ตอนที่แล้วจาก เกาะโคโลอาน เราจะข้ามมาเกาะไทปากันล่ะ ตามแผนที่วางไว้เราจะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมบนยอดเขาโคโลอานกันล่ะ ตอนนี้ก็ห้าโมงเย็นแล้วล่ะ เอาวะไปก่อนล่ะกันเข้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที พวกเรานั่งรถเมล์สาย 25 มาลงหน้าประตูทางเข้าพอดีเลยล่ะ



แต่ดูจากทางเข้าแล้วน่าจะขึ้นไปอีกไกลแน่ๆ พวกเรานั่งสังเกตุการณ์สักพักไม่เห็นมีใครขึ้นเลย สงสัยน่าจะปิดแล้วล่ะประกอบกับนี่ก็เริ่มมืดเลยเปลี่ยนแผนไปเกาะไทปาเลยดีกว่า เลยนั่งรอรถเมล์สาย 26A ที่จะไปเกาะไทปา



รอนานมากเหมือนเดิมเกือบครึ่งชั่วโมง ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่โรงงานเลิกแน่ๆ เพราะมีคนออกมารอรถเต็มเลย จนเค้าไปกันหมดแล้วเหลือเราอยู่สองคนเนี่ยอ่ะ กรรมจริงๆ เสียเงินจากเกาะโคโลอานมานี่คนละ 5 MOP$ มานั่งดูประตูทางเข้าซะงั้น นั่งรอกันจนจะใกล้หกโมงล่ะรถเพิ่งมา

จากเกาะโคโลอานข้ามาเกาะไทปาใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่เราจะลงตรงไหนของเกาะไทปานี่สิปัญหา จำได้ว่าอ่านจากหนังสือให้ลงหน้าโรงแรมอะไรสักอย่าง จำก็ไม่ค่อยแม่น พอรถวิ่งไปเรื่อยๆ มาจอดหน้าโรงแรม King Vallay ก็เลยถึงบางอ้อเลย โรงแรมนี่แหละเหมือนให้รูปเลย ลงกันก่อนแล้วกัน



เดินข้ามฝั่งมาก็จะเจอป้ายทางไป Casas Museus da Taipa หรือ Taipa House Museum ซึ่งจากข้อมูลเค้าบอกว่าเป็นถนนสายโรแมนติกล่ะ เข้าไปก่อนแล้วกัน พวกเราเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ ตอนนี้ก็มืดแล้วล่ะไฟก็สลัวๆ นิดหน่อย แปลกจังที่นี่ซอยแคบมาก แต่รถเมล์ก็ยังวิ่งได้แฮะ



เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทปาล่ะ เป็นบ้านสไตล์โคโลเนียลในแบบโปรตุเกสสีเขียวห้าหลัง แต่ละหลังจัดแสดงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวมาเก๊าและชาวโปรตุเกส โดยมีภาพถ่าย เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องแต่งกายต่างๆ ของชาวมาเก๊าในอดีตจัดแสดงไว้ แต่เสียดายที่พวกเรามากันมืดไปหน่อยเลยไม่ได้เข้าชมด้านในล่ะ



บ้านทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๒๑ เดิมทีใช้เป็นที่พักของครอบครัวระดับสูงในยุค ๘๐ ต่อมาการท่องเที่ยวมาเก๊าได้ซื้อบ้านทั้งห้าหลังนี้ จนในปลายยุค ๙๐ รัฐบาลจึงตัดสินใจปรับปรุงโครงสร้างบ้านทั้งหมดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมาโดยมีการตั้งชื่อบ้านทั้งห้าหลัง



Macanese House เป็นบ้านจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นสูงของโปรตุเกสในอดีต



House of the Islands เป็นบ้านจัดแสดงข้อมูลทางด้านภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ของเกาะไทปาและเกาะโคโลอาน



House of the Portugal Regions เป็นบ้านที่แสดงเครื่องแต่งกายของชาวโปรตุเกสในภูมิภาคต่างๆ



Exhibition Gallery เป็นบ้านที่แสดงผลงานภาพถ่ายภาพวาด ภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ จากผลงานศิลปะทั่วโลก



House for Reception เป็นบ้านที่จัดแสดงวัฒนธรรมและเทศกาลแห่งการกิน



ด้านหน้าบ้านทั้งห้าหลังมีชื่อถนนว่า Avenida da praia เค้าว่ากันว่าเป็นถนนสายโรแมนติกแหละ ซึ่งน่าจะเป็นไปตามนั้นเพราะวิวด้านหน้าสวยมากๆ



พวกเราโชคไม่ดีที่วันนี้ฝนตกเลยไม่ได้เดินถนนสายนี้นานนัก แถมมากันซะมืดเชียว แต่จะว่าไปบรรยากาศแบบนี้ก็โรแมนติกไปอีกแบบแฮะ



จากนั้นพวกเราก็เดินย้อนขึ้นไปตามทางด้านหลังของบ้านห้าหลังนี้ เหมือนเป็นทางขึ้นเขาเลยล่ะ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย





ขึ้นมาก็จะเจอกับโบสถ์พระแม่คาร์เมล (The Church of Our Lady of Carmel) ตั้งอยู่ที่ Carmo Square ล่ะ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ถือเป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งเดียวบนเกาะไทปาเลยล่ะ สร้างในปี ค.ศ. ๑๘๗๕ หากเพื่อนติดตามตอนก่อนหน้านี้มาเรื่อยๆ จะเห็นว่าโบสถ์ที่มาเก๊าเน้นสีสันโดยเฉพาะสีเหลืองสวยสดใส



ส่วนด้านข้างโบสถ์เป็นห้องสมุดของเกาะไทปาล่ะ สีเหลืองเหมือนกันเลยว่ากันว่าแต่ก่อนเป็นโรงเรียนของเทศบาล มาเปลี่ยนเป็นห้องสมุดในปี ค.ศ. ๑๙๙๒ ล่ะ





สำหรับตอนหน้าเราจะพาไปเดิน Food Street ถนนสายอาหารที่ขึ้นชื่อในเกาะไทปาล่ะ ว่ากันว่าบางร้านมีอายุถึง ๑๕๐ ปีเลยล่ะ