bloggang.com mainmenu search
ตอนที่แล้วเล่าถึงพวกเราเดินลงจาก พระธาตุอินแขวน ตอนประมาณแปดโมงเช้ามาถึงข้างล่างก็ราวๆ เก้าโมงเช้า เดินกันตัวปลิวเชียว เพราะขาลงจ้างลูกหาบแบกสัมภาระของพวกเราลงมา เสียค่าใช้จ่าย 4000 จ๊าด





พี่ลูกหาบมาถึงก่อนเราอีกเหอะ เรียกว่ามายืนรอพวกเราลงกันเลยทีเดียว น่าสงสารแกชะมัด ของพวกเราหนักมากอ่ะ แถมดันไปต่อราคาแกอีก สุดท้ายพอลงมาก็ให้ติ๊บแกไปอีก ด้วยความสำนึก





แล้วก็มานั่งรอรถปรากฏว่ารถเที่ยวแรกออกไปแล้ว ก็ต้องรอรถรอบต่อไป พวกเราก็นั่งรอแล้วรอเล่า รถก็ไม่มีวี่แววจะออกเสียที ถามคนคุมรถก็บอกว่าอีกชั่วโมงออก จนประมาณจะเที่ยงแล้วอ่ะก็ยังไม่ออกสักที ไปกินแฟดีกว่า







ปาท่องโก๋ที่นี่ตัวใหญ่มากอ่ะ ทั้งหมดจานนี้ก็ 800 จ๊าด กาแฟ 1500 จ๊าด ปาท่องโก๋ใช้ได้เลยแหละ ก็นั่งกินกันไป จนอีกกลุ่มมาจอยด้วยนั่งกินรอเวลากันไป พวกเราก็ไปถ่ายรูปเล่นรอกันไป





แล้วน้าเหี่ยวก็ใช้มุกเดิม คือให้พม่าช่วยสอนวิธีนุ่งโสร่ง แล้วก็นั่งเลียนแบบพม่าที่มารอขึ้นรถเหมือนพวกเรา





ระหว่างที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเราไปดูวิถีชีวิตคนแถวนี้กันบ้างดีกว่า เรารู้สึกสะดุดตากับการตากผ้าของที่นี่มากอ่ะ







ตากกันอย่างนี้เลยทีเดียว ไม่เข้าใจว่าจะซักทำไมเนี่ย คนที่นี่นิยมดื่มกาแฟกันทุกเวลา เรียกว่าว่างก็นั่งดื่มกาแฟกินกันทั้งวันเลยมั้งเนี่ย และพฤติกรรมอีกอย่างที่น่าสนใจ คือเค้าสามารถนั่งรถชาวต่างชาติได้ทั้งวันด้วยเช่นกัน

เพราะตอนนี้พวกเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่า การที่พวกเรานั่งรอกันแบบชิวๆ เนี่ย เค้าตั้งใจให้พวกเราเหมารถลงจะได้ขอขึ้นด้วย ซึ่งพวกเราก็เลยเอาสิ รอได้รอไป ไม่เหมาเฟ้ย ระหว่างที่รอก็มีคนมาเจรจาต่อรองอยู่เป็นระยะๆ ว่าพวกพม่าจ่ายเท่านี้แล้วพวกเราจ่ายที่เหลือ เอาหรือเปล่าอะไรประมาณนี้

จนชักเอ้ยไม่ลงกันหรือไงฟ่ะ รถพอหมดรอบเช้าแล้วก็หมดเลยหรือไงเนี่ย จนมีนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกกลุ่มมาเพิ่ม 4 คน การเจรจาต่อรองจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง



สุดท้ายก็เจรจาเหมารถอยู่ดีนั่นแหละ โดยจบที่ราคาคนละ 3000 จ๊าด จากราคาปกติ 1500 จ๊าด กลุ่มเราทุกคนนั่งข้างหลังหมด ส่วนอีกกลุ่มนั่งหน้าทั้งๆ ทีก็เสียราคาเท่ากับพวกเรา แล้วก็มีพม่าขึ้นมาแจมด้วยในราคาที่ถูกกว่าพวกเรา



ดังนั้นใครที่มาไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็พยายามเกาะกลุ่มกันไว้ตั้งแต่ด้านบน แล้วลงมาพร้อมกันจะได้มีรถลงไม่งั้นจะเป็นเหมือนพวกเรา ผิดแผนหมดเลยอ่ะ แต่ถ้าให้เดินเท้าลงมาก็ไม่ไหวนะ ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว



พวกเราลงมาตอน 12.20 น. มาถึงข้างล่างจุดขึ้นรถขนหมูก็ 13.20 น. ชั่วโมงเต็มๆ เลยทีเดียว ก่อนอื่นก็มองหาเว่นก่อนเลย พวกเรานัดเว่นมารอสิบโมงเช้า เลยเวลามาเกือบสองชั่วโมงกว่าแนะ ปรากฏว่าเว่นก็รอเราอยู่ที่ร้านอาหาร พวกเราเลยทานอาหารกันที่ร้านนี้เลย



ที่สำคัญตอนนี้ตังค์หมดแล้วด้วยอ่ะ เว่นเหมือนรู้เลยอ่ะให้พวกเรายืมเงิน 100,000 จ๊าดก่อน ใจดีเป็นบ้าอ่ะ เริ่ดไหมล่ะพวกเรายืมตังค์คนขับรถอีกต่างหาก สั่งข้าวกันดีกว่ามีตังค์เป็นแสนแล้วนี่.. อิอิ















อาหารร้านนี้อร่อยใช้ได้เลยอ่ะ จัดเต็มอย่างละ 2 ชุด เก๋ตรงน้ำปลาพริกนี่แหละ จัดสวยเชียว บอกแล้วคนไทยมาเยอะ น้ำปลาพริกพร้อม



มื้อนี้ก็จ่ายไป 25,500 จ๊าด ถือว่าคุ้มค่าราคาที่เสียไป หรือว่าพวกเราหิวกันฟ่ะ แต่บิลที่นี่อลังการมากอ่ะ พิมพ์สีเสียด้วย พอทานกันเสร็จพวกเราก็ออกเดินทางกันเลย

เท่าที่ถามเว่นมา พวกเราเหลือเวลาไม่มากนัก จะไปเที่ยวหงสาได้ทันไหม เว่นบอกว่าสบายเวลาพอ แต่ถ้าหลังสี่โมงไปแล้วส่วนที่เป็นราชการจะปิดนะ โอเค เมื่อไกด์เราบอกว่าใช้เวลาไม่นานในหงสา แผนที่เราวางไว้จึงถูกจัดเต็มเหมือนเดิม พวกเราออกเดินทางเวลา 14.20 น.



















ตลอดการเดินทางอันยาวนาน เรียกว่าหลับแล้วหลับอีกก็ยังไม่ถึงเสียที เราสังเกตุเห็นที่นี่ยังกะอยุธยาบ้านเราเลยแฮะ แต่ทำไมต้องพายเรือออกจากบ้านฟ่ะ นั่งรถไปเรื่อยก็มีคำตอบว่า ที่นี่น้ำท่วมนั่นเอง

จากทุ่งนาเข้าสู่เขตเมืองหงสา ถนนหนทางที่นี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าใครที่เคยอ่านตอนมหานครย่างกุ้งมาแล้ว จะไม่แปลกใจหรอกที่เห็นถนนสภาพแบบนี้ เอาล่ะตอนนี้ 16.20 น. แล้ว พวกเรามาถึงหงสาแล้วล่ะ เอาไว้มาต่อตอนหน้านะคะ
Create Date :15 สิงหาคม 2554 Last Update :25 สิงหาคม 2554 18:54:59 น. Counter : Pageviews. Comments :2