Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Xinchao Vietnam ( 3 )

ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก่อนเสียงโทรฯ ปลุกอัตโนมัติของโรงแรม กลิ้งตัวไปมาได้สักพัก ถึงจะรู้ว่าตัวเองนอนอยู่ในเวียตนามนี่หว่า ห่างจากกรุงเทพฯ ร่วมพันกิโลเมตร 

ชักจะแก่ตัวแล้วครับ



คว้ากล้องลองบันทึกภาพแรกของวัน ชาวบ้านชาวเมืองยังไม่ตื่นนอนกันเลย แต่ผมว่าคงมีบางส่วนไปแออัดกันแถวตลาดสดแล้วก็ได้



รถประจำทางท้องถิ่นที่วิ่งในเมืองกับอำเภอใกล้เคียงครับ สีเหลือง-แดง ทำให้ผมคิดถึงสีเก่าแก่ของรถรางสมัยโน้นของบ้านเรา



"ชินจ่าว... Good Morning Teacher" เสียงไกด์แซวคณะทัวร์ดังขึ้น ก่อนที่จะสาธยายเส้นทางข้างหน้าไปยังจุดหมายแห่งต่อไป คือ อ่าวฮาลอง (Halong Bay) ซึ่งมีระยะทางร่วม 300 กม.เศษ

เส้นทางจะใช้เส้นทางสาย 1 เอ ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักจากชายแดนเวียตนาม - จีน ที่ จ.ลางเซิน (Lang Son) ผ่านกรุงฮานอย (Hanoi) บิงดิ่ง (Binh Dinh) แทงหัว (Thanh Hua) เหง่อานห์ (Nghe Anh) ดานัง (Da Nang) ลงไปจนถึง นครโฮจิมินห์ (Tan Pho Ho Chi Minh) สุดสายที่ จ.นินห์ไห่ (Ninh Hai) ที่เมืองกาเมา (Ca Mao)

และหลังจากนั้น จะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐ ผ่าน จ.ไทบินห์ (Thai Binh) ไฮฟอง (Hai Phong) และ จ.กวางนินห์ (Quang Ninh) แต่สิ้นสุดที่อ่าวฮาลอง (Halong Bay) เท่านั้น

ด้วยเส้นทางช่วงดังกล่าว มีรถรามากหลาย และมีเส้นทางช่วงปรับปรุงหลายแห่ง จึงให้ชาวคณะที่ไม่อยากมองทิวทัศน์สองข้างทาง เอนหลังพักสายตาได้ตามอัธยาศัย จนกว่าจะพักรับประทานอาหารกลางวันที่เมืองแทงหัว (Thanh Hoa) หรือเล่นเกมส์ฝึกสมองด้านท้ายรถก็ได้



รถประจำทางระหว่างจังหวัด เริ่มออกจากกรุงฮานอยแล้วครับ ส่วนรถจากนครโฮจิมินห์ (Tan Pho Ho chi minh) และจังหวัดทางใต้ ยังมาไม่ถึง



เคยได้ยินว่ารถประจำทางเที่ยวกลางคืนมีรถนอนด้วย เพิ่งเห็นกับตาวันนี้เองครับ เป็นเบาะเอนนอนสองชั้น ชั้นบนสำหรับผู้ไม่ชอบดูโทรทัศน์ และชั้นล่างสำหรับผู้ที่ชอบดูโทรทัศน์ระหว่างเดินทาง แต่ผมว่าที่สำคัญนั้น ผู้โดยสารต้องอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถด้วย

ไม่มีห้องน้ำในรถแต่อย่างใด จะแพ้รถทัวร์เมืองไทยก็ตรงนี้แหละ



และเส้นทางรถไฟสายไซ่ง่อน - ฮานอย ได้เข้ามาเคียงคู่กับถนนสาย 1 เอ และตัดผ่านไปอยู่ทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง จนกระทั่งถึงเมือง นามดิ่งห์ (Nam Dinh) จึงจะแยกซ้ายสู่กรุงฮานอย



เส้นทางหลวงสาย 1 เอ ถึงแม้จะลาดยางตลอดสาย แต่มียวดยานทุกประเภทใช้เส้นทางสายนี้ และมีชุมชนหลายแห่งสองข้างทาง จึงทำให้การสัญจรล่าช้า โดยสามารถใช้ความเร็วนอกเมือง 60 กม./ชม. และในเมือง 40 กม./ชม. ทำให้มีผู้ให้สมญาว่า "ถนนมีชีวิต"

ผมเริ่มเห็นคุณสมบัติของคนขับรถยนต์เวียตนามก็ตรงนี้แหละ และคิดว่าเสียงแตรรถยนต์ก็มีความสำคัญเช่นกัน



พ้นจากเขต จ.เหง่อาห์น (Nghe Anh) จะมีข้อสังเกตคือมีด่านเก็บเงินค่าใช้ทาง ทั้งที่ไม่ใช่เส้นทางด่วนแต่อย่างใด

ไกด์ได้อธิบายให้ทราบว่า หากทางจังหวัดต่างๆ ของเวียตนามจะพัฒนาเส้นทางในพื้นที่แล้ว หลังจากพัฒนาเสร็จ จะมีการตั้งด่านเก็บเงินดังที่ว่า จนกว่าจะได้เงินครบตามที่ได้ลงทุนไปครับ

เท่าที่เห็น มี จ.ไฮฟอง (Hai Phong) ที่ไม่มีการเก็บเงินแต่อย่างใด อาจเป็นว่ามีงบประมาณเหลือเฟือพอที่จะพัฒนาแล้วก็ได้



พักเติมน้ำมัน และให้ลูกทัวร์ทิ้งน้ำหนักในร่างกายตามอัธยาศัยครับ



ภูมิใจแทนบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลังของไทยเราจริงๆ เท่าที่ผมมอง ไม่มีเจ้าไหนที่หาญพอจะทาบได้เลย



สินค้าที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของ จ.แทงหัว (Thanh Hoa) คือนกหลากพันธุ์ที่มีจำหน่ายตามเต๊นท์ครับ เหมือนทางภาคใต้ของเราเลย



และ "ยาแดง" ครับ ยาสูบพื้นบ้านซึ่งมีประจำครัวเรือนของชาวชนบทเวียตนาม



ราว 11.00 น. คณะทัวร์ก็เข้าสู่เมืองแทงหัว (Thanh Hoa) และหยุดพักรับประทานมื้อกลางวันที่นี่



Create Date : 05 มิถุนายน 2556
Last Update : 6 มิถุนายน 2556 11:36:50 น. 2 comments
Counter : 1597 Pageviews.

 
ไม่รู้ว่านั่งรถ 40 - 60 กม.ต่อชั่วโมงนี่ใจขาดแน่เลย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:14:12:27 น.  

 
นั่นแหละครับ ถึงไม่อยากมีใครไปเวียตนามทางรถยนต์ ยกเว้นไปเที่ยวระยะใกล้ๆ เท่านั้่น


โดย: owl2 วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:15:19:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

owl2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add owl2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.