bloggang.com mainmenu search
จากตอนที่แล้ววันแรกของเราที่มาเก๊าก็สิ้นสุดลง หลังจากที่เดินสำรวจมรดกโลกมาเก๊ากันเมื่อยเลยทีเดียว วันที่สองของพวกเรา (๖ มีนาคม ๒๕๕๒) ตามโปรแกรมเราจะข้ามฟากไปเกาะไทปากันล่ะ

หลังจากสลบกันเป็นตายเลยที่เดียวสำหรับคืนแรกที่มาเก๊า ๑๐ โมงเช้าแล้ว ตื่นมาตกใจเลยตายล่ะช้านนน ตามโปรแกรมจะตื่นมาตะลุยกันแต่เช้าไปเดียวเที่ยวถนนโรแมนติกเสียหน่อย หมดกัน!! รีบตื่นกันเลยสองคนงัวเงียๆ ไปอาบน้ำกว่าจะแต่งตัวกันเสร็จก็เกือบ ๑๑ โมงล่ะ โผ่ลออกไปข้างนอกอะไรฟะเนี่ย ฝนตกอีกล่ะจะตกไปถึงไหนเนี่ย นี่มันเดือนมีนาคมปลายหนาวนะเฟ้ย ไงฝนครึ้มงี้ล่ะ



แต่ก็ใช่ว่าภารกิจของเราวันนี้จะล้มเลิก อยากตกก็ตกไปไม่เห็นกลัวเลยอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน เพราะถ้ากล้วฝนช้านก็อดเที่ยวอ่ะดิ ก็เลยตัดสินใจกันว่าเดินออกไปก่อนล่ะกัน สถานการณ์เป็นอย่างไรค่อยเปลี่ยนแผนกันใหม่ เลยเดินจากถนนแห่งความสุขมาเซนาโด้สแควร์ฝนก็ตกใหญ่เลย ก็เลยเข้าไปหลบฝนที่ที่ทำการไปรษณีย์มาเก๊า




ไหนๆ ก็เข้ามาแล้วก็ส่งไปรษณีย์บัตรกันเสียเลย โดยปกติเวลามาเที่ยวต่างประเทศก็จะส่งไปรษณีย์บัตรถึงตัวเองและน้องที่ออฟฟิตตลอด ค่าส่งก็ใบละ ๕ MOP$ ล่ะ พอเจ้าหน้าที่เห็นเป็นนักท่องเที่ยวก็บริการดีเชียวล่ะ จากนั้นก็เดินดูในไปรษณีย์กันสักพักหนึ่งเพราะข้างนอกฝนยังตกอยู่เลย ซึ่งด้านในเค้าก็มีจัดแสดงตราไปรณีย์กรของมาเก๊าไว้ให้ได้ศึกษากันด้วยล่ะ

พวกเราเดินวนแล้ววนอีกฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่เริ่มเบาลงแล้วล่ะ ก็เลยตัดสินใจเดินออกมาลุยกันเลยดีกว่า นี่ก็ใกล้เที่ยงล่ะไปหาอะไรกินกันดีกว่า พวกเราก็เดินมาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงร้านทาร์ไข่มากาเร็ตแล้วล่ะ ก็เลยเลี้ยวเข้าไปในซอยเพราะจำได้ว่ามีร้านอาหารอยู่หลายร้านเลยล่ะ



จะกินร้านไหนดีล่ะเนี่ย มีทั้งอาหารไทยอาหารจีนและอาหารฝรั่ง มาทั้งทีกินอาหารไทยกินที่บ้านดีกว่าไหม ก็เลยจิ้มเอาร้าน Seng Heng Chinese Cuisine นี่ล่ะ เห็นคนเดินเข้าเดินออกกันเยอะดี มีคนไทยนั่งทานอยู่ด้วยล่ะ



พอเข้ามานั่งเค้าก็เอาเมนูมาให้ แน่นอนสิ่งที่ตามมาคือเค้าพูดภาษาจีนใส่เลยล่ะ ก็ดูหน้าเราสองคนดิ อาหมวยกันทั้งนั้น ก็เลยยิ้มๆ แล้วถามเป็นภาษาอังกฤษเค้าเลยเข้าใจว่าไม่ใช่คนจีน เฮ้อ เพิ่งเข้าใจอิทธิพลภาษาที่สามก็ตอนมาเที่ยวนี่ล่ะ มองซ้ายมองขวาเค้าสั่งอะไรกันหว่า





เอานี่ล่ะกันข้าวเป็ดย่างผสมหมูกรอบ ราคา ๓๐ MOP$ เสริฟ์พร้อมซอสพริกรสชาติจิ๊ดกว่าบ้านเรา ซึ่งต้องบอกว่าข้าวเยอะมากนี่เค้าให้กินคนเดียวเหรอเนี่ย ยังกะให้กินกันสองคน แต่หมูกรอบเค้าชิ้นโตมากๆ อร่อยดี



อีกเมนูที่พวกเราสั่งก็คือราดหน้าอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ชี้เอาจากรูป ราคา ๓๘ MOP$ พอเห็นเค้ามาเสริฟ์แทบช็อคแม่เจ้าไมมันเยอะงี้อ่ะ อิชั้นไม่ใช่กรรมกรนะนี่กินกันเยอะขนาดนี้ แต่รสชาติอร่อยดีนะเหมือนผัดเปรี้ยวหวานแต่ไม่เปรี้ยวนะ บอกไม่ถูกแต่ก็อร่อยดีนะ

พอทานกันเสร็จฝนก็เริ่มหยุดแล้วล่ะ เอาไงต่อดีล่ะเดินไปลิสบัวก่อนแล้วกัน เพราะดูจากมาเก๊าทาวเวอร์แล้วมันน่าจะมาทางนี้แหละ มั่วๆ เอา ซึ่งต้องบอกว่าตรงแยกนี่มึนมากเพราะรถเมล์มันวิ่งกันหลายสายตัดไปตัดมา แล้วจะขึ้นอันไหนล่ะเนี่ย ดูจากแผนที่ไม่เห็นมีสายไหนมันไปมาเก๊าทาวเวอร์เลย ถามใครก็พูดไม่รู้เรื่อง แม่เจ้า!! อะไรกันนี่ อยู่เมืองนี้เหมือนเป็นใบ้เลยอ่ะ





ลักษณะป้ายสำหรับนักท่องเที่ยวก็จะเป็นแบบนี้ล่ะ ดูจากป้ายแล้วน่าจะเป็นสาย ๒๓ แต่รอแล้วรอเล่าสาย ๒๓ ไม่มีทีท่าจะผ่านมาเลย ก็เลยถามเด็กนักเรียนแถวนั้น เค้าบอกให้ไปสาย ๓๒ ล่ะ พอสาย ๒๓ มาก็กระโดดขึ้นเลยพวกเรา แล้วก็ถามเค้าโดยชี้รูปมาเก๊าทาวเวอร์ให้ดู เค้าก็บอกว่าไม่ผ่าน อ้าว อะไรกันวะ สุดท้ายอยู่กลับมายืนอยู่ที่เดิม

ทำไงกันดีล่ะเรา จะไปไงเนี่ย ในเมื่อเราไม่สามารถพึ่งรถเมล์ได้ก็ต้องเพิ่งสองเท้าที่ใช้ก้าวเดิน ก็เลยเดินย้อนมาที่ห้างเยาวฮันหวังไปหน้าโรงแรมจำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะแต่ติดกับห้างเยาวฮันนั่นล่ะ หวังเพิ่งพนักงานต้อนรับนักท่องเที่ยว เข้าไปถามเค้าว่า "จะไปมาเก๊าทาวเวอร์ได้ยังไง" ชีก็งง เอ้ยอะไรฟ่ะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มเลย อย่าบอกนะว่าชีฟังภาษาอังกฤษไม่ออก ชีทำหน้างงๆ นั่นไงล่ะเป็นไปตามความคาดหมาย เลยใช้มุขสุดท้ายชี้ไปที่ตึกมาเก๊าทาวเวอร์ เค้าบอกว่าเดินเลาะไปตามตึกเรื่อยๆ ก็ถึง แม่เจ้า!! ช่วยได้มากมาย

สุดท้ายเราก็เดินย้อนกลับมายังห้างเยาวฮันหวังจะขึ้นรถเมล์ เพราะดูจากพิกัดถนนกับตึกมาเก๊าทาวเวอร์ที่เห็นอยู่ไกลๆ ตรงนี้น่าจะมีรถเมล์วิ่งไปถึง ปรากฏว่ารอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีรถเมล์สายที่ต้องการ เอาวะเดินก็เดิน เดินมันไปเรื่อยๆ เลยจากห้างเยาวฮันเป็นทะเลสาบนามวาน ซะงั้น เมื่อคืนเดินหาแทบแย่ไม่เจอที่ไหนได้ อยู่นี่เอง จากที่ค้นข้อมูลเค้าบอกว่า ที่ทะเลสาบแห่งนี้จะเปิดน้ำพุเต้นระบำล่ะ เวลา ๒๑.๓๐ - ๒๒.๐๐ น. ในคืนวันหยุดล่ะ









ทะเลสาบที่นี่ใหญ่พอสมควรล่ะ ตอนกลางคืนถ้าเปิดไฟน่าจะสวยแฮะ พวกเราก็เดินเล่นชมวิวริมทะเลสาบไปเรื่อยๆ จนสุดถนนก็ข้ามถนนไปยังจุดหมายของเรานั่นก็คือ "มาเก๊าทาวเวอร์" เอาว่าเดี๋ยวตอนหน้าจะพาขึ้นไปชมวิวบนตึกที่เคยได้ชื่อว่าสูงที่สุดในเอเซียล่ะ

Create Date :06 สิงหาคม 2552 Last Update :6 สิงหาคม 2552 0:48:20 น. Counter : Pageviews. Comments :1