bloggang.com mainmenu search
จาก มาเก๊าทาวเวอร์ พวกเราดูแผนที่และสายรถเมล์แล้ว วัดอาม่า เป็นจุดหมายที่ใกล้ที่สุด พอลงจากชั้น 61 เราก็มาเดินดูของเล่นกันสักพัก ก็ออกจากตึกมานั่งรอรถเมล์





ระหว่างที่นั่งรอก็มีรถแต่งงานขับเข้ามาในตึก น่ารักชะมัดรถแต่งด้วยช่อดอกไม้แล้วมีตุ๊กตาคิดตี้ติดรอบรถเลยล่ะ พวกเรานั่งรอรถเมล์กันอยู่พักหนึ่งก็มีสาย 18 มาพอดี เพราะดูจากป้ายบอกทางตรงป้ายรถเมล์ยังไงสายนี้ก็ต้องผ่านล่ะ พอขึ้นไปได้สักพักรถก็วิ่งมาจอดที่อู่ แล้วแบบว่าจอดสนิทไม่มีการเคลื่อนไหนใดๆ เลย พวกเราจึงถึงบางอ้อ คือนี่คือสุดสายของ 18 ไม่ใช่จุดเริ่มต้น ทำไงล่ะที่นี่ สองเท้าก้าวเดินอีกแล้วตรู





พวกเราลงจากรถเมล์เดินขึ้นข้างหน้า เพราะจำได้ว่าวัดอาม่าอยู่ไม่ไกลนักจากจุดจอดรถเมล์ เดินกันไปเรื่อยๆ ก็ได้ชมวิวทะเลไปด้วยก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง





ไม่นานนักเราก็มาถึงวัดอาม่า ที่มีตำนานเล่ากันว่า ในอดีตได้มีอาม่าหรือหลิงม่า หญิงสาวจนๆ ชาวฟูเจี้ยนต้องการเดินทางไปเมืองกวางเจา จึงได้ขอโดยสารมากับเรือของชาวประมงคนหนึ่ง ชาวประมงสงสารจึงให้เธอขึ้นเรือมาด้วย ระหว่างที่ล่องเรืออยู่นั้น เกิดพายุอย่างรุนแรงทำให้เรือหลายลำอับปาง แต่เรือที่หลิงม่าอาศัยมานั้นกลับไม่เป็นอะไรเลย ทันทีที่ก้าวเข้าฝั่งหลิงม่าก็หายตัวไป สร้างความประหลาดใจให้กับชาวประมงเป็นยิ่งนัก ชาวประมงจึงเชื่อว่าหลิงม่า คือเทพธิดาแห่งท้องทะเล จึงได้สร้างศาลขึ้นตรงจุดที่หลิงม่าก้าวเท้าขึ้นฝั่ง ปัจจุบันจุดที่ตั้งศาลแห่งนี้คือวัดอาม่า หรือ A-Ma Temple นั่นเอง





ต่อมาได้มีการขนานนามพื้นที่แห่งนี้ว่า "อาหม่าเกา" มีความหมายว่าอ่าวของอาม่า หลังจากนั้นมีการอ่านเพี้ยนไปเพี้ยนมาว่า "มาเก๊า" นั่นเอง





เวลาใครมาที่นี่ส่วนใหญ่ของมาขอพร ไม่เว้นแม้แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนไทยขอบอกว่ามีข้อความภาษาไทยเยอะมากๆ อย่างว่าแหละบ้านเราเมืองพุทธนิยมชมชอบเรื่องการขอพรอยู่แล้วล่ะ







นี่ก็เป็นจุดที่หลิงม่าก้าวเท้าขึ้นฝั่ง เป็นไฮไลท์ของวัดอาม่าแห่งนี้เลยล่ะ ยังไงใครมาที่นี่ต้องมีรูปตรงนี้กับบ้านทุกรายล่ะ พอถ่ายรูปเสร็จก็เดินสำรวจบริเวณโดยรอบ เสียดายที่เรามีเวลาอยู่มาเก๊าไม่นานนัก ไม่งั้นจะขึ้นต่อไปด้านบนล่ะ เอาไว้หากมีโอกาสจะมาเก็บสำรวจใหม่นะ



ลืมเล่าให้ฟังไปว่าตอนแรกที่มาถึงเราก็หาสิงโตก่อนเลย อ่านในเน็ตคนที่เคยมาที่นี่เค้าบอกว่าต้องมาหมุนลูกแก้วที่อยู่ในปากสิงโตทางขวาสามรอบ แล้วขอพรเค้าว่าจะสมหวัง แหมไอ้เราก็เชื่อซะด้วย มาถึงก็พุ่งมาที่สิงโตเลย แต่ปรากฏว่าก็เจออย่างที่เห็น "ลูกแก้ว" ในปากหายไปไหนฟ่ะ กลายเป็นสิงโตแยกเขี้ยวอย่างที่เห็นนี่ล่ะ แต่ไม่อยากจะบอกว่าบรรยากาศที่นี่ดีมากๆ เลยล่ะ เจอคนไทยเพียบเลย สปึคไทยล้วนๆ เลยล่ะ



พวกเราเดินถ่ายรูปเสร็จก็เดินมาที่ป้ายรถเมล์ เพราะจุดหมายต่อไปของเราคือเกาะโคโลอาน (Coloane) ล่ะพวกเราจะไปตามรอยเจ้าหญิงวุ่นวานเจ้าชายเย็นชากันล่ะ





จากวัดอาม่าสามารถนั่ง 26A ข้ามฝั่งไปเกาะโคโลอานได้ล่ะ รถเมล์ที่นี่ที่กดอยู่ตรงเส้นรางที่แปะอยู่ด้านบนเวลากดก็กดเส้นสีดำ โห ไม่มีกริ่งเหมือนบ้านเรา นี่ถ้าไม่สังเกตุกดไม่ถูกเลยนะเนี่ย ค่ารถก็ประมาณไม่เกิน 8 MOP$ อ่ะ
Create Date :24 สิงหาคม 2552 Last Update :24 สิงหาคม 2552 0:05:59 น. Counter : Pageviews. Comments :2