เรื่อง : ล่ารักนักรบมาไซ (The White Masai)เขียนโดย : โครินเน ฮอฟมันน์ แปลโดย : วิภาดา กิตติโกวิทรายละเอียดจากปกหลัง เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเคนยาระหว่างโครินเน ฮอฟมันน์ สาวนักธุรกิจจากสวิสเซอร์แลนด์ ตกหลุมรักนักรบมาไซ ขณะไปท่องเที่ยวในเคนยากับคนรักหลังจากที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานา เธอก็ย้ายเข้าไปอยู่ในกระท่อมดินที่หมู่บ้านของเขา แ ละใช้ชีวิตในเคนยา 4 ปี จากนั้นความฝันของเธอก็ค่อยๆ สลายลง จนกระทั่งเธอต้องหนีกลับบ้านเกิดพร้อมลูกสาววัยขวบเศษ ซึ่งเกิดจากความรักที่ดูเหมือนจะมั่นคงระหว่าง หญิงชาวยุโรปผิวขาวกับนักรบหนุ่มมาไซ จากการเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าในระยะเผาขน ไปถึงความยากแค้นลำเค็ญของการดำรงชีวิตในป่า หรือ โรคภัยไข้เจ็บ ทุโภชนาการ ความอดอยาก พิธีกรรมที่ต้องทำร้ายร่างกาย และเหนือสิ่งใดๆ คือ อารมณ์รักหลง ที่มีต่อมนุษยชาติ : ด้านหนึ่งย้ำเน้นว่าเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ทว่าอีกด้านหนึ่งก็ให้ภาพว่าเรา ช่างแปลกแยกแตกต่างกันมากเหลือเกิน * ขอบคุณรูปภาพจาก เว็บไซต์ของสนพ.สันสกฤต...หนังสือเล่มนี้ของสนพ.สันสกฤตแปลจากหนังสือที่เขียนจากเรื่องจริงอีกแล้วค่ะ เป็นเรื่องราวของสาวชาวสวิส "โครินเน่ ฮอฟมันน์" ที่เดินทางไปเที่ยวเคนย่ากับแฟนหนุ่ม แต่เธอกลับตกหลุมรัก "ลเกตินกา" นักรบชาวแซมบารู ((บนปกเขียนว่ามาไซอะ แต่จริงๆ แล้วมันคนละเผ่ากัน แต่ใกล้เคียงกัน)) ตอนอ่านนี่...เหวอมากๆ ค่ะ เพราะโครินเน่เห็นหน้าลเกตินกาแว่บเดียว คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง แต่ตกหลุมรักเขาหัวปักหัวปำขนาดที่ว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่เคนย่ากับแฟน เธอมองหาแต่เขา พอรู้ว่าเขาติดคุก ก็ไล่ตามเดินทางข้ามเขตระหกระเหินไปช่วยเขา พอกลับไปสวิสเซอร์แลนด์ เธอยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ขายกิจการ ขายที่อยู่ หอบเงินมาที่เคนย่า เพื่อจะมาอยู่กับเขา ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลยง่ะ พอกลับมาก็ไม่เจอลเกตินกา ต้องตามหาเขาอยู่อีกนานหลายสัปดาห์กว่าจะได้เจอกันไอซ์สารภาพว่าไม่เข้าใจ "ความรัก" ของโครินเน่เลยสักนิดเดียว เพราะ...เธอพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง และความสุขกับสัมผัสทางกายก็ไม่มี ... นักรบไม่จูบปากผู้หญิง เวลามีเพศสัมพันธ์ก็คือ จึ๊กๆๆ สามทีเขาก็เสร็จล่ะ เลยงงๆ ว่ารักกันแบบไหนฟะแต่โครินเน่ก็ตะเกียกตะกายไปอยู่กับลเกตินกาจนได้ ลเกตินกาก็รับเธอมาอยู่ด้วย อยู่กันแบบพื้นเมืองจริงๆ นอนบ้านที่สร้างจากไม้และโคลนที่เรียกว่า "มันยัตตา" กลางป่ากลางเขา โครินเน่ต้องเผชิญหน้ากับความแร้นแค้น ((ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร)) สัตว์ป่าในระยะประชิด ความห่างไกลจากความเจริญ ความเจ็บป่วยรุนแรง ((เป็นทั้งมาลาเรีย หิด แท้งลูก ฯลฯ)) พิธีกรรมพื้นเมืองที่เธอไม่เข้าใจ และความวุ่นวายกับระบบราชการของเคนย่า ดูเหมือนว่าโครินเน่จะพยายามแก้ไข และอดทนมาตลอด เพราะคำเดียวสั้นๆ ว่า "เธอรักเขา" และอ่านๆ ไปก็รู้สึกว่าลเกตินกาก็รักเธอมากเช่นกัน เขายอมทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อเธอ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่นักรบแซมบารูส่วนใหญ่ไม่ทำกัน ((ตักน้ำ ซักผ้าให้ หลังๆ ก็จูบกับเธอด้วย))โครินเน่พยายามลงหลักปักฐานที่เคนย่า เธอกับลเกตินกาแต่งงานกันโดยถูกกฎหมาย ((เรื่องเอกสารวุ่นวายมาก)) และโครินเน่ก็เปิดร้านขายอาหารที่นั่นด้วยโครินเน่และลเกตินกามีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่งคือ "นาปิไร ((Napirai))"ปัญหาใหญ่ที่ทำให้โครินเน่ตัดสินใจเลิกกับลเกตินกาและหนีกลับสวิสเซอร์แลนด์ก็คือ ลเกตินกาไม่ทำงานและหึงหวงเธออย่างมาก เขาไม่พอใจเวลาที่โครินเน่คุยกับใคร และคิดอยู่ตลอดว่าโครินเน่จะไปนอนกับผู้ชายอื่น หรือ นาปิไรไม่ใช่ลูกของเขา....อ่านแล้วรู้สึกว่ามันเป็นการเขียนด้วย "มุมมองฝ่ายเดียว" ของโครินเน่น่ะค่ะ เธอคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร หลายๆ ครั้งไอซ์อดรู้สึกไม่ได้ว่า เธอเองก็ "ดูถูก" เขาอยู่ลึกๆ คิดว่าตัวเองเหนือกว่า เก่งกว่าอยู่เช่นกัน ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกมึนๆ กับความคิดและการกระทำของเธอ ซึ่ง...ยอมรับนะคะว่าเธอเก่งในการปรับตัว เก่งในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นโดยไม่งอมืองอเท้า ทำทุกอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นกับสิ่งที่ต้องการ แต่...อืม...ไมรู้สิคะ ไอซ์ไม่เข้าใจ "ความรัก" ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของ "ความเข้าใจกัน" ของสองคนนี้น่ะค่ะพิธีกรรมและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับชาวมาไซและแซมบารู ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของโครินเน่ ไอซ์รู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัดเจน เพราะผู้เล่าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเช่นกัน และไอซ์ก็ไม่รู้สึกว่าเธอพยายามจะเข้าใจสักเท่าไหร่ยังไงไม่รู้แฮะ แหะๆๆๆ....ปัญหาใหญ่ของหนังสือเล่มนี้ที่ทำเอาไอซ์เกือบวางหลายครั้งก็คือ "สำนวนแปล" ค่ะ ... ให้อารมณ์ google translate มากๆ ... ก็ไม่รู้นะคะว่าต้นฉบับมันทื่อประมาณนี้หรือเปล่า วิธีเว้นวรรคก็แปลกๆ แต่อ่านแล้วเหมือนกำลังท่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้ยกตัวอย่างหน้าแรกเลยละกัน"อากาศอุ่นจัดของเขตร้อนโอบกอดในนาทีที่เราแตะพื้นสนามบินมอมบาซา และฉันรู้สึกจากส่วนลึกว่านี่คือแผ่นดินของฉัน ฉันจะอยู่ที่นี่ได้เหมือนอยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศวิเศษนี้ก่อมนต์ขลังต่อฉันเท่านั้น ความเห็นของมาร์โค คู่รักของฉัน กระชับกว่า เขาว่า "ที่นี่เหม็นจริง!..."หรือ"นาปิไรเป็นภาพแห่งสุขภาพที่สมบูรณ์"อะไรทำนองนี้อะค่ะ กระตุกๆ ทื่อๆ อ่านแล้วรู้เลยว่าภาษาอังกฤษมันเขียนยังไง อ่านไปหงุดหงิดไป เฮ่อ...สรุปว่าเนื้อหาน่าสนใจแบบแปลกๆ ดีค่ะ ....ขอแปะภาพในหนังสือหน่อย ภาพมาจากสนพ.สันสกฤตนะคะภาพลเกตินกาค่ะ ... นักรบเผ่าแซมบูรูจะใช้ดินสีแดงทาตบแต่งร่างกายมันยัตตา ที่อยู่อาศัยของชาวแซมบูรูโครินเน่ นาปิไร ลเกตินกา....หลังจากที่โครินเน่กลับสวิสเซอร์แลนด์แล้ว เธอยังเขียนหนังสือต่ออีกสองเล่มนะคะBack from Africa เกี่ยวกับชีวิตของเธอเมื่อกลับมาอยู่ยุโรปแล้วและReunion in Barsaloi เมื่อเธอกลับไปพบกับลเกตินกาอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปสิบสี่ปีได้เห็นรีวิวในเว็บต่างประเทศแล้วไม่เวิร์คอะค่ะ บอกว่าขาด dynamic ... ส่วนตัวไอซ์ ไอซ์ไม่สนใจอยากอ่านเรื่องของเธอต่อแล้วง่ะค่ะ แหะๆๆๆส่วนนี่คือรูปของนาปิไรและโครินเน่ดูมีความสุขดีอะค่ะ เท่าที่อ่านในรีวิวบอกว่า เล่ม Reunion in Barsaloi คนอ่านผิดหวังที่โครินเน่ไม่ได้พานาปิไรไปพบพ่อด้วย ... ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ห่างเหินกันไปมากแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว....อย่างไรก็ตามเรื่อง The White Masai ได้ทำเป็นหนังด้วยนะคะ ((คิดว่าเป็นหนังเยอรมัน)) น่าดูทีเดียวภาพในหนัง ดูดีมากเลย แสงสวย สดใสมีความรู้สึกว่า หนังน่าสนใจกว่าหนังสือแฮะ ^^"
มีความสุขกับวันหยุดนะครับ