bloggang.com mainmenu search
20/07/07

เช้าวันที่สองในสิงค์โปร์ วันนี้พวกเราตั้งใจจะไปสวนนวจู่รงกันตั้งแต่เช้า แต่กว่าจะไปได้จริงๆ ก็เกือบ 10 โมงเช้าแล้วล่ะ ด้วยอาการที่นี่เปลี่ยนแปลงบ่อย อยู่ๆ ฝนก็ตกสักพักเดี๋ยวแดดก็ออก น่าเวียนหัว ถึงว่าสิ คนเมืองนี้พกร่มเป็นอาวุธประจำกาย

วันนี้เริ่มจากสถานี Hougang เพราะพักอยู่แถวนี้ จาก Hougang พวกเราไปลงที่สถานี Outram Park แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อเดินไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อจะไปสถานี Boon Lay เส้นนี้ละตื่นเต้นดี เพราะรถไฟฟ้าเค้าเชื่อมต่อใต้ดินกับบนดิน แบบไม่ต้องไปเปลี่ยนรถไฟฟ้าเหมือนบ้านเรา เลยแอบแชะมาหนึ่งรูปบนรถไฟฟ้า



มาดูวิวข้างทางกันดีกว่า ขอบอกว่าบ้านเมืองเค้าเป็นระเบียบเรียบร้อยจริงๆ มองไปทางไหนสะอาดตา



ตึกคอนโดที่นี่ก็เป็นรูปทรงเดียวกันหมด เป็นของรัฐบาลสร้างล่ะ คอนโดที่นี่เก๋มาก คือแบบขับรถขึ้นมาจอดหน้าห้องตัวเองได้เลยล่ะ แปลกดี แต่ต้องขออภัยถ่ายรูปไม่ทัน เอาเป็นว่าดูลักษณะตึกเค้าดีกว่า



ดูเหมือนว่า Platform B เส้นไป Boon Lay รถจะวิ่งเร็วดีแฮะ เร็วว่ารถไฟฟ้าบนดินบ้านเราอีก ประมาณเกือบ 30 นาทีก็ถึงสถานี Boon Lay ประมาณ 11 โมงเช้า ก็เดินออกมาจากสถานีเพื่อไปต่อรถเมล์สาย 194 เพื่อไปยังสวนนก

พอมาถึงอู่รถก็ไปยืนรอรถตามป้ายที่มีเลข 194 ก็ต่อแถวตามๆ ฝรั่งเค้าไป เพราะยังไงก็ต้องไปที่เดียวกันแน่ๆ แต่ก็แอบสังเกตุเห็นว่าเค้ามีคิวที่รอรถด้วยล่ะ คือจะมีคิวเป็นช่องสามช่อง (ตามรูป) ใครจะไปสายไหนก็ไปต่อคิวในช่องนั้น เป็นระเบียบดีจัง รถเมล์บ้านเค้าก็ไม่จอดรอเหมือนบ้านเราด้วย เค้าค่อยๆ มาจอดทีละคัน แหม ทำไมบ้านเราไม่เป็นงี้มั้งน้า ขึนรถเมล์ทีแทบจะเหยียบกันตาย





รอรถไม่ถึง 10 นาที รถเมล์สาย 194 ก็มา ก็อย่างที่เห็น (ตามรูป) นักท่องเที่ยวเพียบไม่ต้องกลัวหลง เค้าลงไหนเราก็ลงที่นั่น เพราะสายนี้ไปสวนนกจู่รงแน่นอน



ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ พอมาถึงสวนนกจู่รง ฝรั่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะลง เราก็ไม่ลง จนเจ้าหน้าคนขับต้องบอกว่าถึงแล้วสวนนกจู่รงแล้ว ถึงได้ลงตามเค้ามา มาถึงก็ขอแบกป้ายเป็นที่ระลึกก่อนเลย



ก่อนอื่นเรามารู้จักสวนนกจู่รงกันก่อนดีกว่า ตามคัมภีร์บอกว่า Jurong Bird Park เป็นสวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่มีนกกว่า 9,000 ตัวจาก 600 สายพันธุ์ บนพี้นที่ขนาด 94 เอเคอร์ ใหญ่มากๆ ตามโบรชั่วร์ของ Jurong Bird Park เค้าแนะนำสถานที่ของเค้าว่า

With Over 9,000 birds belonging to more than 600 species, Jurong BirdPark is one of the world's best in the conservation and display of birds in natural settings.

It's successes include the world's first capitive breeding of the endangerad 12 wired Bird of Paradise

Jurong BirdPark has Uniqe shows like to "Birds & Buddies" Shows, and "Birds of Prey" Shows, the world's largest collection of Southease Asian hornbills, the world's tallest man-made waterfull and an air-conditioned Panorail that transports visitors to the world's largest walk in aviary Waterfall Aviary

แน่นอนเรื่องไม่ควรพลาดคือโชว์นก ต้องรีบแล้วล่ะเพราะโชว์แรกจะจบแล้ว ไปให้ทันสักห้านาทีก็ยังดี ตามพวกเราเข้าไปสวนนกกันดีกว่า จากทางเข้าเราก็จะพบที่ขายตั๋วเข้าชม ราคาก็ S$18



ขอบอกว่ามาเที่ยวสวนนกแห่งนี้ควรมาแต่เช้า เพราะว่าเค้าเริ่มโชว์ตั้งแต่ 10 โมงเช้ากันเลยทีเดียว ดูจากตาราง



เนื่องจากตอนนี้ 11.20 แล้วไปดูโชว์ "Birds n Buddies" กันสักสิบนาทีกันก่อนดีกว่า เพราะคัมภีร์บอกว่า โชว์นี้เป็นโชว์ไฮไลท์ที่ใครมาที่นี่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด แต่พลาดเสียแล้ว เลยได้ดูโชว์นกร้องเพลงได้อย่างเดียว







เพราะเค้าจะเลิกกันแล้ว หลังจากแสดงโชว์เค้าก็มีเอานกมาใกล้ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันหน้าเวทีแสดงโชว์ นกที่นี่สีสวยจัง







พอออกจากโชว์ก็เดินหาห้องน้ำ ก็ไปเจอน้องๆ กลุ่มนี้เห็นนั่งกันเรียบร้อยเชียว



เดินตามทางมาเรื่อยๆ เราก็ได้เจอกับ World of Darkness เป็นห้องจัดแสดงนกกลางคืน หน้าตาขำๆ ดี ที่ติดใจคงเป็นนกหน้ามึนตัวนี้



เดินกันสักพักก็ออกมาเพื่อไปต่อยัง African Wetlands จัดแสดงตามสไตล์ African เก๋ไปอีกแบบ






เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็เจอกรงนกอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าไม่ได้ดูเพราะพอเข้าไปฝนตกซะงั้น (ไม่ได้เอาร่มมาด้วยวันนี้) พอเดินกลับมาจุดพักฝนหยุด ตอนแรกเข้าใจว่าสงสัยจำลองสภาพอากาศชื้นหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่ใช่ มันเป็นปกติ เลยออกดีกว่าเลยได้ดูแค่เต่าตัวเดียว ที่มีลักษณะแปลกดี



จากนั้นก็ไปต่อที่กรงลิงลมตรงกรงนี้มีเรื่องขำๆ พวกเราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ จนใกล้จะออกแล้วดันไปเจ้าตัวอย่างที่เห็นในรูปขวางอยู่



เอาไงดีล่ะนึกในใจถ้าเดินผ่านหน้ามันไป มันจะกระโดดเกาะขาหรือเปล่าน้า เลยตัดสินใจเดินย้อนกลับดีกว่า แต่ที่ขำคงเป็นพี่นุชล่ะ ดูหน้าตอนก่อนและหลังเจอเจ้าตัวนี้สิ



ระหว่างทางที่เดินกันไปก็แบกป้ายที่มีเยอะมากไปเรื่อยๆ





จุดหมายต่อไปคือ Lory Loft เป็นกรงนกใหญ่มาก มีความสูงเท่ากับตึก 9 ชั้นบนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ล้อมด้วยตาข่ายยักษ์ ด้านในจะพบกับนกแก้วกว่า 1,000 ชนิด



โปรดสังเกตุจากด้านหลัง ที่นี่กว้างมากๆ เราสามารถให้อาหารนกได้ด้วยนะ S$2 เหรียญล่ะ เด็กๆ ดูเหมือนจะชอบที่นี่เพราะได้ใกล้ชิดกับนกอย่างที่เห็น และนกที่นี่ก็มีสีสันจูงใจเด็กๆ ซะเหลือเกิน















มองไปบริเวณโดยรอบก็สะดุดที่รถรางด้านบนสัญลักษณ์คุ้นๆ การบินไทยสนับสนุนนั่นเอง ม่วงมาทั้งขบวนเลย



เราใช้เวลาอยู่ที่กรงนี้ค่อนข้างนาน เพราะใหญ่จริงๆ ก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ตามประสาคนชอบกล้อง เยอะเข้าไว้ดีกว่าไม่มี





สักพักก็เดินอออกจากกรงนกยักษ์ ที่นี้เริ่มหลงแผนที่ล่ะ ก็เลยเดินมันไปเรื่อยๆ นี่ล่ะเจออะไรก็แวะเข้าไปล่ะกัน จนไปเจอกรงนกสีแดงนี่ล่ะ สีมันสวยจริงๆ



จุดหมายต่อไปของพวกเราก็คือฝูงนกฟลามิงโก ก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ แต่รู้สึกว่าจะเดินผิดเลยหลุดมาที่ลานแสดงโชว์เหยี่ยวนักล่าที่ Fuji World of HAWKS ซึ่งเป็นโชว์ที่เราพลาดเพราะแสดงในช่วงเช้า จะเป็นการแสดงโชว์ความสามารถของเหยี่ยวชนิดต่างๆ แต่พลาดไปแล้ว ทำได้แค่เดินเข้าไปดูลานแสดงแล้วก็เดินออกเท่านั้นล่ะ



เจอแล้วเจ้าฟลามิงโกอยู่นั่นเอง หาตั้งนาน Flamingo Lake ตามที่คิดไว้คิดว่าจะได้ดูใกล้ๆ แต่ที่ไหนได้ยืนอยู่ซะไกลเชียว ไม่น่าเชื่อว่าในสระนี่จะมีตั้ง 500 ตัวแนะ





พวกเราก็ถ่ายรูปกันได้สักพัก ฟ้าก็ครื้มอีกล่ะ ไม่ได้การต้องรีบเดินแล้วไม่งั้นไม่ได้ดูน้ำตกแน่ๆ แต่พอก้าวได้สักสิบก้าว ฟ้าก็สว่างจ้าเลย เป็นงงกับสภาพภูมิอากาศที่นี่ชะมัด เดินไปเรื่อยๆ เค้ามุงดูอะไรกันหว่า เจ้านกพีลิแกนนั่นเอง ฝูงใหญ่เชียว







เชื่อไหมว่าเจ้านกพีลิแกนพอกางปีกออกมาแล้ววัดดูยาวตั้ง 3 เมตรเชียวล่ะ ตรงจุดชมนกนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ๆ อีกด้านหนึ่งด้วยล่ะ พอถ่ายออกมาเหมือนมีปีกเลย



ออกจาก Pelican Cove เดินต่อไปเรื่อยๆ ก็เจอแล้ว Watertall Aviary เป็นน้ำตกจำลองที่สูงที่สุดในโลก ตามโบรชัวร์ของสวนนกบอกว่า "The Watterfall Aviary is the world's largest walk-in aviary with more than 1,500 free-flying birds from over 60 species. Pose with the tallest man-made waterfall in the world. Hop aboard the panorail - the world's only monorail that runs through an aviary"





น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลกที่สร้างด้วยมือมนุษย์ มีความสูงประมาณ 30 เมตร บริเวณโดยรอบเลียนแบบป่าฝนเมืองร้อน ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยนานาชนิด นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าน้ำตกแห่งนี้สร้างโดยคน ไม่เชื่อเลยล่ะ เพราะทำเหมือนมากๆ





เดินกันมาตั้งไกลกว่าจะเจอก็ต้องถ่ายรูปกันให้คุ้มหน่อย ที่นี่ทำบรรยากาศได้เหมือนอยู่ในป่าลึกเลยล่ะ หมอกที่เห็นเป็นสีขาวๆ นั่นทำจากละอองน้ำล่ะ




แล้วพวกเราก็เดินออกจากน้ำตก ตอนแรกว่าจะเดินขึ้นไปข้างบนน้ำตก แต่ติดว่าจะไปดูโชว์ "Birds n Buddies" Show ที่พลาดไปในตอนเช้า เพราะโชว์นี้เป็นไฮไลท์จริงๆ ตามโบรชัวร์บอกว่า "This show boasts the widest variety of performing birds in a single act. Be entertained by the antics of colourful costume characters and be amazed by the natural behaviour of the birds" แล้วอย่างนี้จะพลาดได้อย่างไร คนรอดูกันเต็มเลย









โชว์นี้เป็นโชว์ที่เรียกว่าตื่นตาตื่นใจเลยล่ะ แต่เอาภาพมาให้ดูกันแค่นี้ดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หากด้มีโอกาสมาเยี่ยมชมสวนนกแห่งนี้ อย่าพลาดโชว์นี้กันล่ะ ก่อนกลับก็ขอแบกป้ายกันหน่อยเดี๋ยวไม่รู้ว่ามาแล้ว



ตรงทางออกมีกล่องให้ใส่โบรชัวร์ของสวนนกด้วยล่ะ เป็นการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เข้าท่าดีจัง จากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับก็นั่งรถสายเดิมคือ 194 กลับไปที่อู่รถแล้วไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ Boon lay แล้วไปเปลี่ยนสายที่สถานี Outram Park เพื่อต่อไปยังสถานี Dhoby Ghaut เดินตะลุยถนน Orchard

วันนี้ที่เสียดายก็คือพลาดนกแพนกวินไปนั่นเอง สาเหตุก็เนื่องจากรีบเดินดูเพราะต้องทำเวลาเพื่อไปต่อ เลยลืมเจ้านกแพนกวินไปเลย

ตอนต่อไปจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุยถนน Orchard ถนนแห่งการช็อปปิ้งของสิงคโปร์ และพาไปต่อที่ Charke Quay ไปดูชีวิตกลางคืนของคนที่นี่ว่าเค้าสนุกสนานกันอย่างไร ... โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
Create Date :07 สิงหาคม 2550 Last Update :20 พฤษภาคม 2554 15:44:33 น. Counter : Pageviews. Comments :6