งใจ ไม่สวนกลับ เมื่อเสร็จแล้ว เราก็ขอบคุณเขา หรืออาจจะขอโทษเขาไปเลย

คือทำให้เรื่องที่เค้าค้างใจ หลุดออกจากเขาก่อน ส่วนเรื่องที่เขาว่ามานั้นจะใช่หรือไม่ใช่ เป็นเรื่องที่เราจะมาจัดการกับตัวเอง

ในกรณีที่มีคนมาว่าเรา นินทา หรือด่า เรา ก็เหมือนกับ หากสมมุติว่า ผมเจอกับพี่ แล้วพี่เอาน้ำมาให้ผมดื่ม แต่ผมไม่รับ น้ำแก้วนั้นจะเป็นของใคร ....มันก็ต้องเป็นของพี่ใช่ไหมครับ ก็เหมือนกับถ้าเขาว่าให้เรา ด่าเรา วิจารณ์เรา แล้วเราไม่รับมา มันก็เป็นของเขาอ่าเนอะ^^

คนที่มีทัศนคติไม่ตรงกับเรา ถือเป็นบททดสอบของเรา ที่จะทำให้เราได้เติบโต อดทน ที่จะคุยกันอย่างกรุณา ไม่ใช้อารมณ์ คุยอย่างเมตตา แบบนี้ก็น่าจะโอเคแล้วนะครับ

ลองอ่านเรื่องนี้นะครับ ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับกรณีที่ 1 หรือไม่
//www.thaingo.org/writer/view.php?id=954
ขอเสริมว่าให้ตาม link ไปอ่านได้เลยนะคะ

ส่วนคุณอนงค์ให้ความเห็นแบบตรงๆเลยค่ะ

ตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยนะคะ คือทำใจ
ถ้าเป็นในที่ทำงาน ก็คงหลีกเลี่ยงการพูดคุยกัน สนทนากันให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้หงุดหงิดทั้งเขาและเรา
แต่ถ้าต้องทำงานร่วมกัน ต้องใจเย็น และคิดว่าทุกอย่างที่พูดมาจากเหตุผลล้วนๆ น่ะค่ะ ส่วนตัวเราเองต้องนิ่งที่สุดน่ะค่ะ
ใช้เหตุใช้ผลอย่างเดียวเท่านั้นในการร่วมงานกัน

แต่ทำใจ สำคัญที่สุดเลยค่ะ ยิ่งถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ก็ต้องนับถือตัวเอง และไม่หวั่นไหวไปกับการที่เขาไม่ชอบเรา

ขีดเส้นใต้คำว่า ไม่หวั่นไหว ไว้หนาๆเลยนะคะ / บี

คำตอบของคุณพันธกุมภา กับ คุณอนงค์ ทำให้ฉันกระจ่างว่า
เราแก้คนอื่น ( ที่ไม่ชอบเรา ) ไม่ได้หรอก แต่เราต้อง แก้ที่ตัวเองนั่นแหละ

ยอมรับว่าในช่วงแรกๆ ฉันนิ่งไม่ได้เลย

แต่เมื่อได้สติ เพราะไม่อยากทุกข์ ฉันได้ให้ลำดับความคิดแก่ตัวเองนี้ค่ะ

เราทำอะไรให้เขาไม่ชอบ มันอาจจะมีก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ คนที่ไม่ชอบเรา อาจจะไม่ชอบโดยไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเราแน่ใจว่าเราทำดี เราทำกรรมดี เราไม่ได้ทำอะไรผิด ความไม่ชอบของเขา เราก็บังคับไม่ได้
เราก็ต้องปล่อยไป

ปล่อยไป

แต่ไอ้การปล่อยไปโดยไม่คิดอะไรเลยนี่ ยากนะคะ เพราะเจ้าความคิดของเรามันก็เหมือนลิงน้อยที่มันคอยวิ่งเล่นอยู่ในใจเรานี่แหละ

แล้วถามว่าทำอย่างไร คือฉันมีเคสที่อธิบายลำบากน่ะค่ะ

เพราะบางทีเรารู้ว่าเขาไม่ชอบเรา วิธีจัดการที่ง่ายที่สุดก็คือไม่ต้องเจอกัน หลีกๆไปเลย แต่ในกรณีที่ต้องเจอ ต้องเผชิญ ต้องข้องเกี่ยว แล้วทำไงล่ะ ฉันทำแบบที่คุณอนงค์กับคุณพันธกุมภาแนะนำ
ไม่ได้เลยค่ะในเวลานั้น

ทำไม่ได้ เหมือนปิดประตูตายเลย ไม่รู้จะรับมืออย่างไร

ในที่สุดก็คิดว่า ต้องสวดมนต์แผ่เมตตา เริ่มเปิดหนังสือสวดมนต์ สวดพาหุงและชินบัญชร สวดหน้าคอมพิวเตอร์โดยอ่านหนังสือสวดมนต์ในใจ ทำบ่อยๆ รู้สึกเย็นลงและสงบ

อานิสงฆ์ของการสวดมนต์ที่เห็นๆเลย ก็คือความสงบเย็น

แม้ไม่รู้ ไม่ลึกซึ้ง แต่ในยามที่ใจจดจ่ดอยู่กับบทสวด มันก็ทำให้คลื่นความคิดที่ยุ่งเหยิง สงบลงได้ค่ะ

ลิงน้อยมากวนใจเป็นระยะๆ จนในที่สุดก็เกิดอาการ 'บิงโก' ค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ

สิ่งที่คิดตามมาได้ คือ ช่างมัน เริ่มคิดว่า เราจะไม่เอา คนนี้ วัตถุชิ้นนี้ หรือความคิดไม่ดี มาทำให้เราขุ่นเด็ดขาด เริ่มปล่อย ด้วยการไม่กวนใจตัวเองให้ขุ่น ใครอยากทำอะไร แม้เราไม่ชอบ ก็ไม่ได้สนใจ ไม่เอาความคิดของเราไปจับ

ผลก็คือ ใจสบายขึ้น

ฉันจึงเห็นด้วยกับคุณพันธกุมภาและคุณอนงค์ ในการที่เราต้องปล่อยวางความคิด ความไม่ชอบเหล่านี้ออกซะ และหันมาจัดการตัวเอง ไม่ปรุงแต่งความคิด เขาไม่ชอบเราแต่เราก็ต้องกินข้าวได้ เขาไม่ชอบเราแต่เราก็ต้องทำงานได้

ฉันคิดเสมอว่า คนเราต้องมีจุดยืนของตัวเอง ต้องมีความนับถือและศรัทธาในตัวเองได้ หากการที่เขาไม่ชอบเรา จะมาสั่นคลอนตัวตนของเรา ทำให้เราต้องเปลี่ยนไปทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา หรือทำอะไรที่ฝืนใจเรา ก็ไม่ใช่เรื่องถูกนะคะ

เราต้องยืนอยู่ในจุดที่เราสบายใจด้วยค่ะ

ความสบายใจที่เกิดจากการที่ใจสงบเย็นไม่ว่าอะไรจะมากระทบเราแค่ไหน ( เขาไม่ชอบเราแค่ไหน ) แต่เราก็ต้องอยู่

ให้ได้ด้วยใจที่เป็นสุข ทุกข์ของเราจะไม่ใหญ่โตถ้าเราไม่ปรุงแต่งให้มันใหญ่เกินจำเป็น บัดนี้ ฉันได้เรียนรู้แล้ว

---------------------------------------------------

ในวันนี้ที่ใจสงบขึ้น แม้จะยังต้องเผชิญปัญหา แต่การทำใจให้ 'วางเฉย' ก็ช่วยฉันได้มาก เพราะเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะต้องผ่านไป และมันจะต้องหายได้ในสักวัน คนที่ไม่ชอบเราเขาก็ต้องออกไปจาก
ชีวิตเรา เขาคงไม่อยู่กับเราไปตลอดหรอก เช่นเดียวกันกับที่เราคงไม่ได้อยู่ในชีวิตใครตลอดไป

ชีวิตหนึ่งที่เรากับเขาเกี่ยวข้องกัน ก็ถือว่าเป็นการมาเจอเพื่อใช้กรรมให้แก่กันและกัน

คิดง่ายๆอย่างนี้ มันก็ยิ้มได้ค่ะ

ขอบคุณธรรมะ
ขอบคุณกัลยาณมิตร คุณพันธกุมภา และ คุณอนงค์
ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอมาค่ะ !!!

บล็อกยาวอีกแล้ว ขออภัยที่อาจจะไม่ถูกใจวัยรุ่นนะคะ อิอิ !!




Create Date : 20 มีนาคม 2552
Last Update : 20 มีนาคม 2552 22:10:16 น. 5 comments
Counter : 490 Pageviews.

 
ในวันนี้ที่ใจสงบขึ้น แม้จะยังต้องเผชิญปัญหา แต่การทำใจให้ 'วางเฉย' ก็ช่วยฉันได้มาก

เขียนถูกใจมากคะ


โดย: vintage วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:22:28:42 น.  

 
คุณบีคะ...ฉันกลับมาแล้วค่ะ

พอดีกับได้อ่านหน้าบันทึกนี้ของคุณ
ชอบคำตอบของคุณพันธกุมภา มากเลยค่ะ
"เอาใจเราไว้กับเรา"
เราสามารถคิดอย่างนี้ได้กับแทบทุกเรื่องในชีวิตนะคะคุณบี
เพียงแค่ทำตามได้ เราคงไม่มีชีวิตอยู่แบบเจ็บปวด



โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:23:28:01 น.  

 
"วางเฉย" ดูง่ายๆสั้นๆ แต่ท่าทางคงยากน่าดู

ปกติก็แค่คิดว่าสิ่งไหนที่เราไม่ชอบ ไม่อยากเจอ...
ก็อย่าไปทำแบบนั้นกับผู้อื่น

ปล. อยากบอกว่าไม่ยาวเลย อ่านแล้วอิ่มใจจัง
ไว้จะลองเอาไปใช้ดูน่ะค่ะ ^__^



โดย: two IP: 202.173.209.20 วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:23:48:44 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ
ดูแลสุขภาพนะคะ


โดย: funkylady วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:1:00:41 น.  

 
หากบล็อกนี้มีประโยชน์
ต้องยกความดีให้แก่ผู้ที่มาช่วยคลายปัญหาให้แก่ฉันค่ะ

จะบอกว่า เราสามารถปฎิบัติธรรมได้ตลอดเวลา
ถึงเราจะไม่ได้เข้าไปปฏิบัติจริง อย่างตัวฉันเองก็
ไม่เคยไปปฏิบัติจริง แต่คิดว่า เราได้น้อมนำธรรมะเข้า
มาไว้ในใจตั้งนานแล้ว

ก็เป็นไปตามประสานะคะ อาจจะทำบ้าง หลุดบ้าง
ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็คงเป็นเรื่องธรรมดา
หากเราตัดได้หมดทุกอย่าง เราก็คงสบายกว่านี้มาก
เพราะจะไม่ทุกข์ใจในอะไรเลย

ดีใจจัง
ที่คนอ่านอ่านแล้วได้อะไร

ดีใจกับการได้เห็นตัวหนังสือของ 'เพลงฝนต้นลมหน่าว'
อีกครั้งค่ะ


โดย: บี IP: 125.25.1.241 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:10:09:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.