bloggang.com mainmenu search
ตอนที่แล้วเราพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเกสต์เฮ้าส์ยอดฮิตในมะละกา Cafe 1511 กันมาแล้ว ในตอนนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวเมืองมะละกากัน ขอบอกว่ามามาเลเซียแล้วไม่มาเที่ยวมะละกาถือว่าคุณพลาดสิ่งที่ดีที่สุดไปแล้วล่ะ เพราะเมืองนี้สวยจริงๆ มามาเลย์อย่าลืมมามะละกานะ



จากที่พักพวกเราเดินผ่านถนนเส้นเล็กๆ ที่รถสามารถวิ่งสวนกันไปมาได้ สิ่งที่เราได้เห็นคืออาคารบ้านเรือนสองชั้นลักษณะเก่าแก่ ถูกประดับประดาด้วยโคมไฟตลอดถนน บ้างก็เป็นร้านอาหาร บ้างก็เป็นที่พัก และบ้างก็เป็นบ้านคน จนมาสะดุดกับป้ายหน้าบ้านหลังหนึ่ง



เค้าติดป้ายว่า "Tolet" ตอนแรกห้องน้ำไรฟ่ะ มาอยู่ตรงนี้ อ่านดีๆ อ้าว เค้าให้เช่าบ้านนี่หว่า นึกว่าห้องน้ำเสียอีก เออตรู .. คิดได้ไงฟ่ะ คิดแล้วก็ขำตัวเองเฮ้อ อ่านไปได้ห้องน้ำ





จากนั้นก็เดินมาเรื่อยๆ จนเจอกับแม่น้ำที่ตัดเข้าเมืองมะละกา ดูไกลๆ แล้วนี่น่าจะเป็นปากน้ำมะละกามั้ง (มั้งนะ) วิวสวยเชียวแหละ แต่ไม่ต้องถามเรื่องกลิ่นนะ แสนแสบเราดีๆ นี่เอง แต่ยังไม่หนักเท่าแค่นั้นล่ะ จากจุดนี้มองเห็นพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์มะละกาอยู่ลิบๆ แหม.. อยู่ไม่ไกลนีหว่า แค่ข้ามสะพานไปแล้วเดินเลาะไปตามถนนเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วล่ะ



หลังจากที่ข้ามสะพานแม่น้ำมาแล้ว ก็จะเจอกับจตุรัสดัตช์ล่ะ อยู่ทางซ้ายมือเลย สีสันโดดเด่นมาก นับเป็นสถานที่ยอดนิยมที่จะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันระรานตาเลยล่ะ แต่พวกเราขอผ่านไปก่อนเนื่องจากใกล้ๆ ไว้มาเก็บทีหลัง







แต่ขอเก็บภาพด้านหน้าไว้หน่อยแล้วกัน เผื่อพลาด อิอิ จากนั้นก็เดินไปตามถนนเส้นเลียบแม่น้ำ ก็จะเจอกับ KOTA MELAKA หรือ The Malacca Fort ลักษณะเหมือนป้อมเก่าล่ะ





แต่เค้าปิดปรับปรุงอยู่ก็เลยไม่ขึ้นไป แต่เชื่อไหมว่าขากลับเดินผ่านป้อมนี้เห็นทัวร์พานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนกำแพงกันหน้าตาเฉย เออดีเว้ย ป้ายเค้าก็ติดอยู่ว่าชำรุด ก็ยังดันขึ้นไปกันอีกเนอะ ไม่กลัวมันถล่มเอาเสียเล้ย





พอเดินเลยป้อมไปก็จะเจอกับกงล้อยักษ์ ดูลักษณะแล้วเหมือนที่เปิดปิดทางน้ำอ่ะ เดินเข้าไปใกล้ๆ ขอบอกว่าใหญ่มากมายล่ะ ขอถ่ายรูปหน่อยล่ะกัน



จากนั้นก็เดินกันไปต่อ จนสายตาไปสะดุดกับเสาสูงๆ ที่เห็นอยู่ไกล มองแล้วเหมือนหอคอยเลย มะละกาเค้ามีหอคอยด้วยเหรอฟ่ะ ไม่เห็นในหนังสือจะบอกไว้เลย หุหุ เดี๋ยวเจอกัน



จากนั้นก็เดินมาถึงพิพิธภัณฑ์เรือยักษ์แล้นน โห.. เดินมาใกล้ๆ ใหญ่เอาเรื่องนะเนี่ย ว่ากันว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับการเดินเรือล่ะ ดูป้ายด้านหน้าเค้าอ่านว่า "Muzium Samudera" แหม.. อ่านตรงตัวเชียวนะคะคุณ









ค่าตั๋วเข้าคนละ 3RM คิดเป็นเงินไทยก็ 30 บาทถูกจะแย่อ่ะ สำหรับการได้เข้าไปเรียนรู้สิ่งที่อยู่ข้างใน พอซื้อตั๋วเสร็จเค้าก็ยื่นถุงมาให้คนละใบ งงดิงง .. เอามาใส่อะไรวะ โชคดีหันไปเห็นคนข้างหน้าเค้าเอามาใส่รองเท้าล่ะ





จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ พื้นเค้าจะได้ไม่เสียเพราะส้นรองเท้า หรือสกปรกเพราะรองเท้าของเรา ซึ่งด้านบนเค้าก็มีชั้นวางรองเท้าให้วางด้วยนะ เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้เต็มที่ เอาล่ะเมื่อพร้อมแล้วก็เข้าไปดูด้านในกันเลย





ประวัติเล่าว่า "เรือลำนี้ที่เป็นเรือที่จำลองมาจากเรือสำเภาฟลอเดอรามาร์ (Flor de la mar) ของโปรตุเกส ซึ่งนำมาขนสมบัติอันล้ำค่าจากพระราชวังสุลต่านมะละกา เมื่อครั้งโปรตุเกสบุกเข้ามายึดครองมะละกาใหม่ๆ แต่เรือลำนี้เดินทางไปได้ไม่ไกล ก็ล่มลงที่ชายฝั่งเกาะสุมาตราตอนเหนือเสียก่อน เพราะบรรทุกหนักเกินพิกัด" เหอๆ เสียดายสมบัติจังอ่ะ



















ซึ่งด้านในเรือลำนี้ มีการจัดแสดงอุปกรณ์การเดินเรือ ลักษณะเหมือนของจริงหมดเลย มีหุ่นจำลองความเป็นอยู่บนเรือของกะลาสีเรือด้วยล่ะ ตัวเท่าคนจริงเลยนะ สูงจังอ่ะ นอกจากนี้ยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่เก็บรวบรวมจากซากเรือที่จมลงในอดีตมาจัดแสดงด้วยล่ะ

เดินกันเพลินเชียว เสียดายที่เรามีเวลาเดินไม่นานนัก เพราะต้องทำเวลาเนื่องจากวางแผนอยู่มะละกาแค่วันเดียวเอง แหม.. ถ้ารู้ว่ามะละกาสวยแบบนี้จะวางแผนอยู่สักสองวันสองคืน จัดเต็มกันเลยทีเดียว เนื่องจากที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมากอ่ะ





หลังจากที่เดินสำรวจภายในลำเรือกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปถ่ายรูปบนด่านฟ้าเรือ แต่ไม่ได้ขึ้นไปบนสุดนะ เพราะเค้ามีป้ายห้ามขึ้น แต่จนแล้วจนรอดกฏก็มีไว้ให้แหลก ชาวต่างชาติเดินขึ้นไปกันเฉยเลย แปลกจังอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกหรือไงนะ จากด่านฟ้าเรือจะมองเห็นลำเรืออีกข้าง ใช่ว่าจะไม่มีอะไรนะ มีห้องจัดแสดงด้วยเช่นกัน





เป็นข้าวของเครื่องใช้ของกับตันเรือล่ะ ห้องนี้ไม่ใหญ่เหมือนกันอีกฝั่งหนึ่ง ปีนบันไดขึ้นมา แค่ยืนดูอยู่ตรงกลางก็หมดแล้วล่ะ เป็นห้องเล็กๆ เอง จากนั้นพวกเราก็เดินออกจากพิพิธภัณฑ์ เพื่อไปยังจุดหมายต่อไป







แต่ก่อนออกไปก็ขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อย แหม..ไม่ได้มากันทุกวันนะ ขอนิดหนึ่งเป็นน้ำจิ้ม จากนั้นก็เดินออกนอกพิพิธภัณฑ์ แต่..สายตาดันหันไปเห็นนักท่องเที่ยวชาวอิสลาม เค้าเดินออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วเข้าไปในอาคารอีกหลังหนึ่ง อ้าว..





ยังมีอีกเหรอเนี่ย ซะงั้นอ่ะ นึกว่าพอทางลงแล้วก็เดินออก ไม่คิดว่าเดินอ้อมไปด้านหลังจะมีทางเข้าอีกอาคาร เฮ้อ.. กรรม พอกลับมาบ้านหาข้อมูลปรากฏว่า ในอาคารหลังนั้นจัดแสดงความสำคัญของช่องแคบมะละกา เส้นทางการเดินเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีแบบจำลองเรือสำเภาของชาวต่างชาติที่เดินทางมาค้าขายที่ท่าเรือมะละกาด้วยล่ะ อดเข้า .. สงสัยต้องไปใหม่มั้งเนี่ย





พอออกจากพิพิธภัณฑ์เรือยักษ์ก็เดินไปตามทางจนเข้าทางโค้ง ก็จะพบกับหอคอยที่เราเห็นลิบๆ เมื่อก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ ว้าวๆๆๆ น่าสนใจมากๆ อย่าได้ช้า เข้าไปดูกันเถอะ ไว้จะมาเล่าให้ฟันต่อนะคะ

ลิงค์เกี่ยวข้อง //www.mundoyo.com/Journal/?j=1397
Create Date :14 มีนาคม 2554 Last Update :1 เมษายน 2554 17:40:30 น. Counter : Pageviews. Comments :3