ถ้ามาหน้าหนาวหมอกลงเยอะๆ นะ สมดังคำเล่าลือกุ้ยหลินเมืองลาว จขบ.ชอบเที่ยวแนวธรรมชาตินะ (ขัดกะหน้าตาที่สุด) ด้วยความที่เราอยู่กับคำว่า "ศิวิไลในเมืองกรุง" มานาน เวลาเห็นสีเขียวๆ เนี่ยมันรู้สึกสบายอารมณ์ยังไงบอกไม่ถูก สิ่งที่ธรรมชาติสร้างมักงดงามเสมอ ถ้าถามว่าอยากพักผ่อนไม่เห็นมีใครไปพักผ่อนกรุงเทพฯ เลย มีแต่ออกต่างจังหวัดกันทั้งนั้นแหละ ท้ายที่สุดแล้วธรรมชาติก็สร้างความสุขให้กับมนุษย์ เอาล่ะดื่มด่ำมาพอสมควรแระ เริ่มหิวชีวิตไม่มีอะไรมากจริงๆ บอกเลย ที่นี่พวกเราจองมามีอาหารเช้าให้ด้วยจ้า

เค้ามีให้เลือก 5 เมนู Breakfast หลังจากได้บทเรียนราคาแพงมาว่าเมืองลาวไข่แพงมาก อิชั้นจึงเลือกไข่แน่นอน ก็ไม่เข้าใจ

ที่นี่เค้าไม่เลี้ยงไก่ไข่หรือไงฟ่ะ แพงเกิ๊น ด้วยความงกเดี๋ยวไม่คุ้มไง อิอิ

ซึ่งเค้าเสริฟ์พร้อมขนมปังฝรั่งเศสด้วย เป็นบ้านเรามีเมินเหอะขนมปังฝรั่งเศสเนี่ย จะแข็งไปไหน แต่ที่นี่เค้าอบแล้วนิ่มอ่ะ  ยิ่งทานกับแยมสัปปะรดของเค้าเนี่ย อร่อยมากจนอยากซื้อแยมกลับบ้านเลยล่ะ คิดว่าเค้าน่าจะทำแยมเองนะ พวกเราใช้เวลาฟินกันการทานมื้อเช้าพอสมควร นั่งจนแดดออกเลยว่างั้นก็ได้เวลาไปตะลุยตามแผนที่ตกลงกันไว้ล่ะ 

ก่อนอื่นก็ไปเช่าเสื้อชูชีพก่อนเลยตัวละ 20 บาท หาเช่าไม่ยากตามร้านที่ขายทัวร์นั่นแหละ มีให้เลือกหลายราคาแล้วแต่การต่อรอง เมื่อได้ชูชีพแล้วก็ลุยกันเลยจ้า ไม่ได้ไปเล่นน้ำๆ เนี่ยขอปลอดภัยไว้ก่อน พวกเราเริ่มโปรแกรมที่บลูลากูนจากที่พักใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงยังจุดหมาย ซึ่งต้องบอกว่าพวกเราตัดสินใจถูกมากที่เช่ารถมา ทางขรุขระเอาเรื่องเลยทีเดียว นึกในใจตรูขี่มาคนเดียวมิรอดแน่บอกเลย ขนาดพี่ตุ๊กๆ แกยังขับมาลำบากเล้ย 

บลูลากูน เป็นเป้าหมายที่ตอนค้นข้อมูลเกี่ยวกับวังเวียง พิกัดนี้ไม่พลาดเลยน้ำสีเขียวๆ เนี่ย พอมาเห็นกับตาน้ำมันจะใสไปไหนเนี่ย น่าเล่นเป็นที่สุดมาถึงก็เห็นคนโดดน้ำกันสนุกสนาน มีต้นไม้ให้ขึ้นไปปีนแล้วกระโดดลงมาด้วย บางก็ขึ้นไปเพราะแรงยุ บ้างก็ใจไม่ถึงเปลี่ยนใจสูงจัดไม่โดดดีกว่า ก็สนุกสนานกันไป

บ้างก็ติดใจโดดหลายรอบเกิ๊นเหมือนเจ้าเด็กอ้วนคนนี้ โดดหลายรอบมากคือโดดเพลินอ่ะ แถมไปกดดันชาวบ้านอีกเรียกว่าใครช้าโดดน้องอ้วนเนี่ยเยาะเย้ยจนไม่กล้าโดดกันเลยทีเดียว แต่สำหรับ สว. อย่างพวกเราขอผ่านเลยจ้า เรื่องน้ำๆ เนี่ยอิชั้นขอปลอดภัยไว้ก่อน เลยลอยตัวเล่นน้ำกันฟินๆ ข้างล่างพอแล้วล่ะ 

Patthanid C.