bloggang.com mainmenu search
สืบเนื่องจากตอนที่แล้วพวกเราไปเที่ยว เจดีย์โบนาทาวน์ ไปสักการะเทพทันใจองค์จริงมาแล้ว เว่น ไกด์ชาวพม่าพาพวกเรามาเที่ยวกันต่อที่ใจกลางเมืองย่างกุ้งล่ะ โดยให้พวกเราเลือกถ่ายรูปกันตามสบาย รอบๆ ตัวเราก็เป็นเหมือนสถานที่ราชการในเมืองย่างกุ้งประมาณนั้นอ่ะ























และแน่นอนจัดเต็มถึงแม้วันนี้จะเป็นทัวร์ชะโงกอีกวัน แต่ก็บอกเว่นว่าไม่นานแค่สิบนาที เหอะๆ จริงแล้วซัดไปเกือบครึ่งชั่วโมงนี่ขนาดวิวมีแค่นี้นะ คือแค่หมุนตัวอ่ะ ไม่ได้เรื่องถ่ายรูปเนี่ยก๊วนนี้ไม่มีใครยอมใคร จัดว่า "บ้ากล้อง" เหอะ โดยเฉพาะพ่อคนนี้



คุณน้าเหี่ยวที่ขอถ่ายรูปคู่กับเว่นไกด์ผู้ใจดีชาวพม่าของเรา โดยด้านหลังตึกสีแดงๆ นั่นเป็นศาลของพม่า แหมช่างเหมาะเจาะกับทนายอย่างอีน้าเหี่ยวจริงๆ อ่ะ จากนั้นพวกเราเหล่าทัวร์ชะโงกก็เดินทางกันต่อ





ระหว่างนั่งรถหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังโทรศัพท์ อุ๊.. แม่เจ้าโวยยังใช้โนเกียรุ่นบิ๊กบึ้มอยู่เหอะ บ้านเรารุ่นนี้วางแล้วไม่หายเอาสิ อิอิ



แล้วเว่นก็พาพวกเรามาจอดที่หน้าภัตราคารการะเวท ว้าว .. สวยเชียว แหมเสียดายถ้าไม่ไปเสียเวลารอแล้วรอเล่าตอนลงจากอินทร์แขวนแล้วล่ะกัน ไม่งั้นเมื่อคืนมีจัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์ที่นี่ เค้าว่าแค่ 10$ เองอ่ะ เอานะไม่ได้กินมาชมก็ยังดี



มาเดินแค่นี้ต้องติดสติ๊กเกอร์ด้วยอ่ะ เว่นถามว่าตรงนี้กี่นาทีดี เหอะๆ เว่นน้า ไม่น่าถาม สิบนาที.. ยี่สิบนาที ก็ครึ่งชั่วโมงตลอดอ่ะ เอาเหล่าทัวร์ชะโงกแยกย้าย









จัดเต็มกันไป ที่นี่เหมือนเป็นสวนสาธารณะแล้วมีร้านอาหารล้อมรอบล่ะ วิวสวยเชียวล่ะ เสียดายที่เวลาพวกเรามีจำกัดไม่งั้นเดินชิวๆ ได้เลย ว่าแต่เอ๊ะๆ อะไรหว่า



ฝนก็ไม่ตกนี่หน่า น้องๆ เค้ากางร่มทำไมเอ้ย แอบไปดูใกล้ๆ อุ้ย.. บางอ้อ แหมเค้ามาสวีทกัน มิน่าละ ตอนผ่านมาเห็นทะเลสาบตลอดแนวมีเก้าอี้นั่งแบบนี้แหละ แต่ไม่ยักกะว่างสักตัวแล้วก็เอาร่มปิดทุกตัวเลยนะ อ๋อ .. มันเป็นจังซี่นี่เอง อิอิ

พอถ่ายรูปกันเสร็จ เว่นก็พาพวกเราไปเดินซื้อของฝากกันทีตลาดสก๊อต หากแฟนคลับที่ติดตามกันทุกตอน ก็จะจำได้ว่าตลาดบาโจ๊ะออซานที่พวกเราเจออาลีนั่นแหละ ระหว่างทางไปเห็นป้ายโฆษณาอันหนึ่ง



หน้าคนในรูปมันคุ้นๆ เหมือนใครหว่า กว่าจะนึกได้เหมือนน้องชาย จขบ. สมัยหนุ่มๆ นั่นเอง แหม.. น้องเรานี่ก็ใช้ได้นะเนี่ย อิอิ จากนั้นเว่นก็ให้เวลาพวกเราเดินตลาดสก็อต โดยภารกิจแรกนั่นก็คือ "แลกเงิน" มาเมืองนี้แลกเงินจังเล้ยตรู



เจอพ่ออาลีอีกล่ะ แต่อาลีโอเคเลยไม่กดราคาพวกเราด้วย แถมเงินไทยก็แลกได้ด้วยอ่ะ อีกทั้งยังพาพวกเราไปเดินซื้อของฝากราคาถูกด้วยล่ะ





ทานาคางี้มีขายกันให้หืม .. ตอนแรกจะซื้อมาฝากลูกค้าเพราะมีลูกค้ารายหนึ่งฝากซื้อที่ฝน แต่พอถามพี่คนหนึ่งในทริปเค้าบอกว่าไปซื้อเกาะเกร็ดเหอะน้องราคาเท่ากันเลย แถมไม่ต้องแบกให้หนักด้วยอ่ะ









ว่าแต่หิวแล้วดิ หาอะไรกินกันดีกว่า หันซ้ายหันขวาเอานี่แหละวะ ใกล้ดีคนก็เยอะด้วยมาพม่าหลายวันล่ะยังไม่ได้ทานอาหารพม่ามั้งเลยอ่ะ ส่วนอีกกลุ่มขอตัวไปทานในฟู้ด





ส่วนพวกเราอีกกลุ่มก็นั่งกินมันตรงข้างๆ ร้านขายของนี่แหละ ลักษณะเหมือนร้านขายก๋วยเตี๋ยวบ้านเราแหละ แต่เรียกว่า "บ๊อกเฮงมา" เสียงสะกดประมาณนี้แหละ รสชาติเหมือนน้ำยาขนมจีนอ่ะ มีหยวกกล้วย ข้าวโพดทอด ก็แปลกๆ ดี แต่โอเคเลยนะ 500 จ๊าดเองด้วย

หลังจากทีทุกคนแยกย้ายกันไปซื้อของฝากซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ตุบตั๊บมันดาเลนี่แหละมาเป็นของฝาก มันอร่อยไม่เหมือนบ้านเราอ่ะ พวกเราก็ไปต่อยัง "Chaukhtatgyi Pagoda" หรือคนไทยเรียกว่า วัดพระนอนตาหวาน













เจดียเจ๊าทัตจีแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสนสูง 6 ชั้น สร้างขึ้นในปี 1966 พระนอนองค์นี้มีขนาดใหญ่กว่าพระนอนชเวตาเลียวที่เมืองหงสาวดี ลักษณะเด่นก็ตรงอายไลนเนอร์สีฟ้านี่แหละ เก๋ก็ตรงนี้แหละ แถมลายเท้าก็สวยเสียด้วย





จากนั้นพวกเราก็ไปเทกระจาดซื้อสินค้าเครื่องประดับกันที่หน้าวัดแห่งนี้แหละ เรียกว่าใครมีเงินพม่าเท่าไหร่ ใช้มันตรงนี้แหละ เพราะเอากลับไปก็แลกคืนไม่ได้ แล้วเว่นก็พาพวกเราไปส่งที่สนามบิน ก่อนเว่นจะกลับก็มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย แล้วพวกเราก็ให้ติ๊บเว่นเพราะต้องขอบคุณไกด์ใจดีคนนี้จริงๆ มีอย่างที่ให้ให้ลูกทัวร์ยืมตังค์ด้วยอ่ะ

พอเข้าสนามบินพวกเราก็ไปจัดการเสียค่าภาษีสนามบินคนละ 10$ ด้วยล่ะ ที่นี่พิธีการเยอะจังอ่ะ แล้วพวกเราก็เข้า ตม. ตอนตรวจแอบเห็น ตม. มองหน้าน้าเหี่ยวแบบแปลกๆ พวกเราสันนิษฐานว่า เค้าคงนึกในใจว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้สามีพม่ากลับไปด้วยเหรอเนี่ย ไม่ต้องอะไรมากขนาดนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยกันยังแอบเม้าส์กันเลยว่า "เธอๆๆ เธอว่าคนนั้นใช่คนไทยหรือเปล่าอ่ะ" เหอๆๆ เกิดๆๆ เลยน้าเหี่ยวเอ้ย

หลังจากที่ผ่าน ตม. มาแล้วก็เข้า Duty Free กันเลยเหอๆๆ ซื้ออะไรไม่ได้เลย เพราะหมดตัวกันเป็นทิวแถว เนื่องจากวางแผนใช้เงินไม่เกิน 3000 บาทไทย ปรากฏว่าจัดไป 5000 บาท ถ้ารวมตั๋วเครื่องบินและวีซ่าทริปนี้ก็ใช้เงินไป 7500 บาท





แต่ก็คุ้มค่ากับการมาต่างแดน ประเทศที่ได้ชื่อว่า เมืองแห่งทองคำ สมดังคำเล่าลือจริงๆ ที่นี่ยังคงให้ความสำคัญกับศาสนา สังเกตุได้จากวัดวาอารามเต็มไปหมด แหม.. เห็นแบบนี้ทำให้อยากเห็นกรุงศรีอยุธยาในอดีตจัง ว่าจะงดงามสักเพียงไหน

เอาล่ะขอบคุณมิตรรักแฟนคลับทุกท่านที่ติดตามอ่านกันมาตั้งแต่ต้นจนจบมหากาพย์ความสนุกบุกพม่าของพวกเราเหล่าเดอะแก๊งค์แห่ง BP แล้วพบใหม่นะคะ

ปล. หลายท่านสอบถามมาว่าจะติดต่อเว่นอย่างไร รบกวนส่งเมล์ไปที่ mli2@myanmar.com.mm หรือ motherlandinn2@gmail.com เป็นเมล์ของ mother land Inn ค่ะ รีเควส์เว่นได้เลยค่ะ
Create Date :27 สิงหาคม 2554 Last Update :19 กุมภาพันธ์ 2555 23:43:47 น. Counter : Pageviews. Comments :4