โอ้ว.. ตั๋วแพงเชียวรอบละ 33 เหรียญ  825 บาทเลยทีเดียว ตอนแรกจะซื้อดิวมาแล้วแต่กลัวเวลาไม่มาเสี่ยงเอาดาบหน้าดีกว่า
พอมาถึงที่แล้วอ่ะ .. "เจ้เอาไงดีอ่ะ ค่าตั๋วอย่างแพงเลย?"
 เจ้บอกแล้วแต่เลยพี่ยังไงก็ได้ .. ยังกะเสียงสวรรค์มาแล้วไม่ขึ้นไม่ใช่ภัทรานิตย์แล้วล่ะ 555



เจ้เข้าแถวซื้อตั๋วเลยพอได้ตั๋วแล้วก็เดินไปตามป้ายบอกทางจนเข้าห้องสแกนเนี่ยแหละ





ของในกระเป๋าก็จะถูกแสดงอยู่บนจอนี่แหละ แหม..รู้หมดเลยว่าในกระเป๋าใครมีอะไรกันบ้าง
จากนั้นก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของ Singapore Flyer แห่งนี้





















เดินตามเส้นทางมาเรื่อยๆ ก็มาเจอจุดขึ้นชิงช้าสวรรค์แล้ว โอ้ว..คุณพระนึกว่ามันอันเล็กๆ อันใหญ่เว่อร์
ความจุได้ 20 คนสบายๆ เลยทีเดียวใหญ่เบิ้มขนาดนี้



เค้ามีตู้สำหรับดินเนอร์ด้วยล่ะ จุได้ประมาณ 3 โต๊ะ มันฟินเนอะทานข้าวท่ามกลางบรรยากาศสิงค์โปร์
ราคาก็แพงเอาเรื่องเลยล่ะ แต่ก็คุ้มค่านะถ้าแบบอยากมาสวีทกันสองคนไรงี้ อิอิ
เอาล่ะนั่นเป็นเรื่องของคนมาเป็นคู่เค้า มาตู้เราดีกว่า ได้ขึ้นแล้นนน !!



โปรดสังเกตุว่าเครื่องจักรมันใหญ๋มาก ล้อหมุนเนียยังกะล้อแทรกเตอร์เลยอ่ะใหญ่เบิ้ม
กะลังจะลอยขึ้นไปแล้ววว ตื่นเต้นจัง









ชิงช้าสวรรค์เริ่มหมุนขึ้นไปเรื่อยๆ ขอบอกเลยว่าใครที่กลัวความสูงขึ้นเลยค่ะ คือมันค่อยๆ หมุนนิ่งมากอ่ะ
อารมณ์เหมือนเรานั่งทำงานในห้องมีวิวสวยๆ อยู่ข้างนอกอ่ะ จขบ.ก็เดินไปมาหามุมถ่ายรูป ปกติเป็นคนกลัวความสูงนะ
แต่ขอบอกว่าชิวมากอ่ะ คือมันไม่น่ากลัวเหมือนชิงช้าสวรรค์บ้านเราที่แกว่งไปมาอ่ะ 

มันนิ่งและหมุนช้ามากเรียกว่าไม่รู้สึกถึงความสูงเลย





























พอพวกเราเดินลงมาจาก Singapore Flyer จุดต่อไปที่พวกเราจะไปต่อนั่นคือ Super Tree
นี่ก็จะสามทุ่มแล้วหาได้แคร์ไม่พวกเรายังคงมุ่งหน้าเดินกันต่อไปอย่างมิหยุดยั้ง
มาแล้วนี่จัดให้ครบ ไว้มาต่อกันตอนหน้านะคะ

Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com
Facebook : Patthanid FC