bloggang.com mainmenu search
ตอนที่แล้วพาไปดูที่พักในสิงค์โปร์มาแล้ว "Fragrance Hotel oasis" เอาล่ะได้เวลาตะลุยสิงค์โปร์กันแล้ว ก่อนอื่นเราต้องหาสถานีรถไฟฟ้าเสียก่อน เท่าที่ดูมาสถานีสีเขียวที่ใกล้สุดคือ Lavender ส่วนสีแดงที่ใกล้สุดคือ Novena และจากที่ถามพนักงานโรงแรมแนะนำให้เราไปขึ้น novena สายสีแดง ดูจากแผนที่ไม่น่าไกลนะดังนั้นจึงใช้สองขาให้เป็นประโยชน์ เดินค๊า ป้ายที่ 1 2 3 4 5 6 7 เอ้ย .. ไหนบอกว่าใกล้ๆ ไงฟ่ะ เดินมาจะ 7 กิโลแล้วเนี่ยเพิ่งเจอ Novena เอ่อ .. สงสัยเค้าให้นั่งรถเมล์มาป่ะวะถึงบอกว่าใกล้เนี่ย








     จากสถานี Novena พวกเราก็นั่งมาลง Raffles Place เพื่อเดินไปหาเจ้าเมอร์ไลออนตามโปรแกรมที่ได้วางไว้ บอกตรงๆ ทริปนี้ไม่ได้เป๊ะเว่อร์อะไรมาก เพราะกะเดินชิวๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งสิงค์โปร์เนี่ย จขบ.เคยได้บอกไว้ตั้งแต่ทริปก่อนหน้านี้ว่า เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเดินทางมือใหม่ เพราะที่นี่มีรถไฟฟ้าทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ง่ายๆ จับจุดสถานที่เที่ยวให้ถูกแค่นั้นเอง

     พอออกจากสถานีรถไฟฟ้าพวกเราก็เดินมาเรื่อยๆ แต่เหมือนจะหลงทิศซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะที่นี่เดินวนไปวนมาได้ มิใช่ปัญหา ออกมาก็เจอสัญลักษณ์นี่เลย ตามป้ายเค้าบอกว่านี่คือ Progress & Advancement Commissioned & Presented By Lien Ying Chow 8.8.1988

     ที่นี่หากใครเคยมาจะรู้ว่าเป็นประเทศที่มีปฏิมากรรมเยอะเชียวล่ะ เรียกว่ามีให้เราได้ถ่ายรูปกันเพลินเลย ตอนแรก จขบ.คิดว่ามีด้านเดียว ที่ไหนได้เดินวนมาทางด้านหลังมีอีกรูปหนึ่งเหอะ












เดินต่อมาเจออันนี้ด้วย เหมือนมีให้รูปเท้าให้เรายืนเพื่อถ่ายรูปให้อยู่ในกรอบ แต่ด้วยความที่ไม่มั่นใจเลยไม่กล้าขึ้นไปยืน
เดินต่อไปเรื่อยๆ ก็เจอรูปปั้นนกยักษ์ลักษณะประหลาดนี่ด้วย









พวกเราเดินกันมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่เจอขยะเลยเหอะ เป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆ วันที่พวกเรามาเดินก็ถือ
ว่ามีลมพัดมาเรื่อยๆ ไม่ร้อนมากนักเดินได้สบายๆ ค่ะ สักพักก็เจอร้านไอติมที่เห็นใครๆ ก็แวะทั้งนั้นเลย









ราคา 1.20 เหรียญ ประมาณ 31 บาทไทย เป็นเนื้อไอติมสี่เหลี่ยมแล้วเอาเวเฟอร์มาประกบ ชิ้นใหญ่เหมือนกันนะ
จขบ.สั่งบลูเบอร์รี่ ส่วนเพื่อนสั่งวนิลา แต่ไหนพอกินเข้าไปมันมีกลิ่นทุเรียนอ่อนๆ หว่า ใครไม่ชอบทุเรียนเนี่ยจบกันเลย













จากร้านขายไอติมก็เดินมาเรื่อยๆ ตามสะพานเจอรูปปั้นเด็กโดดน้ำด้วยล่ะ หลายๆ คนมาที่นี่ชอบมาถ่ายรูปนี้กัน








     โดยส่วนตัว จขบ.ชอบสิงค์โปร์นะ เงียบสงบร่มรื่นเหมาะแก่การมาพักผ่อน คือเค้าใส่ใจกับพื้นที่สีเขียวได้ดีอ่ะ และเป็นประเทศที่ผสมผสานวัฒนธรรมหลายๆ เชื้อชาติได้อย่างลงตัว หลังๆ มานี่เด็กนักเรียนไทยมาเรียนที่นี่กันเยอะ ซึ่งเป็นผลดีนะได้หลายภาษาดี

     ระหว่างทางเดินไปไหนมาไหนก็ได้ยินภาษาไทยตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่าเหมือนเดินเที่ยวอยู่บ้านเรานั่นแหละ ยิ่งเป็นช่วงที่ จขบ.มาด้วยแล้ว คนไทยเยอะมากจะว่าไปปกติมันก็เยอะอยู่แล้วอ่ะนะ แต่ช่วงนี้มีโปรตั๋วถูกมาอีกมันก็เลยเยอะเข้าไปใหญ่

     เอาล่ะตอนนี้ต้องไปตามหาน้องเมอร์ไลออนแล้วล่ะ พิกัดก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกที่เป็นรูปทุเรียนนั่นแหละ พวกเราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีคนเริ่มวิ่งและขี่จักรยานกันแล้วล่ะ คนที่นี่ดูใส่ใจสุขภาพดีจัง แต่ก็น่าอ่ะนะ เพราะถนนหนทางเค้าเอื้ออำนวยในออกกำลังกายมากๆ แอบมองหนุ่มๆ กล้ามใหญ่ๆ ได้แถวนี้แหละ









การเดินทางมาเมอร์ไลออนสังเกตุง่ายๆ ตรงไหนรถทัวร์เยอะๆ ก็แถวๆ นั้นแหละ





แล้วก็มาถึงมุมยอดฮิต หาช่องถ่ายยากมากยิ่งช่วงทัวร์ลง บ๊ะเจ้า .. คนงี้เยอะแยะ เพื่อนเพียบกันเลยเหอะ



ขณะกำลังถ่ายรูปกับเมอร์ไลออนอยู่นั้น ก็เห็นเรือใบแล่นมาเต็มเลย งานนี้ทุกคนเลยเบนความสนใจไปที่เรือใบแทน
แหม..ก็เล่นแล่นมาหลายลำขนาดนั้นเนอะ ใครเห็นก็ต้องหยุดถ่ายล่ะ













เจ้าเมอร์ไลออนเนี่ยถือได้ว่าเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสิงค์โปร์ เรียกว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านนานเท่าไหร่ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใครๆ มาเยือนสิงค์โปร์ก็ต้องมาถ่ายรูปกะสิงโตยักษ์พ่นน้ำตัวนี้ ซินแสเค้าดูดวงเมืองได้แม่นยำจริงๆ เอาล่ะเราใช้เวลาอยู่กะสิงโตตัวนี้นานเกินไปล่ะ ไปต่อดีกว่า











จุดหมายต่อไปของพวกเราคือ Clarke Quay เนื่องจากพวกเราซื้อตั๋วล่องเรือไว้ จากเมอร์ไลออนก็เดินไปเรื่อยๆ เรียกว่างานนี้มาเที่ยวแล้วยังได้ลดความอ้วนไปในตัวเหอะ เดินวนไปวนมาเหมือนใกล้ๆ เลยแฮะ แต่ด้วยความที่เป็นทางเรียบไงเลยเดินได้เรื่อยๆ ไว้มาต่อตอนหน้านะคะจะพาไปเที่ยวคลาสคียกันค๊า .. 



Create Date :17 เมษายน 2557 Last Update :17 เมษายน 2557 10:11:48 น. Counter : 2574 Pageviews. Comments :2