ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๕ )
สามโมงเช้าวันรุ่งขึ้น ผมมายังสถานีขนส่งหาดใหญ่เพื่อเดินทางไป จ.สตูล พบว่า รถเที่ยวแรก ๐๘.๓๐ น.ได้ออกเดินทางไปแล้ว ต้องรอเที่ยวที่สองซึ่งจะออกจากหาดใหญ่ในเวลา ๑๐.๓๐ น.
ช่วงที่นั่งรอรถออกนั้น มีรถทัวร์จากแม่สายและนครราชสีมาไปด่านนอก แล่นตามกันมาสู่สถานีรถโดยสารหาดใหญ่ แวะจอดราว ๒๐ นาที ก่อนที่จะออกไปสู่ปลายทางต่อไป
อ้อ.... มีรถทัวร์ของประเทศเพื่อนบ้านด้วยนะ มีอยู่ ๒ บริษัท หรือ ๒ คันก็ไม่ทราบได้ เพราะพ่นหลากสีเหลือเกิน แต่จะไปปีนังหรือที่แห่งใดนั้น ผมไม่อาจทราบเหมือนกัน
ครั้นได้เวลา รถบัสติดแอร์ก็พาผมออกจากสถานีขนส่งหาดใหญ่ ผ่านถนนหมายเลข ๔๒๘๗ หรือถนนเพชรเกษม (เดิม) ไปบรรจบที่ถนนยนตรการกำธร หรือทางหลวงหมายเลข ๔๐๖ ไปยังสตูล ถึงราวบ่ายแก่ๆ ที่สถานีขนส่งเดิมซึ่งก็คือ ท่ารถบริษัทนั่นแหละครับ
ส่วนสถานีขนส่งแห่งใหม่นั้นอยู่ถนนอ้อมเมืองโน่น ไกลจะตาย
ก็อาศัยมอเตอร์ไซต์รับจ้างเช่นเคยครับไปยังโรงแรมสินเกียรติธานี ตามลายแทงที่ได้จาก google map แถมใกล้แหล่งของกินด้วยสิ ถูกใจผมล่ะ
อ้อ... โรงแรมแห่งนี้ ไม่มีอาหารมื้อเช้าเลี้ยงนะครับ ลูกค้าต้องข้ามถนนไปทานโจ๊กที่ร้านฝั่งตรงข้ามโรงแรม
เมื่อเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว ทางผมก็ลงมาหมุนคว้างว่าจะไปไหนดี ยังไม่คิดถึงคฤหาสน์กูเด็น หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองสตูลหรอกครับ แต่นึกว่าชาวบ้านเขาไปที่เกาะลังกาวีได้อย่างไร และท่าเทียบเรืออยู่ที่ไหน ? เพราะเห็นจากข่าว ที.วี.ช่วงวันหยุดเทศกาล ที่นักข่าวมักไปทำข่าวอยู่เสมอ
คำตอบอยู่ที่มอเตอร์ไซต์รับจ้างเช่นกันครับ บอกว่าอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำมะลัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลตัวเมืองมากนัก งั้นก็ไปเลยล่ะ
พอถึงท่าเรือตำมะลัง และเห็นเรือ ferry speed boat สมใจแล้ว ทำให้ผมมั่นใจว่าได้มาถึงสตูลแล้วจริงๆ
แต่ไม่ได้ลงเรือไปเที่ยวเกาะลังกาวีหรอกครับ เพราะขาดคู่หู ไม่มีเงินริงกิต และเป็นเรือเที่ยวสุดท้ายที่จะออกจากสตูลอีกด้วย
กว่าจะกลับก็วันรุ่งขึ้นนั่นแหละ
ซูมเข้าใกล้อีกนิดหนึ่ง
ที่ท่าเรือ มีป้ายเตือนของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เข้าไปแล้วครับ
หลังจากชมท่าเรือตำมะลังจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็เข้าไปเที่ยวป่าชายเลนซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งอยู่ในเครือของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ผมเคยทำงานอยู่นั่นเอง
ปูที่เห็น เป้นปูก้ามดาบ ที่มีมากแถบป่าชายเลน แต่ตัวจริงคงไม่ใหญ่โตขนาดนี้หรอกครับ
ขอเซลฟี่ก่อนก้าวไปตามทางเดินในป่าชายเลน มีเสียงเหมือนกิ่งไม้หักเป็นระยะๆ ซึ่งพี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างบอกว่า เป็นเสียงของกุ้งดีดขันที่มีอยู่มากในป่าชายเลนนี้
บางช่วงของป่าชายเลน
สุดทางเดิน เป็นศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นศาลที่ตั้งอยู่ใต้สุดของชายทะเลฝั่งอันดามันครับ แถมมีหอชมทิวทัศน์ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันด้วย
งั้น.... ก็ถือโอกาสขึ้นไปบนหอเลยล่ะ
ทิวทัศน์เมื่อมองจากบนหอ เป็นทะเลอันดามันใต้สุดของประเทศไทยที่ผมเพิ่งเห็น เพราะทิวเขาลิบๆ นั่น เป็นเขตรัฐปะลิส สหพันธ์รัฐมาเลเซีย
มุมมองที่เบื้องล่าง เกาะด้านขวาภาพเป็นเกาะลังกาวีครับ ซึ่งตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณหลังเกาะ
เย็นวันนั้น ผมอิ่มอร่อยที่ตลาดโต้รุ่งใกล้ๆ กับมัสยิดมำบังก่อนกลับที่พัก
ตอนหน้า เราจะนั่งรถเลาะฝั่งอันดามันไปที่เกาะภูเก็ตกันล่ะ แต่ไม่ได้เห็นทะเลหรอกครับ
Create Date : 21 มีนาคม 2560 |
|
3 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2560 11:14:34 น. |
Counter : 2551 Pageviews. |
|
|
|
ตามมาเที่ยวต่อคะ..
น่าเที่ยวจังคะ..