bloggang.com mainmenu search

ตอนที่หลังจากที่ หลงฮานอย ไม่ใช่หลงรักนะคะ หลงจริงๆ เลยเหอะ แบบว่าต้องใช้เวลาจูนกันนิดหนึ่ง พอเริ่มคุ้นแล้วทุกอย่างก็ง่ายขึ้น เอาล่ะไปต่อกันเลยค่ะ หลังจากที่หา Thesin ที่อยู่ตรงถนนLuong Ngoc Quyen เจอแล้วก็ได้เวลาชิวๆ ไม่กดดันแระ จำได้ว่าตอนเดินมาพวกเราผ่านทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho Hoan Kiem) กันมาแล้ว เห็นแว่บๆ ว่ามีวัดอยู่กลางทะเลสาบด้วยชื่อว่า "วัดหง็อกเซิน" (Ngoc Son Temple) ไหนๆ เราก็มีเวลาเหลือๆ สองชั่วโมงไปเดินเที่ยวกันก่อนดีกว่า

จากการที่วันนี้เดินหลงมาหลายถนน ต้องบอกเลยว่าฮานอยเนี่ยวุ่นวายจริงๆ น้องๆ โฮจิมินห์เลยเหอะ ใครข้ามถนนในเมืองหลวงของเวียตนามได้ รับประกันเลยว่าท่านจะเดินที่อื่นได้สบาย เพราะสับสนวุ่นวายจริงๆ พอแดงทางนู้นก็มา ทางนั้นก็มีแล้วมันจะแดงไมฟ่ะ งงนะนี่ จากถนน Luong Ngoc Quyen เราเดินย้อนกลับมาถนน Cau Go เพื่อมายังทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม ซึ่งอยู่ตรง ถนน Dinh Tien Hoang  เห็นทะเลสาบอยู่ใกล้ๆ แล้วล่ะ ว่าแต่หิวน้ำอ่ะอยากได้ชาไข่มุกเย็นๆ สักแก้วจริงๆ เลยอ่ะ

ระหว่างที่บ่นอยู่นั้นสายตาก็แอบไปเห็นร้านขายน้ำ เอ้ย.. เหมือนชาไข่มุกเลย ป๊ะ .. วาจาตรูนี่ชั่งศักดิ์สิทธิ์ อยากกินอะไรก็ปรากฏเหอะ ชักช้าอยู่ใย โอ้.. สวรรค์บนอากาศร้อนๆ เลยเหอะ ตั้งแต่เช้าก็เดินจนขาลากยันบ่าย เวย์นี้ขอบอกว่าสวดยอดแล้วอ่ะ ชาไข่มุก แก้วละ 15,000 ด่อง ประมาณ 25 บาท เวย์นี้ 50 ก็กินแล้วเหอะ

ปกติ จขบ. เนี่ยชอบกินไส้กรอกมากมาย แต่เวย์นี้มันร้อนเกินจะกลืนสิ่งใดนอกจากน้ำแล้วอ่ะ ได้ชาไข่มุกแก้วหนึ่งเนี่ย มันชื่นใจอย่างสุดจะหาอะไรมาเปรียบเปรย ขนาดว่าเป็นรสเผือกที่ไม่โปรดของ จขบ. นะ ยังอร่อยขนาดนี้เหอะ พอมีแรงท้องอิ่มขาก็เริ่มมีแรงก้าวต่อ นึกถึงคำแม่สอนแม่เลยอ่ะ กินให้อิ่มนะลูกเดี๋ยวขาสั่น ตรูเข้าใจแระ จากนั้นพวกเราก็เดินต่อไปยังวัดหง็อกเซิน บรรยากาศเย็นๆ นี่มันดีจังดูจากขนาดทะเลสาบแล้วนี่ได้ถ้ามาวิ่งวันละรอบนะ หุ่นดีเหอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พอเดินมาถึงก็จะเห็นประตูทางเข้าอลังการมากอ่ะ คนจะเยอะๆ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่าทัวร์ทุกทัวร์ต้องมาลงที่นี่หากมาฮานอย ค่าเข้าชมคนละ 20,000 ด่อง ก็ราวๆ สามสิบกว่าบาทไทย ไฮไลท์ของที่นี่ก็จะเป็นสะพานแดงนี่แหละ เค้าเรียกว่าสะพานเทฮุกหรือสะพานแสงอาทิตย์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สะพานแห่งนี้มีลักษณะเป็นสีแดง ที่เค้าบอกว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงฮานอยเลยทีเดียว ส่วนทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมแห่งนี้เค้ามีตำนานเล่าว่า "พระเจ้า Le Thai Yo ได้นำดาบวิเศษที่นำมาต่อสู้กับพวกหมิงจนสามารถปลดประเทศให้เป็นอิสระ พระองค์ได้ทรงเรือไปที่กลางทะเลสาบแห่งนี้ เพื่อคืนดาบวิเศษให้เต่าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า เต่าได้ขึ้นมาฉกดาบจากพระหัตถ์แล้วหายไปในทะเลสาบ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ทะเลสาบคืนดาบ"

หากมองไปยังทะเลสาบจะเห็นหอคอยอยู่ไกลๆ หอคอยแห่งนี้มีชื่อว่า " Thap Rua" เป็นหอคอยเต่าสร้างในศตวรรษที่ 18 ว่ากันว่ามีคนเคยเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ด้วยแหละ อืม.. เอาล่ะเข้าไปชมด้านในวัดแห่งนี้กันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างเน๊อะ พวกเราเดินผ่านประตูเข้ามาก็เจอวัดล่ะ ภายในใช้สีแดงหมดเหมือนมาเมืองจีนเลยเหอะ

 

ด้านในดูศักดิ์สิทธิ์ดีอ่ะ จริงๆ แล้ววัดนี้ไม่ได้ใหญ่เลยอ่ะ เดินวนแป๊บเดียวก็หมดแล้วอ่ะ แต่น่าสนใจเพราะทำเลนี่แหละ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบกลางมหานครฮานอยนี่แหละ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองฮานอย พวกเราเดินต่อไปยังด้านหลังก็เจอเต่าสต๊าฟ ตัวใหญ่มากอ่ะอยู่ในตู้กระจก

ตัวขนาดหนึ่งเมตรนิดๆ เลยอ่ะ ใหญ๋เชียวอ่ะ ส่วนที่อยู่บนกล่องเล็กๆ นี่คืออวัยวะเพศเต่าอ่ะ ว่าแต่เป็นตัวผู้หรือตัวเมียละเนี่ย ดูไม่ออกอ่ะ คณะทัวร์ไทยก็ไม่มีซะด้วยมีแต่ลูกทัวร์จีน ฟังไม่ออกง่ะ ส่วนรูปภาพที่เห็นนั้นเป็นรูปที่เค้าถ่ายได้ ของจริงเลยเหอะ หรือว่าเต่าตัวนี้จะเป็นตัวที่รับดาบคืนฟ่ะ ใหญ่ขนาดนี้น่าจะอยู่มาหลายร้อยปีนะเนี่ย ส่วนดาบป่านนี้ขึ้นสนิทจมอยู่ใต้ทะเลสาปแห่งนี้แล้ว ล่ะมั้ง เพราะถ้าเจอเค้าคงเอาขึ้นมาจัดแสดงให้ดูแล้วล่ะ

 

เดินไปเดินมาหิวแล้วอ่ะ ตั้งแต่เช้ามากินพิซซ่าไปถาดเดียวเองอ่ะ ว่าแต่จะกินอะไรกันดีล่ะเนี่ย คืนนี้ต้องเดินทางด้วย เอาเซฟๆ ดีกว่าจำได้ว่าระหว่างที่เดินทางมานั้น มีร้านไก่ทอดน่ากินเชียวอ่ะ เดินกลับไปกินร้านนั้นดีกว่า มีแอร์ด้วยจะได้เย็นๆ ร้านอยู่ฝั่งตรงทะเลสาปด้านเหนือล่ะ ป่ะวันนี้กินไรดีเนี่ย มีเงินเป็นล้านเลยเหอะ อิอิ อยู่เมืองไทยมีเงินขนาดนี้รวยแระ สั่งไก่มาคนละอย่างแล้วกัน

แหม.. ในรูปไก่ดูชิ้นใหญ่เชียวอ่ะ ของจริงไมเป็นไก่สมอล์ฟ่ะเนี่ย แต่อร่อยเหอะ เสียดายอย่างเดียวนี่แหละ ข้าวเนี่ยจะแข็งไปไหน เวียตนามเค้าไม่กินข้าวสวยกันเหรอเนี่ย ข้าวแข็งเหมือนข้าวหุงไม่สุกอ่ะ ไม่ไหวนะเนี่ย กินแบบนี้ท้องอืดแย่เลย นี่กะให้ข้าวไปงอกในท้องหรือไงฟ่ะ รมณ์เสีย.. แต่ที่โดนสุดก็เซเว่นอัพใส่น้ำแข็งนี่แหละ มันชื่นใจจริงๆ พวกเราก็นั่งเม้าท์มอยสอยปลาทูกันชิวๆ รอเวลา 17.30 น. สำหรับมื้อนี้ค่าเสียหาย 170,000 ด่อง สองคนไม่ถึงสามร้อยสวยๆ .. ติดตามต่อตอนหน้านะคะ จะพาไปขึ้น Sleeping Bus โครตชอบเลยอ่ะ ..

Create Date :07 พฤษภาคม 2555 Last Update :7 พฤษภาคม 2555 23:40:04 น. Counter : Pageviews. Comments :4