คิดมากแต่เช้า .. อ่านจบแล้วเมนท์ให้ด้วยนะ ( ฮา )
ฉันเพิ่งอ่านคอลัมน์ของ 'นิ้วกลม' ในอะเดย์จบ อ่านแล้วก็คิดอะไรๆ เรื่องของเรื่อง มันก็น่าคิดที่เขาบอกว่า
เรายึดเอาคอมพิวเตอร์เป็นตัวตายตัวแทนของตัวเราเองในการสื่อสาร นั่นเพราะเราต่างโดดเดี่ยว 'อยู่คนเดียว' มากขึ้นทุกที
และยึดเอา 'คอมเมนท์' เสมือนหนึ่งเป็นเพื่อนของเรา
โหยหาคอมเมนท์ กันมาก
หากฉันเข้าใจไม่ผิด คิดว่าใจความในคอลัมน์นั้นจะประมาณนี้
พลางคิดทบทวนว่าฉันฝังตัวอยู่ในโลกไซเบอร์นี่นานเท่าไหร่แล้ว
ถูกนะคะ ฉันมีเพื่อนที่รู้จักกันผ่านทางนี้ ฉันว่าคุณทุกคนคงต้องมี ปริมาณมากเท่าไหร่อาจจะขึ้นอยู่ กับหลายๆอย่าง ระยะเวลาและการ 'เปิดเผยตัวตน' ของเรา
ยินยอมที่จะให้โลกไซเบอร์นี่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราแค่ไหน
มันอาจเป็นช่องทางให้คุณเข้าถึงฉันง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เหมือนกับที่ฉันเข้าถึงคุณง่ายและสะดวกขึ้น
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะรู้จักกันหมดทุกซอกทุกมุม
สำหรับฉันแล้ว การเปิดเผยตัวเองแม้จะกับผู้คนในโลกไซเบอร์หรือภายนอกก็คงไม่ได้ต่างกัน ฉันไม่ได้คิดว่าจะต้องวางตัวเองต่างไปแค่ไหน ของอย่างนี้น่าจะอยู่ที่ความพอใจของเราหรือเปล่า
กับคนบางคนแม้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แม้ไม่เคยพบเจอกันมาก่อนแต่ทำไมเรากลับอยากบอกอยากเล่าสารพัดเรื่องให้เขาฟัง วนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์นี้ราวกับมันคือส่วนหนึ่งของชีวิต
เขามีตัวตนสำหรับเรา และเราอาจจะเป็นมากกว่าผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาในโลกไซเบอร์ของเราก็ได้
เพื่อนในชีวิตจริงที่เราจะเห็นหน้าค่าตาลดจำนวนลง ขณะที่เพื่อนผู้มาปรากฏตัวด้วยตัวหนังสือจะเยอะขึ้น มาด้วยคอมเมนท์ที่เราโหยหากันนั่นแหละ
แต่ฉันไม่ค่อยจะนำพาเลย
ฉันพอใจแค่ได้เขียนและอ่านตามวิถีของฉันค่ะ ฉันอาจจะกลายเป็นเพื่อนแสนหยิ่งของคุณก็ได้ เพราะฉันไม่ค่อยจะขยันไปไหนนอกจากกล่องจดหมายและในบล็อกของตัวเอง
ด้วยความคิดง่ายๆแค่ว่า ฉันสบายใจที่ได้ทำแบบที่ฉันชอบ และแค่นี้
ดังนั้น ปริมาณเมนท์ที่ใครต่อใครอยากให้มีมากๆ สำหรับฉันแล้วไม่ค่อยรู้สึกรู้สาไปกับมัน
ความคิดเห็นของคุณมีค่ากับฉันในเชิง 'คุณภาพ' มากกว่า 'ปริมาณ' ฉันรู้แค่ว่า การที่คุณเมนท์ไว้ต้องแปลว่าคุณอ่าน และอ่านอย่างใส่ใจ บางคอมเมนท์น่ารักจะตาย ฉันยิ้มได้ ยิ้มค้าง บางทีก็หัวเราะขำๆด้วยซ้ำ
มาด้วยใจ แค่นั้นก็ดีใจจะตายแล้วนะคะ
ฉันไม่ได้ถกเถียงนิ้วกลม ไม่ได้ตอบคำถามที่เขาขบคิดไว้ในนั้น แค่นำมาคิดต่อและคิดว่า ตัวเองประหลาดหรือเปล่า
ปริมาณคอมเมนท์ของฉันก็ไม่ได้มากมายแบบที่ฉันจะต้องกรี๊ด เพราะฉันไม่ได้ตั้งเป้าอะไรไว้เลยว่ามันจะต้องมโหฬาร
เอาเป็นว่าฉันดีใจแค่รู้ว่ามีคนอ่าน แม้จะมีแค่หนึ่งคน หรือ สองคน ก็พอใจแล้ว
นี่คือสิ่งที่เราคิด เราเห็นและเราเขียนไว้ต่อโลกนี้
วันหนึ่งหากตัวฉันไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว บล็อกนี้อาจเป็นแค่บ้านร้างเท่านั้นเป็นแค่สถานที่หนึ่งในความทรงจำเท่านั้น ที่อาจมีเพียงแค่หนึ่งคนหรือสองคนแวะเข้ามานั่งเหงา
คิดถึงฉัน...
จบด้วยคำของนิ้วกลมนะคะ
อ่านจบแล้วอย่าลืมเมนท์ให้ด้วยนะ ( ฮา )
ขอบคุณที่อ่านค่ะ !!!
Create Date : 17 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 10:47:03 น. |
|
15 comments
|
Counter : 367 Pageviews. |
|
|
|
เขียนได้ดีมากนะคะ