bloggang.com mainmenu search
จากตอนที่แล้ว Mongkok Station เช้าวันสุดท้ายของทริปก็มาถึง สำหรับวันนี้เราสองคนตื่นกันตั้งแต่แปดโมงเช้าเลยล่ะ พอเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยก็คืนห้อง ก็เจอกับกลุ่มคนไทยที่มาพักใหม่เค้าเพิ่งเดินทางมาจากเซินเจิ้นล่ะ เห็นเค้าบอกว่าตอนนี้เซินเจิ้น 10 องศาล่ะ เรารู้สึกดีจังที่เวลามาเที่ยวต่างแดนแล้วเจอคนไทยที่ทักทายกันด้วยมิตรไมตรี แบ่งปันและแชร์ข้อมูลกันแบบนี้ ค่อยเป็นนิสัยคนไทยหน่อย

จากนั้นพวกเราก็ออกจากที่พักลากกระเป๋า Go to Mongkok Station เพื่อไปต่อยังสถานี Koaloon Tong ซึ่งตามข้อมูลที่ศึกษามาเค้าให้คืนบัตร Octopus ที่สถานีนี้ ไอ้เราก็งงตรูจะคืนยังไงวะ ยังไม่ได้ออกเลย ก็เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่สถานี เค้าบอกว่าไปคืนที่ Lowu ได้ เราสองคนก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนก็เดินไปตามทางที่เขียนว่าไป Lowu งานเข้าแล้วสิตรู แล้วไอ้ Lowu มันไปทางซ้ายหรือขวาฟ่ะ



สุดท้ายก็ต้องถามคนแถวนั้นว่า Lowu ไปทางไหนเค้าก็เลยบอกว่ารอตรงฝั่งนี้แหละดูจากป้ายว่า ขบวนไหนไป Lowu ก็เลยถึงบางอ้อเลยเรา พวกเราก็รอได้สักพัก รถไฟ KCR มาล่ะ



จากสถานี Koaloon Tong ไป Lowu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงล่ะ เรียกว่านั่่งหลับได้สบายเลยแต่ไม่กล้าหลับอ่ะ อย่างว่าแหละต่างที่ก็ต้องระวังหน่อยอ่ะนะ ก็นั่งดูทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ นั่นล่ะ แล้วก็มาถึงทาง Lowu แล้ว เย้ๆๆๆ





มาถึงเราก็เดินตามเข้าไปนั่นล่ะ พอผ่านประตูออกมาก็คืนบัตรก่อนเลย สถานที่คืนบัตรก็อยู่ใกล้ๆ ทางออกสถานีรถไฟนั่นล่ะ จากนั้นก็เดินเข้ามาสู่ด่านอรหันต์ที่อ่านจะกระทู้พันธ์ทิพย์เค้าบอกว่า ด่านนี้ตรวจเยอะมาก แต่พอมาถึงจริงๆ ไม่อรหันต์อย่างที่คิดแฮะเพราะตรวจเร็วมากๆ ก็ผ่านฉลุยก็นะหน้าตาเราออกจะเหมือนอาหมวยที่นี่มั้ง

ว่าแต่ตอนนี้เริ่มอยากเข้าห้องน้ำล่ะ หาห้องน้ำก่อนดีกว่า สุขาอยู่หนใดหนอ กรี๊ด นี่มันห้องน้ำเหรอวะเนี่ย โหนี่ขนาดห้องน้ำหน้าด่านนะเนี่ย ประตูแห่งความเป็นหน้าเป็นตา โหใช้ส้วมแบบนั่งหยองๆ อ่ะ งงไปเลยตรู แต่ไอ้ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ กลิ่นไม่โสภาเอาเสียเลย เฮ้อ

จากนั้นภารกิจต่อไปของพวกเราก็คือ "หาที่ฝากกระเป๋า" ในห้อง BP บอกว่า อยู่แถวๆ ทางออกนี่ล่ะ เดินวนไปก็วนมามันอยู่ไหนฟ่ะ จนแล้วจนรอดก็หาเจอ คือจาก ตม. ในลงมาหนึ่งชั้น อยู่ติดกับทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินเลยล่ะ



โดยที่รับฝากกระเป๋าจะมีด้วยกัน 3 ขนาดคือ เล็ก 5 CNY กลาง 10 CNY และใหญ่ 20 CNY ซึ่งจะรับฝากตั้งแต่ 9.30 - 22.00 น. เราเช็คระบบล็อกเค้าก็โอเคเลยล่ะ รับรองว่าของไม่หายแน่ๆ พวกเราเลือกไซค์ใหญ่สุดเพราะกะว่างานนี้ช็อปกระจายแน่ๆ

จากนั้นก็ออกมานอกอาคาร อากาศหนาวจริงวุ้ย ดีนะที่ไม่มีฝนเลยวันนี้ ทริปนี้เจอฝนตลอดเลยตั้งแต่มาเก๊าข้ามมาฮ่องกง ฝนทั้งนั้นผิดแผนหมดเลย ดีนะมาเซินเจิ้นไม่เจอฝนอีกอ่ะ





พอออกจากอาคาร ตม. ทางด้านขวามือมันคือห้าง LoWu ที่ใครๆ ต่างพากันมาช็อปปิ้งสินค้าก็อปปี้แบรนด์เนมอันลือชื่อ ดูไปดูมาเหมือนมาบุญครองบ้านเรานั่นล่ะ



หากมองมาทางด้านซ้ายจะเห็นตึกใหญ่อยู่ตรงข้ามห้าง LoWu เป็นโรงแรมยอดฮิตของห้อง BP นั่นก็คือโรงแรมรถไฟที่ใครๆ แนะนำกัน เพราะว่ากันว่าสนนราคาห้องต่อคืนสบายกระเป๋าเมือเทียบกับขนาดห้องแตกต่างกับฮ่องกงฟ้ากับเหวเลยล่ะ ราคาประมาณคืนล่ะ 1,200 บาทแหละ





เดินดูข้างนอกกันได้สักพักพวกเราก็เดินเข้าไปห้าง LoWu กันล่ะ ซึ่งก็ไม่แปลกใจนักว่าทำไมที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของนักช็อป เพราะตระการตามากๆ เลยล่ะ ว่าแต่หิวแล้วอ่ะไปอะไรกินดีกว่า แต่กว่าจะได้กินก็วุ่นวายเอาเรื่องเหมือนกันนะ คือว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามจะเชิญชวนพวกเราเข้าไปดูของที่ร้าน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเดินเข้ามาปุ๊บมีคนตามประกบเลยล่ะ เราก็เลยบอกเค้าว่าเดี๋ยวไปดู ขอไปกินข้าวก่อนเค้าก็พาเรามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแบบบริการตัวเองอ่ะ

ไอ้เราเข้ามาก็จะสั่งไงดีวะ เค้าฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง หันซ้ายหันขวามีรูปเว้ย เหมือนรู้เลยว่าต้องมีปัญหาในการสื่อสารแน่ๆ เค้ามีรูปอาหารแป๊ะข้างฝาเลย เราก็ชี้ๆ เลือกเอาแล้วก็ไปจ่ายตังค์จากนั้นจึงจะไปรับอาหาร







เราก็เลือกสั่งอาหารที่ไม่เคยทานเหมือนเดิม แหมก็นะมาแปลกที่ทั้งทีจะกินอะไรที่บ้านเรามีไมฟ่ะ ก็เลือกสั่งอะไรก็ไม่รู้รสชาติเหมือนหมูซอสมะเขือเทศ ก็อร่อยดีอ่ะ ส่วนเจ๊พู่เราสั่งข้าวหน้าหมูไก่เป็ด คือมันรวมกันหมดอ่ะ เค้าแถมซุปมาด้วย ซุปเค้าอร่อยดีอ่ะรสชาติยังกะกระเพาะปลาบ้านเราอ่ะ พอเติมพลังงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมลุยแล้วพวกเรา ตอนหน้าจะไปตะลุยแห่งช็อปปิ้งของเซินเจิ้นกันนะจ๊ะ
Create Date :29 พฤศจิกายน 2552 Last Update :29 พฤศจิกายน 2552 0:20:17 น. Counter : Pageviews. Comments :5