|
Konnichiwa Nihon no densha (14)
วันนี้ อ.วิรัตน์พาชาวคณะไปเยี่ยมปู่ C 56 44 ซึ่งเคยเป็นนักรบคราวสงครามมหาเอเซียบูรพา ประจำการอยู่กับกองพลรถไฟคราวสร้างเส้นทางระหว่างไทย - พม่า หรือเส้นทางรถไฟสายมรณะนั่นแหละครับ
โดยปู่ C 56 44 ได้ประจำการจนสงครามสิ้นสุด และกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้ขายเส้นทางรถไฟสายนี้พร้อมรถจักร ล้อเลื่อน ให้รัฐบาลไทย ในราคา 50 ล้านบาท (ราคาในสมัยนั้น)
ปู่ C 56 44 เลยสังกัดการรถไฟฯ ภายใต้หมายเลข 735 และวิ่งทบทวนความหลังบนเส้นทางสายน้ำตก จนกระทั่งปลดประจำการ
ก่อนที่จะถูกขายแยกชิ้นส่วนเป็นเศษเหล็กไปนั้น เรื่องเข้าถึงหูบริษัทรถไฟ โออิกาวะ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ถึงประวัติอันน่าทึ่งของปู่ C 56 เลยติดต่อขอซื้อไปทั้งคัน และลำเลียงไปซ่อมประกอบใหม่ที่ญี่ปุ่น จนสุขภาพแข็งแรง สามารถใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงเหมือนคราวบรรจุประจำการใหม่ๆ แถมยังให้เกียรติพ่นตราของ รฟท.ไว้อีกด้วย จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีดั้งเดิมจนปัจจุบัน
ไปดูกันหน่อยสิว่า ปู่ยังพูดภาษาไทยได้ฤาไฉน ?

รุ่งเช้า ชาวคณะออกเดินทางจากที่พักไปยังสถานีนาโกยา เพื่อขึ้นรถด่วน ชิง กังเซ็น ฮิคาริ ไปยังสถานีฮามามัตสึ ซึ่งอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งของบริษัทรถไฟแห่งนี้ และปู่ C 56 อยู่ในสังกัด และประจำการอีกด้วย

รถด่วนชิน กังเซ็น ฮิคาริ เที่ยวเช้านี้ ค่อนข้างว่างครับ แต่อาจมีผู้โดยสารคึกคักช่วงกลางทางก็ได้

เส้นทางช่วงแรกระหว่างสถานีนาโกยา ไปยังสถานีฮามามัตสึ

เส้นทางสายใต้จะไม่เหมือนทางเหนือ เพราะหนาแน่นไปด้วยตึกรามบ้านช่อง ล้วนแต่สูงระดับสิบชั้นขึ้นไปทั้งนั้น

เก็บภาพชีวิตตามรายทางไปเรื่อยๆ นะครับ

คราวนี้ เราจะเห็นสีสันของรถไฟในสังกัด JR East บ้างล่ะ

แน่นอนครับว่า จำนวนผู้โดยสารย่อมมีมากกว่าเส้นทางสายเหนืออยู่แล้ว คงเป็นต้นแบบของกระเป๋าลากที่พี่น้องวัยรุ่นเรากำลังฮิตกระมัง ?

แค่มองไม่ไกลนัก สามารถเห็นสะพานรถไฟ 2 แห่ง และสะพานรถยนต์อีก 2 แห่งด้วยสิ

ยี่ห้อนี้ คงไม่ต้องบอกนะครับ เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของบริษัท

ผ่านย่านสถานีอันใหญ่โต แต่จำไม่ได้ว่าเป็นสถานีใด ?

และอีกแห่งครับ แฟนรถไฟคงชอบ

สภาพภายในตู้โดยสาร ก่อนที่ชาวคณะจะลงปลายทาง

มองแค่ป้ายชื่อสถานีก็พอรู้แล้วนะครับ

ขณะรอขึ้นรถไฟ Local Train ไปยังสถานีคานายา

กับผู้โดยสารรายอื่นที่รอขึ้นรถเช่นกัน

มาล่ะครับ ขบวนรถ Local Train สายโทไคโด ที่จะเดินทางไปยังสถานีคานายา

เส้นทางรถไฟ local train โทไดโด ช่วงสถานีฮามามัตสึ - คานายา

แล้วต่อด้วยขบวนรถไฟของบริษัท โออิกาวะ จากสถานีคานายา ไปยังสถานีชิน คานายา ซึ่งเส้นทางสายนี้เป็นของบริษัทรถไฟเอกชน เพิ่งเคยขึ้นตอนนี้แหละ

ผู้คนยังว่างอยู่ เพราะเป็นช่วงเช้าและสถานีต้นทาง

ดูความสะอาดเอี่ยมภายในตัวรถเขาบ้างเป็นไร ?

ป้ายบอกสถานีบนเส้นทางตลอดสาย และอัตราค่าโดยสาร ไม่ผิดเพี้ยนไปจากขบวนรถของกลุ่มบริษัท JR ผมคิดว่า ขบวนนี้คงให้บริการผู้โดยสารที่มาชมการแสดงที่พิพิธภัณฑ์รถจักรสถานีชิน คานายา โดยเฉพาะ

เส้นทางช่างแสนสั้นสำหรับชาวคณะ แค่สถานีเดียวเท่านั้น

ช่วงแรก จะขนานกับเส้นทางสายโทไคโดของ JR ไปก่อน

จากนั้น จะแยกซ้ายไปตามเส้นทางของบริษัท สู่สถานี ชิน คานายา

ราวอึดใจเดียว ก็เข้าสู่สถานี ชิน คานายาแล้ว

ยังใช้ห่วงทางสะดวกอยู่ด้วย

พอมาถึงชานชาลาสถานีชิน คานายา ก็เห็นขบวนรถพิเศษจอดอยู่ที่รางว่างในย่านสถานีแล้ว แถมรถจักรที่หาซื้อมาสะสมนั้น สามารถใช้การได้ดีทุกคันอีกด้วย

มีแฟนคลับรถไฟชาวญี่ปุ่นเริ่มทะยอยมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดงานครับ โดยใช้รถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ทำขบวนไปยังสถานีเซ็นสุซึ่งเป็นปลายทาง

จากป้ายประชาสัมพันธ์ภายในอาคารสถานี จะมีบาร์โค้ตให้โหลดฟังคลิปเสียงรถจักรที่ระบุอีกด้วย ไม่เชื่อก็ลองดูสิ

แผ่นที่สองครับ

และแผ่นสุดท้าย ผมคิดว่าประธานบริษัทรถไฟนี้ คงเป็นนักสะสมตัวยงเลยล่ะ
หลังจากนั้น ชาวคณะชวนกันเดินไปยังลานแสดงและโรงรถจักรที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานีโดยไม่รอช้า

เจอกับรถจักรไฟฟ้า รุ่น E 102 ซึ่งถือว่าเป็นรถจักรรุ่นปู่ของเด็กสมัยนี้ เห็นว่าเป็นรุ่นปู่แบบนั้น แต่ยังใช้การได้ดีมากๆ ทีเดียว เพราะพ่วงท้ายขบวนรถประวัติศาสตร์นำกลับมายังต้นทางอีกด้วย
ดูจากตัวจริง เสียงจริงดีกว่าครับ

เจอคุณปู่ C 12 อีกคันหนึ่งครับ แต่วันนี้ จอดอยู่ที่แท่นกลับรถจักร ไม่มีทีท่าจะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด

ดูบั้นท้าย ไม่พ่วงรถลำเลียงอย่างที่เราเคยเห็น แสดงว่าใช้งานเฉพาะช่วงทางระยะใกล้เท่านั้น
มีป้ายบอกผังลานแสดงรถจักรให้เห็นด้วยครับ

มองดูปู่ C 56 44 เห็นพนักงานกำลังสาละวนเติมน้ำ เติมถ่านหินเร่งทำสตีมเป็นการใหญ่ ก่อนที่จะเข้าทำขบวน
ดูบรรยากาศการอุ่นเครื่องกันสักนิดนะครับ

อาจเป็นเพราะชาวคณะมาถึงเช้าเกินไปก็ได้ จึงกลับไปตั้งหลักยังอาคารแสดงโมเดลและภายในสถานี ชิน คานายา ก่อนเวลาแสดงจริงต่อไป

ส่วนคุณอรรณพนั้น ขอตัวไปหาซื้อน้ำดื่มเพราะคอแห้งแต่เช้าแล้ว ก่อนที่จะกลับมาสมทบกับชาวคณะอีกครั้งหนึ่ง

อาคารหลังนี้ เป็นที่แสดงโมเดลรถไฟให้นักท่องเที่ยวได้ชม แต่มีขนาดเล็กกว่าพิพิธภัณฑ์รถไฟที่โอมิยะ

พอเข้าไปข้างในก็ทึ่งกับงานทำโมเดล ซึ่งรวมรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นไว้ด้วยกัน

เข้าไปดูใกล้ๆ กันหน่อย คงไม่ต้องอธิบายซ้ำนะครับ เพราะเราเห็นมาแล้ว

สำคัญอยู่ที่ C 56 คันนี้ สมัยยังประจำการอยู่ที่การรถไฟฯ แต่วันนี้ ชาวคณะได้ดั้นด้นมาดูตัวจริงกันถึงถิ่น

ญาติตระกูลเดียวกันครับ C 12 แต่นิยมใช้ทำขบวนรถในระยะทางสั้นๆ หรือทำเป็นรถจักรสับเปลี่ยนขบวนรถในย่านสถานี

โมเดลของสถานี ชิน คานายา

อันนี้ไม่จำลอง แต่เป็นไฟหน้ารถจักรไอน้ำในสมัยก่อน

โมเดลรถจักรไอน้ำรุ่น D 51 ญาติของรถจักรรุ่น "มิกาโด" ของการรถไฟฯ

รถจักรไอน้ำใช้งานตามโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริษัททำไม้ โดยใช้พลังไอน้ำดันลูกสูบไปหมุนเพลาล้อ เช่นเครื่องยนต์เรือเดินทะเลในสมัยก่อน

ขบวนรถโดยสารใช้พลังไฟฟ้า แทนเครื่องยนต์ดีเซล

น่าสนใจมาก เห็นจะเป็นโมเดลรถไฟซึ่งมีขบวนรถหลากหลายวิ่งกันขวักไขว่ ที่อยู่ในฝันของแต่ละคน รวมทั้งตัวผมด้วย

เห็นแล้วยังนึกๆ อยู่ว่า ทำไมเราไม่เอารางเก่าของรถไฟสายแม่กลอง หรือสายน้ำตก มาทำเป็นของที่ระลึกแบบนี้บ้างหนอ ? ปล่อยให้สูญหายไปตามกาลเวลา น่าเสียดายมากๆ

อ.วิรัตน์ เสนอว่า เพื่อไม่ให้วุ่นวายล่าช้าตอนขากลับ ขอให้แต่ละคนจัดแจงซื้อตั๋วรถไฟกลับไปยังสถานีคานายาด้วย
เนื่องจากผมได้เก็บรูปเรียบร้อยแล้ว พอซื้อตั๋วเสร็จ กะว่าจะเดินออกไปที่ชานชาลาแต่ประตูถูกปิดไว้ นายสถานีบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นทำนองว่า จะเปิดประตูให้ก่อนขบวนรถจะเข้ามาถึงเพียงเล็กน้อย ต้องเดินเกร่ภายในอาคารสถานีนั่นเอง

ชมป้ายโฆษณาไปพลางๆ ที่ญี่ปุ่น มักใช้การ์ตูนในการสื่อความหมายการผู้ชมครับ

แม้แต่ป้ายเตือน ห้ามเล่นริมทางรถไฟ

มีตู้ไปรษณีย์รุ่นคลาสสิกตั้งไว้หน้าอาคารสถานีด้วย คิดว่าคงใช้งานอยู่น่า

จู่ๆ นายสถานีเปิดประตูให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วแล้วออกไปยังชานชาลาและหนึ่งในจำนวนนั้นมีผมที่ติดหลังแหออกมาด้วยสิ
ปรากฎว่าเขาขึ้นขบวนรถขาล่องไปจนหมด เหลือผมค้างอยู่คนเดียวที่ชานชาลา เหอ... เหอ...

ครั้นจะกลับเข้าไป เขาก็ปิดประตูแล้ว เลยมองโน่น ถ่ายรูปนี่ไปพลางๆ
เป็นประแจมือเสือหมอบแบบญี่ปุ่น ท่าทางจะนิรภัยกว่าของบ้านเรา ที่อาจตีกลับได้ เวลารถจักรหนักๆ วิ่งผ่าน

เดินเตร็ดเตร่ได้ไม่นานนัก รถจักรไฟฟ้าที่พ่วงกับขบวนรถพิเศษวันนี้ ได้นำขบวนออกจากย่าน ถอยหลังเข้าเทียบชานชาลาสถานี
เป็นตู้โดยสารรุ่นป้าโอชินยังสาวกระมัง ?

เป็นรุ่นเก่าจริงๆ ด้วย จากที่แอบมองลอดหน้าต่าง จะเห็นที่เขี่ยบุหรี่ยังติดไว้อยู่เลย เพราะตอนนี้ มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่บนขบวนรถแล้วครับ
โอบะซังที่เป็น พรร.ประจำรถ เห็นผมมยืนเก้ๆ กังๆ ที่ชานชาลาสถานี เอ่ยถามว่าผมจะไปไหน เลยตอบเป็นภาษาประกิตไปว่า
" I waiting my friend "
รอดตัวไปได้หนึ่งมื้อ ทราบภายหลังว่าทั้ง อ.วิรัตน์ และคุณอรรณพ กำลังหามุมเหมาะๆ เพื่อถ่ายคลิปครั้งสำคัญนี้
แล้วปู่ C 56 44 แล่นเข้ามาต่อขบวน คราวนี้เป็นทีของผมบ้างล่ะ เพราะเป็นคนเดียวที่อยู่บนชานชาลาขณะนั้น

แถมยังได้ภาพ พขร.กับ ชค. ขณะตรวจสอบความเรียบร้อยบนรถจักรด้วยสิ

ก่อนที่จะลงจากรถจักรไปตรวจสอบความเรียบร้อยของช่วงล่างรถ
ตอนนี้ ทางสถานีได้ปล่อยให้ผู้โดยสารมาขึ้นรถ ทำให้ผมไม่เหงาแล้วล่ะ หลายรายคงทำอย่างที่แฟนรถไฟไทยทำ คือไปจ้องมอง และถ่ายรูปกันคึกคักทีเดียว

ผู้โดยสารต่างเข้าไปนั่งตามที่นั่งซึ่งได้จับจองไว้ ในขณะที่พนักงานได้นำรถเข็นบรรจุของว่างและเครื่องดื่มขึ้นรถไปให้บริการด้วย

เท่าที่สังเกต พื้นตู้โดยสารจะเป็นไม้ล้วนๆ ไม่มีแผ่นไวนิลปูทับแต่ประการใด
พอได้เวลา ขบวนรถไฟพิเศษชักหวีดแล่นออกจากสถานีชิน คานายา โดยมีพี่น้องชาวบ้านและญาติมิตรที่มาส่ง โบกมือให้เป็นทิวแถว

มองไกลๆ ไปทางโรงรถจักร ยังมีรถจักรไอน้ำรุ่น C 56 จอดติดเตาควันกรุ่นอีกหนึ่งคัน เข้าใจว่าคงรับเวรช่วงบ่าย หลังจากขบวนเช้าวันนี้ได้กลับมาจากปลายทางแล้ว

หลังจากไปส่งขบวนรถพิเศษออกเดินทางสมความตั้งใจแล้ว ชาวคณะก็เดินทางกลับไปยังสถานีคานายา เพื่อเดินทางกลับไปที่เมืองนาโกยาต่อไป
Create Date : 10 มิถุนายน 2563 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2563 22:01:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1139 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|