ตอนที่แล้วพวกเราไปเดิน ตะลุยฮานอย กันมาแล้ว ตอนนี้พวกเรามาถึงจตุรัสบาดิงห์แล้วค่ะ ดูแผนที่จากโรงแรมมาที่นี่ก็ไกลเอาเรื่องอยู่นะ แต่เดินเพลินๆ ชมเมืองแบบพวกเราก็ถือว่าไม่ไกลมากนักนะในความรู้สึก (ของตัวเอง) พอมาถึงโอ้.. จะกว้างไปไหนเนี่ย เสาธงงี้ใหญ่มากอ่ะ เค้าบอกว่า ที่นี่เป็นที่ที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวันที่วันเดียวกับที่ท่านได้เสียชีวิตในอีก 34 ปีต่อมา (ปี 2512) ตอนนี้ทหารกำลังเปลี่ยนเวรพอดีเลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบอกว่าอยู่ตรงจตุรัสแห่งนี้เกือบครึ่งชั่วโมงเลยเหอะ ถ่ายมันอยู่นั่นอ่ะทุกซอกทุกมุม แดดร้อนเปรี้ยงๆ ก็ไม่ถอยจนกว่าจะได้มุมที่ถูกใจ ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตเรียกว่าทุกทัวร์มาเมืองฮานอย ยังไงก็ต้องมาแวะชมที่นี่ ที่เห็นเป็นอาคารที่เขียนว่า Ho-Chi-Minh นั้นคือสุสานโฮจิมินท์ มีชื่อในภาษาเวียตนามว่า " Lang Chu Tich Ho Chi Minh" ภายในอาคารแห่งนี้จะพบกับศพของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ อาบน้ำยาอยู่ในโลงแก้ว ซึ่งว่ากันว่าขัดต่อความต้องการของท่านโฮจิมินห์ที่ท่านต้องการให้เผาร่างเมื่อตายลง

จากเท่าที่ จขบ. อ่านข้อมูลเหมือนในอาคารนี้เคยเปิดให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชมด้วยล่ะ แต่วันที่ จขบ.ไปดูยังไงอาคารนี้ก็เข้าไปไม่ได้อ่ะ ไม่แน่ใจว่าเค้าเปิดเป็นเทศกาลหรือว่าเคยเปิดแต่ไม่เปิดให้เข้าชมแล้ว อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะ เอาล่ะพอถ่ายรูปกันเสร็จพวกเราก็เดินไปสุดกำแพงจนพบกับป้าย "Ho Chi Minh's Memorial Site" ก็เลี้ยวซ้ายไปตามทางเลย หากไม่แน่ใจก็ใช้วิธีสังเกตุจากคณะทัวร์ค่ะ เค้าเดินไปไหนก็เดินตามเลยค่ะ

ที่นี่เป็นเหมือนบ้านและที่ทำงานเก่าของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินท์ค่าเข้าคนละ 25,000 ด่อง เอานะตั้งใจมาแล้วไม่เข้าได้ไงล่ะ พวกเราสองคนก็จ่ายไป 50,000 ด่อง มีตั๋วแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ ขอบอกว่าทางเข้าเข้มงวดมากมีเครื่องสแกนด้วยแต่พวกเราก็ผ่านฉลุยอยู่แล้ว

พอผ่านเครื่องสแกนออกมาก็จะพบกับอาคารสีเหลืองเด่นสง่า ที่นี่เป็นที่ทำงานของท่านโฮจิมินห์ซึ่งเค้าไม่อนุญาตให้เข้าไป อนุญาตให้ถ่ายรูปตรงจุดนี้เท่านั้น แต่กว่าจะถ่ายได้เนี่ย รอคิวกันไปเหอะ ยิ่งถ้ามาพร้อมกรุ๊ปทัวร์นะรอนานมาก แต่ก็ได้ถ่ายจนได้ จากนั้นพวกเราก็เดินต่อตามเส้นทางที่กำหนดจนมาเจอห้องน้ำค่ะ ทางลงดูน่ากลัวอ่ะแต่สะอาดมาก

 

จากนั้นจะเข้าสู่บริเวณอาคารสีเหลืองไม่สูงมากนัก ตรงนี้มีจัดแสดงรถของท่านโฮจิมินห์ด้วยล่ะ แต่ละรุ่นเนี่ยเก่าทีเดียวแต่สภาพยังใหม่กิ๊กทุกคันเลยอ่ะ จัดแสดงไว้ในห้องกระจก จากจะเข้าสู่บริเวณบ้านและที่ทำงานของท่านโฮจิมินห์ค่ะ

จากนั้นพวกเราเดินไปยังบ้านพักอีกหลังของท่านโฮจิมินห์ มองมาเห็นบ้านสีเหลืองสวยอ่ะ เนื่องจากตรงกลางระหว่างบ้านสองหลังมีสระน้ำขนาดใหญ่ ที่ดูแล้วร่มรื่นมากๆ จขบ.เดาว่าตอนที่ท่านอยู่ที่นี่น่าจะมีความสุขมากๆ อ่ะ เอาล่ะเข้าไปดูบ้านอีกหลังของท่านกันดีกว่าค่ะ

บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้น ออกแบบได้อย่างเรียบง่ายเน้นพื้นที่ใช้สอย เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็เป็นงานไม้ทั้งหมด แบบบ้านก็เน้นความโปร่งโล่งเย็นสบายด้วยสายลมที่พัดผ่าน น่าอยู่มากๆ ค่ะ ทำให้รู้สึกว่าท่านเป็นคนเรียบง่ายดีอ่ะ เอาล่ะไปชมส่วนอื่นๆ กันต่อค่ะ

อาคารสีเหลืองที่เห็นอยู่นั้นเป็นสถานที่ขายของที่ระลึกค่ะ มีให้เลือกเพียบไม่ว่าจะเป็นงานแฮนด์เมค ข้าวของเครื่องใช้ สินค้าที่ระลึก และอาหารขึ้นชื่อของเวียตนามเหมือนขนมกวนทานกับน้ำชาอ่ะ พวกเราเดินต่อไปอีกก็จะเจอกับทางออกซึ่งเป็นด้านหลังสุสานโฮจิมินห์แหละ

พวกเราเดินไปนั่งใต้ต้นไม้ แบบว่าไม่ไหวแล้วอ่ะขอพักขาบ้างไรบ้าง แต่ตรงที่พวกเราไปนั่งโครตชิวเลยอ่ะ คือเค้าเปิดเพลงบริเวณนี้ด้วย ฟังแล้วดูเศร้าๆ อ่ะแต่ไพเราะดีนะ ตอนี้ไม่ไหวจะเคลียแล้วอ่ะ เมื่อยมากเลยมานั่งยืดขากันอย่างที่เห็นค่ะ เพลานี้เดินเยี่ยงนี้น้องคร็อกก็เอาไม่อยู่อ่ะ แถม จขบ. เพิ่งไปถอยมาใหม่ด้วยกัดกระจายเลยเหอะ ไว้มาต่อตอนหน้านะคะปิดทริปมหากาพย์แล้วจ้า