bloggang.com mainmenu search
หลังจากที่เดินผ่านศูนย์อาหาร Maxwell ก็จะพบกับตึก The URA Centre ซึ่งอยู่ตรงกับกับศูนย์อาหารพอดีเลย พอเดินเข้ามาในตึกก็จะพบป้ายติดว่า Singapore City Gallery




เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นสองก็จะพบเคาเตอร์ City Gallery เป็นห้องจัดแสดงแผนผังของสิงคโปร์ ซึ่งบริเวณด้านในก็จัดแสดงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของสิงคโปร์ การจัดแสดงมีความทันสมัย เช่น กดปุ่มภาพในจอก็จะเป็นรูปในอดีต กดอีกทีก็จะกลายเป็นภาพปัจจุบัน ทุกอย่างทุกจัดแสดงไว้อย่างน่าสนใจโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความตื่นตาตื่นใจเข้าไปอีก







และนอกจากนี้ยังจัดแสดงแผนงานในอนาคตที่สิงคโปร์กำลังก่อสร้างอีกด้วย เช่น ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุด และโครงการจัดตั้งคาสิโน เป็นต้น



พวกเราใช้เวลาอยู่ใน Gallery แห่งนี้สักพัก ก็เดินออกมาตรงไปตามทางออกเรื่อยๆ ก็จะเจอตึกสีแดงตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นตึกที่ชื่อว่า Red Dot Design Museum ซึ่งเป็นที่รวบรวมผลงานการดีไซน์ที่ได้รับรางวัลจาก Red Dot ทั้งหมด หากใครชอบการดีไซน์ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ โดยจะเปิดทุกวันศุกร์ถึงวันอังคาร ค่าเข้าก็คนละ S$5 เหรียญ



จากนั้นเราก็เดินตรงมาเรื่อยๆ เพื่อหา MRT สถานี Tanjong Pager เพื่อไปต่อยัง City Hall ตามที่คัมภีร์บอกไว้ เพื่อจะไปต่อยังโบสถ์ St. Andrew's พอมาถึง City Hall ชักเริ่มหิวก็เจอลุมขายไอศกรีม Magnolia พอดีเลย ก็เลยแวะลองกันสักหน่อย อร่อยดีแฮะ ที่นี่เค้าไม่ใช้ขนมปังเหมือนบ้านเรา เค้าใช้เป็นเวเฟอร์แทน ก็ถือทานได้สะดวกดี



จากนั้นก็เดินกินไอศกรีมกันมาตามทางเรื่อยๆ ก็เจอโบสถ์ St. Andrew's อยู่ทางด้านซ้ายมือ ด้วยความที่กลัวร้อนก็เลยไม่ได้แวะเข้าไป ก็แอบถ่ายรูปอยู่ด้านนอก โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1838 ตามสไตล์การออกแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก ส่วนชื่อโบสถ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามนักบวชชาวสก๊อตแลนด์ เพื่อเป็นการขอบคุณพ่อค้าชาวสก๊อตแลนด์ที่ช่วยออกเงินในการก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้




จากนั้นก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะเจอห้าง Funan Digitalife Mall อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นห้างที่เรียกว่าน้องๆ Sim Lim Square เลยล่ะ เพราะเน้นขายสินค้าแบบไลฟ์สไตส์นั่นเอง แต่ก็นะเดินกันซะขนาดนี้ก็ไม่ได้แวะแค่ผ่านไปเฉยๆ



เดินตรงมาก็จะเจอถนน Coleman St จากนั้นให้เดินไปทางซ้ายเลาะกำแพงโบสถ์ St. Andrew's ไปเรื่อยๆ




ที่นี่ต้องบอกว่าบ้านเมืองเค้าสะอาดจริงๆ ขยะสักชิ้นยังไม่ค่อยมีให้เห็นเลย จากนั้นพวกเราก็เดินเลี้ยวไปทางขวาจะเจอตึกอยู่ตึกหนึ่งก็เห็นเอ๊ะ เค้ามุงอะไรกันหว่า ไปดูเสียหน่อย โถ ที่ไหนได้เค้าถ้ายรูปแต่งงานกันอยู่




มาถึงตรงนี้เริ่มหลงแล้ว เริ่มหลุดจากคัมภีร์บอกไว้ ต้องเริ่มถามคนแถวนั้นแล้วว่า รูปปั้นท่าน Sir Stamford Raffles อยู่ที่ตรงไหน เค้าก็บอกให้เดินตรงไป แล้วข้านถนนก็จะเจอ พวกเราก็เดินตามเค้าบอกแล้วก็เทียบกับคัมภีร์ นั่นไงเจอรูปปั้นช้างไทยแล้ว คัมภีร์บอกว่ารูปปั้นช้างไทยนี้เป็นของขวัญจาก ร.5 ครั้งเมื่อเสด็จเยือนสิงคโปร์วันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1871



เดินไปเรื่อยๆ ก็เอะใจ ถ้าเดินไปด้านหน้าสงสัยจะไม่เจอแน่ๆ เลี้ยงแวะเข้าไปดูตรง The Art House กันหน่อยดีกว่าเพราะเทียบรูปในคัมภีร์กับตึกสูงที่เห็นอยู่ น่าจะเป็นแถวนี้ล่ะ



และแล้วก็เจอท่าน Sir Stamford Raffles จนได้ ว่ากันว่า ณ จุดนี้เป็นจุดที่ท่าน Sir Stamford ได้เหยียบแผ่นดินสิงคโปร์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1819



ไม่ไหวล่ะง่วงนอนชะมัด พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะ ......
Create Date :26 กรกฎาคม 2550 Last Update :26 กรกฎาคม 2550 9:13:34 น. Counter : Pageviews. Comments :6