bloggang.com mainmenu search

เช้าวันที่สี่ของการเดินทางทริปเวียตนามกลางวันนี้เป็นวันสุดท้ายในฮอยอัน .. ฉันรักเธอแล้ว ก่อนมา จขบ. ก็สงสัยนะว่าทำไมต้องฉันรักเธอ พอได้มาจริงๆ เข้าใจถึงความหมายว่าทำไมฉันจึงรักเธอฮอยอันเลยล่ะ หลายๆ อย่างในเมืองนี้ทำให้พวกเราประทับใจ เรียกว่าหากมีโอกาสอยากจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งค่ะ สำหรับตอนที่แล้ว ท่องราตรีในฮอยอัน เดินกันสนุกสนานเลยล่ะ เช้าวันใหม่พวกเราตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า (เอ้อ.. จะเช้าไปไหนเนี่ย) เนื่องจากเพื่อนใหม่ของเรานัดไว้ตอน 7 โมงเช้า ลงมาก็เห็นเพื่อนใหม่เรานั่งรออยู่ในร้าน SUP CUA แล้วล่ะ ก็เลยเดินตามมาสบทบ ร้านนี้คนเยอะจัง

มาถึงก็หันไปเห็นสาวน้อยกำลังทานไข่กระทะ โอ้ว .. หน้าตาหน้ากินเชี๊ยะ แต่ดันสั่งซุปไปแล้วดิ สั่งปุ๊บเสริฟ์ปั๊บเร็วทันใจ ว่าแต่นี่มันอะไรฟ่ะ บ้านเราเช้าๆ ก็จะเห็นข้าวต้มหรือโจ๊ก แต่นี่เม็ดสาคูยักษ์ชัดๆ ชิมค่ะชิมตักเข้าปากอย่างรวดเร็ว ป้าด.. ร้อนอิบอายน้ำตาจะไหล ลวกปากตรูเหอะ แล้วก็หันไปเตือนเพื่อนเป่าก่อนเพื่อนมันร้อนมาก ชามนี้ราคา 20 ด่อง ประมาณสามสิบบาทบ้านเราอ่ะ ก็ไม่แพงนะขำๆ มาแล้วก็ต้องลองไม่ลองจะมาถึงฮอยอันได้ไง จริงป่ะ ..

พอจ่ายตังค์เสร็จก็เดินเท้าเข้าเมืองเก่าฮอยกันกันเลย จุดหมายแรกจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ใครๆ ก็ไม่รับแบงค์ 500,000 ด่อง ของพวกเราเลย พวกเราจึงย้อนกลับไปยังสถานที่ที่พวกเราได้มันมา นั่นคือที่ขายตั๋ว เจอคุณป้าที่ให้เราแลกตังค์พอดี ตอนแรกเข้าไปจะขอเปลี่ยนแบงค์ เราก็กลัวเค้าจะจำพวกเราไม่ได้ เลยเปลี่ยนแผนจากขอเปลี่ยนแบงค์เป็นขอแลกเป็นแบงค์เล็กน่าจะดีกว่า โชคดีมากเค้าจำพวกเราได้เลยให้พวกเราแลกแบงค์ย่อย ( เหอๆ รอดตายแล้วตรู ) ได้ตังค์แล้นนน .. ก็ทำการใช้หนี้เพื่อนใหม่เรียบร้อยก็เดินทางกันต่อค่ะ สบายใจแระ ..

จักรยานยังคงเป็นพาหนะสำคัญ

วัฒนธรรมการนั่งกินอาหารข้างทาง ชิวดีอ่ะ

ไฮโซหน่อยก็จักรยานไฟฟ้า

น้ำแข็งยังใช้แบบนี้อยู่เลยน่ามาเปิดโรงน้ำแข็งหลอดเนอะ

งานแกะสลักเก่งจริงนะตัวแค่เนี๊ยะ

ร้านอาหารหน้าตาแบบเนี๊ยะเป็นปกติ

ใครๆ มาก็ต้องปั่นเป็นสีสันของเมืองนี้

เกาเหลาเมนูขึ้นชื่อที่ต้องมาลองให้รู้ว่ามันคืออะไรหว่า

ขนมมีมากมายสังเกตุได้จากคนหาบตะกร้า

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมืองนี้ถึงสะอาดจัง

พวกเราเดินไปเดินมาก็มาถึงตลาดแระ ไม่อยากจะบอกว่าเดินมาเนี่ย จุดหมายคือที่ไหนตรูยังไม่รู้เลย เพื่อนใหม่เดินนำมาก็เดินตามเค้าเลย รู้แต่ว่ามาตามหาก๊วยเตี๋ยวขาหมู เอาวะเวย์นี้ไปไหนไปกัน แล้วพวกเราก็เดินวนไปวนมาในตลาดสด เพื่อนใหม่เราพยายามถามคนแถวนั้นถึงสถานที่เดิมที่เค้าเคยมา (ตรูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไหนก็เลยยืนรอและรออย่างเดียว) จนเพื่อนใหม่เราเกือบถอดใจ แต่สุดท้ายเราก็หากันจนเจอ แต่ก่อนจะไปยังจุดหมาย มาแวะดูตลาดสดที่นี่กันค่ะ

ไม้อะไรก็ไม่รู้วางขายกันเต็มเลย

ล็อคตารี่มีขายด้วยอ่ะ

เสื้อลุงโฮวางขายเพียบ

ตะเกียบเริ่ดๆ

เส้นก๋วยเตี๋ยวสีดิบมากอ่ะเส้นจะหนาไปไหน

อะโวคาโด้แสนถูกไมบ้านเราแพงจังฟ่ะ

ผักที่นี่มีหลายหลายชนิดมากๆ หน้าตาประหลาดก็เยอะ

ผักรวมมิตรสับๆ อย่างที่เห็นเค้ากินกันเป็นเรื่องปกติ

วิธีมัดปูสไตล์เวียตนามเอาซี่ .. พันขาหมดจะดิ้นไปไหน

ขายกันตัวเป็นๆ เลยทีเดียว

พวกเราเดินมาเรื่อยๆ จนมาเจออาคารสีเหลืองแห่งนี้ เราเดินเข้าทางด้ายซ้ายมือของรูปทะลุไปด้านหลัง แล้วสิ่งที่เราตามหาก็เจอแล้วค่ะ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวขาหมูที่เพื่อนใหม่เราเล่าให้ฟัง "มิสหวัง" เป็นแม่ค้าที่เพื่อนใหม่เราเคยมากินเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนแรกเค้าก็งงๆ ใครจะจำได้เนอะ .. แต่เพื่อนใหม่เรามีรูปถ่ายมายืนยัน โอ้.. แม่เจ้า อย่าว่าแต่มิสหวังที่อึ้งเลยตรูก็อึ้งอ่ะ จะมีสักกี่คนที่กลับไปยังที่เดิมและตามหาคนคนเดิมมีรูปมายืนยันอีกด้วย ป้าด.. แถมหอบขนมจากเมืองไทยไปฝากเค้าด้วย โอ้.. เวย์นี้ประทับใจเพื่อนใหม่ตรูมากๆ

มิสหวังแกอายุหกสิบแล้วเหอะ แกชอบรูปที่เพื่อนใหม่เราเอามาฝากแล้วมองรูปนั้นอยู่นานพร้อมรอยยิ้ม เพื่อนใหม่เราก็อัธยาศัยดีคุยไปคุยมามีแลกเบอร์โทรศัพท์กันอีกเหอะ แล้วพวกเราก็สั่งบุ่นยอมิสหวังทาน "บุ่นยอ" คือก๋วยเตี๋ยวใส่ขาหมูอ่ะ แต่ขาหมูเค้าไม่ได้ต้มให้เปื่อยแบบบ้านเรานะ ทานยากสักหน่อย จขบ. ยังต้องให้ป้าแกช่วยเราะกระดูกออกให้เลยอ่ะ ไม่ไหวใช้ช้อนตัดกลัวกระหมูกระโดดออกจากถ้วย แต่เราสังเกตุเห็นถึงความแตกต่างระหว่างชามเราสองคนและเพื่อนใหม่ ปริมาณเนื้อเนี่ยต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยอ่ะ อิอิ

สำหรับ จขบ. แล้วบุ่นยอเนี่ยมันแปลกๆ รสชาติไม่ค่อยโดนเท่าไหร่นะ อาจจะเป็นเพราะ จขบ. ไม่ชอบขาหมูแนวนี้อ่ะ ชอบเปื่อยๆ มันๆ นั่นแหละใช่เลย จขบ. ว่าเวียตนามเค้าเด่นเรื่องการทำอาหารแนวหมูยอมากกว่านะ ชิ้นที่เห็นในรูปเนี่ยก็เป็นหมูยอเหมือนกัน น่ากินเหอะ (ดูแล้วน่าอร่อยกว่าขาหมูอีก อิอิ แบบว่ามันกินง่ายง่ะ) แล้วมิสหวังก็ไปสั่งกาแฟมาให้พวกเราคนละแก้ว ขอบอกว่า "มันอร่อยมาก" กาแฟเวียตนามมันต้องรสนี้ของแท้แห่งความอร่อย เท่าที่หาข้อมูลกาแฟเวียตนามเค้าไม่เปรี้ยวแบบบ้านเรารสชาติเลยกลมกล่อม จขบ. ดูดปื้ดเดียวเกลี้ยง มองหน้าเพื่อนแก้ว "อย่ากินอีกง่ะ"

แต่เหมือนอารมณ์ของดีมีครั้งเดียว เกรงใจมิสหวังเค้าต้องเดินไปสั่งให้เลยต้องระงับความยากไว้ในใจ เอาวะ .. ยังไงมาเที่ยวรอบนี้ก็ได้กินกาแฟเวียตนามอร่อยๆ แล้ววุ้ย หลังจากนั้นพวกเราก็จ่ายค่าเสียหาย บุ่นยอชามละ 30,000 ด่อง และกาแฟแก้วละ 15,000 ด่อง อยากกินกาแฟอีกสักสิบแก้ว จขบ. ชอบกาแฟเวียตนามตรงที่มันโนคาเฟอินนี่แหละ แล้วก็ได้เวลาอำลามิสหวัง พวกเราก็เลยขอเทคโฟโต้ไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ส่วนใครที่อยากลองไปชิมบุ่นยอฝีมือมิสหวัง ก็หาพิกัดร้าน Banh Mi Phuong ร้านนี้เป็นร้านอาหารแนะนำดังอยู่เหมือนกัน มิสหวังจะอยู่ในซอยนี้แหละประมาณกลางๆ ซอยค่ะ เอาล่ะนี่ก็ใกล้เวลาโชว์จะเริ่มแล้วไว้ตามต่อตอนหน้านะคะ

By Patthanid C.

Create Date :04 มิถุนายน 2555 Last Update :4 มิถุนายน 2555 0:42:04 น. Counter : 3022 Pageviews. Comments :1