bloggang.com mainmenu search
ตอนที่แล้วเล่าถึง มหานครย่างกุ้ง เรื่องยุ่งๆ กับการแลกเงินกันไปแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงที่สมาชิกในทริปของเรา กลุ่มที่สองไฟท์เย็นจำนวน 7 คนเดินทางมาถึง มารถตู้ดีเชียว ผิดกลับพวกตรูเล้ยยย







แหม.. มีน้ำมะนาวมาเสริฟ์ด้วยอ่ะ หน้าตาเบิกบานกันเชียว หิวกันอะดิ๊ อิอิ มาเย็นไม่มีอาหารเช้าเลี้ยง แต่ครั้นจะเดินออกไปข้างนอกตอนนี้ก็เริ่มปิดกันหมดแล้ว สุดท้ายก็สูตรเดิมอาหารโรงแรมนี่แหละ จขบ. สั่งชุดไก่ทอดอะไรสักอย่างนี่แหละ มันฝรั่งกินเพลินเชียว กับข้าวที่นี่ก็ตกจานละ 2500 - 3000 จ๊าด







ตบท้ายด้วยเมี่ยนม่าเบียร์ ตอนแรกทุกคนก็มีเงินจ๊าดที่ฝากกันมาแลกแล้วแบ่งกันเต็มกระเป๋า มาหมดก็ตอนนี้ล่ะ โดยเฉพาะอีน้าเหี่ยวหมดไม่พอเป็นหนี้กันตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว แล้วคืนที่หนึ่งในมหานครย่างกุ้งก็ผ่านไป

เช้าวันที่ 3 ก.ค. 2554 ตื่นกันหรือยัง เสียงซังกุงปกครองเพื่อนแก้วเดินไล่ปลุกก๊อกๆ กันทุกห้อง ทุกคนพร้อมทานอาหารเจ็ดโมงเช้านะ







ในบรรดาทั้งหมดเลือกอาหารเช้าแบบอเมริกัน มี จขบ. กับเพื่อนแก้วที่เลือกอาหารเช้าแบบพม่า แหม.. มาทั้งที่มันต้องลองอาหารพื้นบ้านของเค้าจริงป่ะ







ว่าแต่รอนานจังอ่ะ จนพวกที่ทานอาหารปกติกินจะอิ่มกันหมดล่ะ โดยเฉพาะน้าเหี่ยวกินได้เละจริงๆ แม่เจ้า.. มันเล่นใช้มือจับเนยถูบนขนมปังเลย เพื่อนๆ ถึงกับเฮ้ย .. (เมิงทำไรเนี่ย) น้าเหี่ยวนี่แกแกล้งทำหรือเปล่าวะ ตรูเริ่มแยกไม่ออกในพฤติกรรมของมันแล้วอ่ะ (ระหว่างมันไม่รู้หรือมันแกล้ง) เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน มัวแต่งงอยู่ว่ามันทำอะไรของมันฟ่ะ

พอมองน้าเหี่ยวกันได้สักพักอาหารแต่ละจานที่สั่งก็ทยอยมา จานแรกเป็นผัดเส้นพม่าอะไรสักอย่างเผ็ดๆ หน่อย ส่วนอีกจานเป็นโรตีที่เค้าใช้ทานกับถั่วต้ม รสชาติมันๆ เค็มก็อร่อยแปลก สรุปแล้ว "ถั่วต้ม" กินอาหารปกติดีสุด อิอิ

ระหว่างที่นั่งทานกันอยู่นั้น เสียงเอ็มมี่ก็มาเรียก "ป้าๆ ถ่ายรูปยังพระบิณฑบาตร" วิ่งก่อนเลยตรู ลืมนึกแล้วมันแปลกตรงไหนฟ่ะ







พม่าคงงงอ่ะ พวกนี้มันถ่ายรูปอะไรกัน จากนั้นก็ได้เวลาเตรียมตัวไปบะโกกันแล้ว เพราะนัดคนขับรถไว้แปดโมง นี่แปดครึ่งล่ะยังไม่ได้ออกกันเลย โดยเฉพาะน้าเหี่ยวช้าตลอด เพราะต้องนั่งอี้ทุกเวลาอ่ะ







จากนั้นเว่นก็พาเราไปแวะแลกเงินอีกครั้งที่บาโจ๊ะออซาน ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยที่นี่ปิดไฟกันมืดเลย โชคดีที่พวกเรามาเจอ "อารีย์" พูดภาษาไทยได้ด้วย แต่ก็จะงงๆ เล็กน้อย ถามว่ามีแบงค์ไหม ทำหน้าไม่เข้าใจ ธนาคารนะมีหรือเปล่า อ้อมีๆๆ ทานาคาอ่ะ แต่พอคุยไปคุยมาเอ้ย เข้าใจผิดแล้ว

อารีย์บอกว่าที่นี่ไม่มีธนาคารรับแลกเงินหรอก แล้วอารีย์เอาไปแลกที่ไหนอ่ะ น่านไม่ยอมบอกด้วยวุ้ย สงสัยกลัวมาทำเป็นคู่แข่ง อิอิ อารีย์กด Rate ให้พวกเราเหมือนกับที่มาแลกครั้งก่อนเลย 100$ แลกได้ 790 จ๊าด แถมเอาเงินไทยแลกได้อีกด้วยนะ 40 บาท = 790 จ๊าด พวกเราควักเงินไทยแลกกันใหญ่เลยที่นี้ สรุปสุดท้ายพวกเรามีเงินถึง 232,000 จ๊าดอ่ะ รวยวุ้ย





พอเสร็จธุระเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็เดินทางกันต่อ ณ เมืองย่างกุ้งใช่ว่าจะมีแต่รถเก่าๆ นะ รถใหม่ๆ เค้าก็มีแต่แบบนำเข้าไปเลยอ่ะ และที่นี่ไม่มีมอเตอร์ไซค์นะ ใช้แต่จักรยาน ออกนอกเมืองไปนู้นแหละถึงจะให้ใช้มอเตอร์ไซค์



ระหว่างเมืองก็จะมีทั้งรถประจำทางและรถเมล์สองแถวบ้านเราไว้คอยให้บริการ หากใครไม่ได้เหมารถเหมือนพวกเราก็ลองไปใช้ดูนะคะ ราคาก็ไม่ได้แพงมากมายด้วย แต่แค่สื่อสารกับเค้าให้รู้เรื่องเป็นพอ



แต่ละเขตที่ผ่านดูเหมือนจะมีการเสียค่าผ่านทางด้วยล่ะ จะว่าเป็นทางพิเศษก็ดูจะไม่ใช่ เพราะมันก็ทางวิ่งธรรมดานี่แหละ มาดูกันว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร



ระหว่างทางเว่นแจกขนมขบเคี้ยวให้พวกเราทาน อ้อ ลืมแนะนำ "มิสเตอร์เว่น" ที่เป็นทั้งคนขับรถและไกด์ และท้ายที่สุดกลายมาเป็นเจ้าหนี้เราอีกต่างไว้จะเล่าที่มาในตอนต่อไป อิอิ

ขนมที่เว่นแจกเป็นเหมือนตุบตับบ้านเราอ่ะ แต่อร่อยกว่าเพราะกรอบดี มันผลิตจากเมืองมันดาเลย์ล่ะ พวกเราจำกันใหญ่เลย เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่ามันจะเป็นของฝากจากพวกเรานั่นเอง









เว่นขับรถมาได้สักระยะก็พาแวะเข้าห้องน้ำกลางทาง แปลกดีเว้ยทำเป็นห้องน้ำไว้บริการเลยอ่ะ ไม่ได้ฟรีนะคะ ผู้หญิง 300 จ๊าด ผู้ชาย 100 จ๊าด แต่สะอาดโอเคเลยอ่ะ จากนั้นขับมาได้สักพักก็เข้าเขต The Gloden City (Kamboza Thardi) แล้ว









เว่น ถามพวกเราว่าไปพระฉันข้าวกันไหม เอาไงดีไหนๆ ก็มาแล้วแวะดูหน่อยก็แล้วกัน เค้าบอกว่าที่นี่พระฉันกันทีเป็นร้อยรูปเลยทีเดียว ไปดูกัน





พอลงรถก็มีไกด์พม่า ขอบอกว่าพูดไทยชัดแจ๋วมาพาพวกเราไปดูพระฉันข้าวด้านใน ซึ่งให้เข้าไปเดินถ่ายรูปได้ด้วยนะ ส่วนใครจะทำบุญก็ใส่เงินในขันที่พระท่านมาวางไว้









ในแต่ละวันต้องหุงข้าวกันหม้อขนาดนี้ 2 หม้อ (หม้อกลมๆ ใหญ่ๆ นั่นแหละ) กับข้าวก็อย่างที่เห็น ดังนั้นการทำบุญก็ที่นี่ก็เป็นการช่วยค่าใช้จ่ายในวัดแห่งนี้แหละ



พอฉันเสร็จพระท่านก็เดินแยกย้ายกลับกุฏิ ส่วนพวกเราตอนนี้ก็เดินถ่ายรูปพร้อมกับมีไกด์พม่าเดินประกบอย่างใกล้ชิด กลุ่มเดิมนั่นแหละมาขายโปสการ์ดและสแตมป์ ซื้อเป็นแผ่นก็ไม่ไห้นะ ต้องซื้อเป็นชุด พี่อ้วนโดนไปชุดละ 200 บาทไทย ส่วน จขบ. ซื้อแสตป์ดวงละ 20 บาท ไกด์พม่าบอกว่าติดโปสการ์ดแล้วถึงเมืองไทยแน่นอน



พอจะขึ้นรถแล้วก็มีเด็กมาขายอีก เหลือ 150 บาทมั้ง เหอๆๆ เมื่อกี้ซื้อสองร้อย เดี๋ยวข้างหน้าเหลือ 50 บาทแน่ๆ แล้วมาค่อยดูกัน จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อผ่านแม่น้ำสะโตนสะพานยาวเชียวล่ะ





แต่ก่อนจะข้ามไปรถพวกเราโดนเรียกล่ะ ไม่รู้ว่าโดนเรื่องอะไร แต่รู้ว่านานเอาเรื่องอ่ะ จนน้าเหี่ยวต้องลงมายืดเส้นยืดสาย เดินเป็นชาวพม่าเลยเพื่อนตรู



สงสัยพี่แกอยากจะอยู่พม่ายาวมั้งเลยทำตัวกลมกลืนสุดๆ อ่ะ พอเคลียได้เว่นก็ขับรถต่อไปอีกจนมาถึงจุดแวะทานเข้า จะกินกันได้ไหมน้า ..











พอเข้ามาในร้าน ว้าว.. ได้เจออาหารเผ็ดๆ แล้ววุ้ย ออกแนวเหมือนอาหารใต้บ้านเราอ่ะ หนักเครื่องเทศ แจ่มเลย พวกเราก็ชี้ๆ กันใหญ่ จัดเต็ม



บนโต๊ะเค้าก็จัดน้ำพริกพร้อมผักสดให้เรียบร้อย ออกแนวน้ำพริกสี่ภาคเลยอ่ะ อ่านจากหนังสือของ อ.ยิ่งมา เค้าบอกว่าที่นี่นิยมทานน้ำพริกที่ทำจากปลาหมัก เรียกว่า "งาปิ๊" ทานกับผักสด เราว่าที่เค้าจัดมาต้องมีสักอันแหละ



น้ำพริกถ้วยแรกเหมือนน้ำพริกมะขามบ้านเราเลยอ่ะ รสชาติออกเปรี้ยว ทานกันผักสดอร่อยง่ะ



อันนี้เหมือนน้ำพริกเผาทางเหนืออ่ะ เผ็ดๆ แต่ก็อร่อย อืม ใช้ได้เลยนะกินกับข้าวร้อนๆ เนี่ย



ส่วนอันนี้ก็เหมือนกาน่าไช่บ้านเราอ่ะ อร่อยดีเหมือนกัน และอันสุดท้ายนี่แหละงาปิ๊ของแท้ อารมร์เหมือนน้ำบูดูของภาคใต้เลยอ่ะ





ที่นี่เด็กเสริฟ์บริการดีมากเลยอ่ะ เค้าบอกว่าเอ็มมี่อ่ะ Very fat เล่นเอาฮากันทั้งโต๊ะ ส่วนน้าเหี่ยวให้เค้าสอนนุ่งโสร่งมุกเดิม ด้วยความน้าเหี่ยวมันลงพุงเค้าเลยบอกว่า ต้องไปออกกำลังกายมั้ง ฮากันได้อีก เออวะ พม่ามีแต่คนผอมๆ ไม่ค่อยเห็นมีอ้วนๆ เลยอ่ะ



พอทานอาหารกันเสร็จก็ตามด้วยผลไม้ โห .. ล้วนแล้วแต่ของไม่โปรดของ จขบ. ส้มโอ มะละกอ มะม่วงงี้ จัดเต็ม เออที่นี่แปลกไม่กินมะม่วงดิบกินแต่สุกๆ กันอ่ะ เอาล่ะได้เวลาเช็คบิล



กรี๊ด ... บิลอยู่ในมือ จขบ. ถึงกับจะเป็นลม ตาย.. แล้วกรู แลกตังค์กันมาแค่ 232,000 บิลในมือ 226,001 เกือบหมดตัวเลยดิตรู หน้าซีดเลยช้าน ..โอ้ยตรูจะเป็นลม .. เอ้ย ป้าๆ ดูดีก่อนน้องๆ บอกว่าเอ้ยดูในวงกลม มันแค่ 22,600 โอ้ย .. เล่นเอาตรูเสียวสันหลังวาบเลย นึกว่าต้องล้างจานที่นี่แล้ว แต่เรื่องราวความสนุกยังไม่หมดแค่นี้ ไว้ต่อกันตอนหน้านะจ๊ะ
Create Date :28 กรกฎาคม 2554 Last Update :25 สิงหาคม 2554 18:47:03 น. Counter : Pageviews. Comments :7