Group Blog
OWL2's blog
<<
เมษายน 2561
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
30 เมษายน 2561
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 4 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 3 )
All Blogs
น่าน น้าน นาน (ตอนจบ)
น่าน น้าน นาน (4)
น่าน น้าน นาน (3)
น่าน น้าน นาน (2)
น่าน น้าน นาน (1)
Konnichiwa Nihon no densha (14)
Konnichiwa Nihon no densha (ตอนจบ)
Konnichiwa Nihon no densha (24)
Konnichiwa Nihon no densha (23)
Konnichiwa Nihon no densha (22)
Konnichiwa Nihon no densha (21)
Konnichiwa Nihon no densha (20)
Konnichiwa Nihon no densha (19)
Konnichiwa Nihon no densha (18)
Konnichiwa Nihon no densha (17)
Konnichiwa Nihon no densha (16)
Konnichiwa Nihon no densha (15)
Konnichiwa Nihon no densha (13)
Konnichiwa Nihon no densha (12)
Konnichiwa Nihon no densha (11)
Konnichiwa Nihon no densha (10)
Konnichiwa Nihon no densha (9)
Konnichiwa Nihon no densha (8)
Konnichiwa Nihon no densha (7)
Konnichiwa Nihon no densha (6)
Konnichiwa Nihon no densha (5)
Konnichiwa Nihon no densha (4)
Konnichiwa Nihon no densha (3)
Konnichiwa Nihon no densha (2)
Konnichiwa Nihon no densha (1)
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( ตอนจบ )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 12 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 11 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 10 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 9 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 8 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 7 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 6 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 5 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 4 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 3 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 2 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 1 )
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (ตอนจบ)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (5)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (4)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (3)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (2)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (1)
ล่องใค้ ไปอีสาน (ตอนสุดท้าย)
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๒ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๑ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๐ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๙ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๘ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๗ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๖ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๕ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๔ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๓ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๒ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑ )
ทานตะวัน Express (2)
ทานตะวัน Express (1)
xinchao Vietnam (ตอนจบ)
Xinchao Vietnam ( 13 )
Xinchao Vietnam ( 12 )
Xinchao Vietnam ( 11 )
Xinchao Vietnam ( 10 )
Xinchao Vietnam ( 9 )
Xinchao Vietnam ( 8 )
Xinchao Vietnam ( 7 )
Xinchao Vietnam ( 6 )
Xinchao Vietnam ( 5 )
Xinchao Vietnam ( 4 )
Xinchao Vietnam ( 3 )
Xinchao Vietnam ( 2 )
Xinchao Vietnam ( 1 )
Meeting สุดชายแดนบูรพา (ตอนสุดท้าย)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (4)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (3)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (2)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (1)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนสุดท้าย)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 5)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 4)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 3)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 2)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 1)
กุลวาขาว แมคคิลวารี
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนสุดท้าย)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 6)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 5)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 4)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 3)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 2)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 1)
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 3 (ส่งท้าย)
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 2
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 1
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 6 (สุดท้าย)
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 5
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 4
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 3
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 2
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 1
ก่อนที่จะมาเป็นถนนวิภาวดีรังสิต
เรื่องราวในอดีตของถนนมิตรภาพ : กรุงเทพฯ - หนองคาย ใน 8 ชั่วโมง
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (12)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (11)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (10)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (9)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (8)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (7)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (6)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (5)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (4)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (3)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (2)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (1)
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 3 )
พอถึงเวลานัดหมาย คุณมัท หัวหน้าทัวร์ แบกไม้เซลฟี่ที่มีโคมไฟฉาย LED แขวนห้อยอยู่ตรงปลาย เดินลิ่วๆ นำคณะพร้อมเดินออกจากโรงแรมไปยังวัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันราว 800 เมตร โดยมีผู้คนเดินสวนไปมาไม่ขาดสาย
ที่นำลิ่วแบบนั้นเพราะ hobby ที่ชอบคือการ trekking แถมยังมีฝีมือด้านทำกับข้าวอีกด้วย เรียกว่าลูกทีมไม่อดก็แล้วกัน แต่ต้องว่องไวเวลาถูกใช้งานนะ ฮ่า...
ทางผมกับน้อง เดินตามไปแบบไม่รีบร้อนนัก เพราะยังไงๆ ต้องไปพร้อมกันตรงที่รับฝากรองเท้าหน้าประตูวัดอยู่แล้ว ต้องถอดรองเท้ารวมกันไว้เป็นสัดส่วน เวลากลับมาจะได้ค้นหาง่าย ไม่วุ่นวาย
ขอโชว์หุ่นนางแบบที่หน้าวัดสักหน่อย 55555
ทางเดินในวัดจะปูด้วยแผ่นกระเบื้องขัดมันเกือบตลอดทั้งลาน แต่ผมเกรงว่าอาจมีการลื่นล้มได้ เวลาเข้าช่วงฝน เวลาเดินต้องระวังด้วยครับ
ตรงหน้าวัด เชื่อกันว่าเรือของพระเจ้าติสสะ ซึ่งบรรทุกก้อนหินใช้บรรจุเส้นพระเกษาของพระพุทธเจ้า ที่พระอินทร์ช่วยหาให้จากใต้ทะเล มาจนถึงตีนเขา และกลายเป็นหินที่นี่
พอขึ้นมาบนลานวัด ผมถึงกับอึ้งในจำนวนผู้คนที่ขึ้นมานมัสการและนอนวัดที่นี่ เรียกว่าแทบไม่มีที่ว่างกันเลย เหลือเพียงช่องทางเดินไว้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น
ไม่มีเสียงลำโพงโฆษณาขายของ รำวงย้อนยุค ภาพยนต์จอยักษ์ หรือสาวน้อยตกน้ำแต่อย่างใด เพราะไม่มีแม้แต่ร้านเดียว
มีแต่เสียงจากกองอำนวยการของทางวัดประกาศแจ้งเรื่องต่างๆ ให้ผู้มาสักการะได้ทราบเพียงนานๆ ครั้ง
ผู้คนมากมายขนาดไหน ลองดูเอาเถิด หลายรายเช่าเสื่อกับผ้าห่มที่นี่ เรียกว่าคนให้เช่ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำทีเดียว
แต่จะซักหรือตากแดดบ้างหรือเปล่า ผมไม่ทราบนะ
โฮ้ย...กว่าจะแหวกผู้คนจนมาถึงนี้ได้
ถามกับหัวหน้าทัวร์ ขนาดวันมาฆะบูชา ผู้คนยังขนาดนี้ แล้ววันวิสาขบูชาล่ะ ?
คำตอบที่ได้ยินคือเสียงหัวเราะ ก่อนที่จะบอกว่า พยายามเลื่อนเวลานมัสการไม่ให้ตรงกับช่วงที่ผู้คนหนาแน่นแบบนี้ ถึงจะได้รับความสะดวกพอควร
ได้ดอกไม้พร้องทองคำเปลวสักการะองค์พระธาตุแล้วล่ะ
ที่พม่า ไม่มีการเวียนเทียนดอกไม้สด และแผ่นทองคำเปลวก็เป็นของแท้ผูกด้ายแดงติดกับห่อกระดาษเรียบร้อย
มิใช่ทองวิทยาศาสตร์แบบหลายๆ แห่งในบ้านเรา
หลังจากรับแผ่นทองคำเปลวที่ลูกทัวร์ฝ่ายหญิงฝากไปปิดบริเวณก้อนหินใหญ่ ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากมีผู้คนมากมาย
บางรายที่แก่เฒ่า นอกจากจะปิดทองแล้ว ยังสวดมนต์อีกบทใหญ่ๆ ทำให้ล่าช้าเป็นทวีคูณ
แต่ไม่ว่ากันครับ เรื่องรับฝากแผ่นทองคำเปลวไปปิด มากันตั้งไกลเพื่อทำบุญด้วยกันทั้งนั้น จะทำใจจืดใจดำก็เกินไปล่ะ
มาถึงตอนสำคัญ เอายาผงแดงที่ขึ้นรถไฟไปซื้อหาถึงเมืองลำปางมาโชว์กับสถานที่จริงด้วย โดยมีไกด์ช่วยอาสาบันทึกภาพ
เลยถือโอกาสถามถึงคำแปลจากภาษาพม่าที่ซองยา ได้รับคำตอบว่า "ยาผงพระเจดีย์อินทร์แขวนแก้ลม" เลยให้ยาซองนั้นเป็นรางวัล
และในวันรุ่งขึ้น ยกห่อยาที่เหลือทั้งหมดให้กับหัวหน้าทัวร์ เพื่อนำไปแจกกับทีมงานอีกด้วย
เสร็จแล้ว ขอบันทึกภาพร่วมกันระหว่างสองคนพี่น้องที่ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่
มีบันไดลงไปชั้นล่างเพื่อนมัสการองค์พระธาตุอินทร์แขวน โดยไม่มีการหวงห้ามระหว่างเพศแต่ประการใด ยกเว้นการปิดทองเท่านั้น
อย่าเพิ่งต่อว่ามีภาพพระธาตุอินทร์แขวนค่อนข้างมากกว่าแห่งอื่น เพราะได้ยินกิตติศัพท์มาตั้งแต่เล็ก เพิ่งมาเห็นของจริงในคราวนี้เอง
เห็นแล้วทึ่ง ที่ตั้งอยู่หมิ่นเหม่ตรงหน้าผา นับว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งก็ได้
บริเวณลานชั้นล่าง พอมีที่ทางให้สวดมนต์ภาวนาได้บ้างครับ
แถมผู้คนไม่ค่อยหนาแน่นเหมือนชั้นบน สามารถสวดมนต์ได้สบายใจ
อีกหนึ่งมุมมองในด้านที่เคยเห็น ก่อนเดินขึ้นบันไดกลับมายังชั้นบน
จะไม่มีรั้วใดๆ มาบดบังความงดงามตามธรรมชาติครับ แต่คนมาสักการะปิดทองต้องระวังตัวเองด้วย
กลับมาสู่ความพลุกพล่านของผู้คนบริเวณลานวัดอีกครั้งหนึ่ง
ขอนำมาแวะอาคารซึ่งแสดงถึงรูปปั้นในตำนานผู้เกี่ยวข้องกับพระธาตุอินทร์แขวน รวมถึงรอยพระพุทธบาทจำลอง และภาพปูนปั้นความเป็นมาของพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งผู้หญิงสามารถปิดทองพระธาตุตรงนี้ได้อีกด้วย
ตามตำนานเล่าว่า พระอินทร์เป็นผู้นำก้อนหินนี้มาวางไว้ให้ และเป็นที่มาของคำว่า ไทก์จิโย เป็นภาษามอญแปลว่า หินรูปหัวฤาษี ครับ
เริ่มจากพระพุทธเจ้าทรงประทานพระเกศาแก่เหล่าฤาษีเพื่อนำไปให้เหล่าพุทธศาสนิกชนไปสักการะบูชา ซึ่งฤาษีแต่ละตนได้นำไปบรรจุในพระเจดีย์ต่างๆ ยกเว้นฤาษีตนหนึ่งแอบเก็บเอาไว้เอง โดยซ่อนไว้ในมวยผม เมื่อเวลาผ่านไป ถึงคราวที่ฤาษีตนนี้ต้องละสังขาร จึงมอบพระเกศานี้ให้แก่พระเจ้าติสสะและสั่งไวว่าจะต้องบรรจุลงในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายศรีษะของตน
ร้อนถึงพระอินทร์เมื่อทราบเรื่อง จึงช่วยหาก้อนหินดังกล่าวจากใต้มหาสมุทร นำไปวางที่หน้าผา (บางตำนานกล่าวว่า นำมาไว้ในเรือของพระเจ้าติสสะ และบรรทุกมาจนถึงตีนเขา เมื่อมาถึง เรือที่บรรทุกมากลายเป็นหิน คือที่เราเห็นที่ประตูวัดนั่นแหละ)
ตามหลักธรณีวิทยา กล่าวว่า บริเวณนี้ครั้งดึกดำบรรพ์เคยเป็นทะเลมาก่อน ครั้นเปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงดันตัวขึ้น ก้อนหินดังกล่าวคงถูกดันขึ้นมาจากใต้ทะเลเช่นกัน และยังคงขยับตัวได้ มิได้ติดแน่นบนหน้าผาแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่อยู่ในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวในเวลต่อมาอีกหลายครั้งก็ตาม
ว่ากันว่า เคยมีผู้ทดลองใช้เส้นด้ายชักผ่านระหว่างก้อนหินกับหน้าผา ปรากฎว่าสามารถชักผ่านได้ตลอด กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งหนึ่ง
ตามตำนานยังกล่าวอีกว่า ก้อนหินนี้ แต่ก่อนยังลอยสูง ไม่แตะพื้น ขนาดไก่ยังลอดได้ เนื่องจากมนุษย์ยังมีจิตใจเป็นกุศล ต่อมา ได้ลดต่ำลงเรื่อยๆ จนติดพื้นเพราะมีผู้กระทำชั่วมากขึ้นจนถึงทุกวันนี้
อาคารอีกหลังที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของนัต หรือเทพคุ้มครองสถานีที่นี้ คือ พระนางชเวนันจิน ซึ่งมีรูปปั้นนอนอยู่ เชื่อถือกันว่า หากเจ็บป่วยส่วนใดของร่างกายให้แตะไปที่ส่วนนั้นของรูปปั้นพระนางและอธิษฐาน อาการจะทุเลา (อย่าลืมวางเงินบูชาด้วยนะครับ)
เนื่องจากมีผู้คนมากหลายมาบนบานศาลกล่าว จึงไม่ได้เก็บภาพมาให้เห็น
หลังจากเยี่ยมชมวัดจนเป็นที่พอใจแล้ว ชาวคณะกลับถึงที่พักในเวลา 22.00 น.
Create Date : 30 เมษายน 2561
Last Update : 30 เมษายน 2561 9:09:40 น.
2 comments
Counter : 543 Pageviews.
Share
Tweet
พม่าน่าไปเที่ยวมาก... เคยไปแต่ เมืองบากัน ดูเจดีย์กับที่อื่น
พระธาตอินแขวนนี่ยังไม่เคยไป คงมีสักวันได้ไปครับ
ชอบใจ หนุ่มสาว ไปทำงานประจำวัน หิ้วปิ่นโตไปกัน...
โดย:
ไวน์กับสายน้ำ
วันที่: 30 เมษายน 2561 เวลา:10:37:31 น.
เท่าที่อ่านในพันทิพ จะมีเกจิเรื่องพม่าเยอะที่สุดครับ แต่ไม่ค่อยซอกแซกเหมือนผม เสาไฟฟ้า ป้ายทะเบียนรถบ้านเขาก็ถ่ายรูปมาหมด
ผู้คนบ้านเขายังนิยมหิ้วปิ่นโตจากบ้าน ทั้งๆ ที่ร้านแผงลอยก็มีพอสมควร ราคาคงแพงกระมัง ? ถ้าคิดเป็นเงินจ๊าด
แต่เมืองพม่า ร้านสะดวกซื้อยังไม่มีอย่างบ้านเรานะครับ ถ้าเป็นร้านประเภทนั้น จะเป็นร้านชำ อยู่ในห้องกระจกมากกว่า แต่ไม่ติดแอร์
โดย:
owl2
วันที่: 30 เมษายน 2561 เวลา:14:19:35 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
owl2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add owl2's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
พระธาตอินแขวนนี่ยังไม่เคยไป คงมีสักวันได้ไปครับ
ชอบใจ หนุ่มสาว ไปทำงานประจำวัน หิ้วปิ่นโตไปกัน...