Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Xinchao Vietnam ( 2 )



ป้ายกำหนดความเร็วของยานพานะเมื่อผ่านในเขตชุมชนเมืองครับ โดยกำหนดความเร็วเพียง 40 กม./ชม.เท่านั้นเอง

เป็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งถ้ารถวิ่งบนถนนหลวง ซึ่งมียวดยานหลากหลายชนิด และเราจะได้เห็นกันต่อไป



เต๊นท์พิธีแต่งงานครับ วันฤกษ์งามยามดีของพี่น้องชาวเวียตนาม มักจะเป็นวันศุกร์และเสาร์ มีการเลี้ยงแขกในช่วงกลางวัน ไม่มีติดพันยืดเยื้อจนถึงเวลากลางคืนอย่างบ้านเรา

ถ้าใครถูกรับเชิญไปงานพิธีมงคลแบบนี้ ต้องครองสติให้อยู่ เพราะที่นี่เขาชนแก้วต่อแก้ว แล้วดื่มให้หมดด้วยครับ



ไกด์บอกว่า ใกล้ถึงเมืองวิงห์ (Vinh) แล้ว แต่ในฐานะจังหวัดเหง่ห์อาน (Nghe Anh) ที่เป็นบ้านเกิดของประธานโฮจิมินห์ จึงขอไปแวะชมสถานที่เกิดของท่านที่บ้านกิมเลียน (Kim Lien) กันก่อน

ผ่านท้องทุ่ง ระหว่างเดินทางไปยังบ้านกิมเลียน (Kim Lien)

เสาไฟฟ้าต้นเดี่ยวที่เห็น เป็นเหล็กท่อครับ ต่อกันเป็นสองท่อนเช่นเดียวกับเสาโคมไฟส่องสว่างตามสี่แยกของบ้านเรา ไม่ใช่เสา คสล.



แล้วเราก็มาถึงบ้านกิมเลียน (Kim Lien) เพื่อเยี่ยมบ้านเกิดของประธานโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ แล้วล่ะครับ



ชาวคณะตามไกด์ประจำสถานที่ไปยังศาลเซ่นไหว้บรรพบุรุษของลุงโฮหรือ โฮจิมินห์ ซึ่งเป็นคนรุ่นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ กันเป็นทิวแถว



ว่ากันว่า บิดาของลุงโฮจิมินห์ มีความอดทนเป็นเลิศ ลงทุนหอบลูกเมียเดินทางไปสอบจอหงวนตามประเพณีโบราณที่เมืองเว้ (Hue) ถึงห้าหนกว่าจะสอบได้ และบรรจุไปรับราชการยังบ้านเกิด

แม่ของโฮจิมินห์ ถึงแก่กรรมในขณะคลอดบุตรคนที่ห้าครับ



ป้ายชื่อแสดงสาแหรกจองตระกูลโฮจิมินห์ ดูกันไม่หวาดไหว เพราะเป็นภาษาเวียตนาม



บ้านของครอบครัวโฮจิมินห์ตามลักษณะบ้านในชนบทของเวียตนามสมัยนั้น ซึ่งผมเห็นแล้วเริ่มเข้าใจว่าทำไม ชาวเวียตนามถึงได้มีความเห็นอยู่ที่สมถะ และอยู่ได้ตลอดสงครามอินโดจีน



ข้าวของสัพเพเหระที่ใช้ในบ้านของครอบครัวลุงโฮในสมัยนั้น



สมัยโน้น ชาวบ้านต้องทอผ้าใช้งานเอง ก่อนที่จะตัดเย็บ ย้อมสีใช้สวมใส่ต่อไป

ว่ากันว่า ระหว่างที่ทอผ้าอยู่นั้น ถ้ามีลูกเล็ก ก็ต้องไกวเปลไปด้วย ท่ามกลางความคับแคบของตัวบ้าน ฝรั่งนั้นทึ่ง แต่ผมว่า คงไม่ยากหรอกครับ ถ้าจะทำงานบ้านและเลี้ยงลูกไปด้วย



คูหาที่นอน มิได้ปูฟูก แต่ปูด้วยเสื่อ มีเพียงม่านบังตาทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสัดส่วนเท่านั้นครับ

ที่เหลือนั้น นอนกระจัดกระจายภายในบ้านนั่นแหละ



นางแบบจำเป็น กับร้านจำหน่ายของที่ระลึกครับ



ลักษณะบ้านพักของชาวเวียตนาม ระหว่างเดินทางต่อไปสู่เมืองวิงห์ (Vinh)

เนื่องจากดอกบัว เป็นดอกไม้ประจำบ้านเกิดของลุงโฮจิมินห์ ทางการเวียตนามจึงเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติจนทุกวันนี้



เข้าเขตเมืองวิงห์ (Vinh) ล่ะครับ

รถจักรยาน เป็นยานพาหนะที่กำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ กลับกันกับรถมอเตอร์ไซต์ที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะ

ทางการยังไม่อนุญาตให้นักเรียนใช้รถจักรยานยนต์ และไม่อนุญาตให้จดทะเบียนใช้งานที่กรุงฮานอย (Hanoi) ซึ่งปัจจุบันมีมากมายอยู่แล้ว

หมวกกะโล่ที่สวมใส่ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นทหารผ่านศึก แต่เห็นตามร้านจำหน่ายต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยว มีหมวกกะโล่ตังกล่าวจำหน่ายด้วย แถมตราของกองทัพเวียตนามเหนือ ติดไว้เสร็จสรรพ



ประสาทหูผมเริ่มสร้างความคุ้นเคยกับเสียงแตรรถในเวียตนาม แต่คงไม่มากเท่าอินเดีย



เท่าที่พบเห็นบนท้องถนน ผู้หญิงชาวเวียตนามจะออกมาทำงานนอกบ้านมากกว่าแห่งอื่นๆ ครับ

จากการสอบถาม ได้ข้อมูลว่า สังคมชาวเวียตนามยังให้ความสำคัญกับผู้ชายเช่นเดียวกับจีน โดยผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว และผู้สืบทอดตระกูล ดังนั้น ผู้ชายมักจะทำงานสบายๆ พอเสร็จงานก็เข้าวงสังสรร ในขณะที่ผู้หญิงต้องทำงานต่อไปจนถึงค่ำมืดหรือเสร็จงาน ถึงจะพักผ่อนมีเวลาเป็นส่วนตัวได้

ในปัจจุบัน ผู้ชายชาวเวียตนามนอกจากจะอยู่ที่บ้านแล้ว ส่วนหนึ่งยังไปทำงานยังนอกประเทศ



ใครว่าสาวเวียตนามสมัยใหม่หุ่นไม่สวย แต่งตัวเชยๆ ขอได้กลับไปคิดใหม่นะครับ



เป็นภาพใหม่ที่ผมเพิ่งเห็นเกี่ยวกับแท็กซี่ในเวียตนาม ซึ่งจะได้เห็นทั่วไปในตัวเมืองใหญ่ เป็นรถขนาด eco car รับผู้โดยสารได้ไม่เกิน ๗ คน ถ้ามากกว่านั้นจะมีรถแท็กซี่ขนาดใหญ่กว่านี้

นอกจากจะเป็นแท็กซี่มิเตอร์แล้ว การเรียกใช้บริการต้องผ่านโอเปอเรเตอร์ซึ่งรวมค่าบริการเอาไว้ด้วย ไม่ได้วิ่งเพ่นพ่านแบบบ้านเรา



แล้วเราก็มาถึงโรงแรมที่พักประจำวันนี้ คือ โรงแรมเฟืองดง (Phuong Dong Hotel) เป็นโรงแรมสร้างใหม่ อยู่บริเวณสามแยกทางหลวงหมายเลข 1 A ซึ่งเชื่อมระหว่างนครโฮจิมินห์กับกรุงฮานอย

ซึ่งไกด์บอกว่า ถ้าใครสนใจจะไปเยี่ยมชมอนุสาวรีย์โฮจิมินห์ ซึ่งอยู่บริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆ นั้น จะพาไปชมหลังอาหารมื้อเย็นครับ



ตัวเมืองวิงห์ (Vinh) มองจากห้องพักซึ่งอยู่ชั้นที่ 11 ของโรงแรมครับ สนามที่โล่งมองเห็นใกลๆ นั้น เป็นสวนสาธารณะอันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์โฮจิมินห์



จ.เหง่อาห์น (Nghe Anh) ถึงแม้ว่าเมืองฮาติงห์ จะแยกตัวออกไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่แล้ว ยังเป็นจังหวัดที่ใหญ่ทีสุดในเวียตนามครับ โดยมีเมืองวิงห์ (Vinh) เป็นเมืองเอกของจังหวัด เทียบเท่ากับ อ.เมืองฯ ในบ้านเรานั่นแหละ



อาหารมื้อเย็นวันนี้ ไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่นะครับ จากที่บรรดาลูกทัวร์พยายามแยกแยะก็มี ผัดผักรวม ไข่เจียว ผัดผักบุ้ง แกงเลียง ผัดเต้าหู้ และก็แกงจืดผักโขม แต่รสชาติออกจะจืดไปนิด จนต้องเรียกหาน้ำปลามาเสริม

เท่าที่สังเกต พนักงานที่นี่ หลายคนเริ่มฝึกพูดไทยได้ เนื่องจากมีคณะทัวร์จากเมืองไทย มาแวะนอนอยู่หลายคณะ แถมบางราย ยังสอนพูดภาษาไทยด้วยความเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานอีกด้วย จนผมคิดถึงอนาคต ถ้าอาเซียนเป็นหนึ่ง และเด็กไทยนั้นหันไปเรียนภาษาเกาหลีตามกระแสเห่อดารา ?

หลังจากเสร็จมื้อเย็นแล้ว หลายคนเริ่มตามไกด์ไปยังอนุสาวรีย์โฮจิมินห์ตามสัญญา ซึงมีพี่น้องชาวเมืองตั้งวงแอโรบิค และกีฬากันหลายวงทีเดียวครับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูสถานการณ์ตลอดเวลา

สวนสาธารณะแห่งนี้จะปิดราว ๒๒.๐๐ น.



คราวนี้ก็ถึงตาของช่างภาพบ้าง ฮิ ฮิ

เสียงไกด์กำชับก่อนแยกย้ายเข้าห้องพักว่า ขอนัดเวลาเป็น ๕ - ๖ - ๗ คือ ตื่นเวลา ๐๕.๐๐ น. พร้อมกันทานมื้อเช้าเวลา ๐๖.๐๐ น.และล้อหมุนเวลา ๐๗.๐๐ น.

เพราะสถานที่พักแห่งต่อไปในวันรุ่งขึ้น คือ ฮาลอง เบย์ ระยะทาง ๓๐๐ กว่า กม.ครับ




Create Date : 03 มิถุนายน 2556
Last Update : 7 มิถุนายน 2556 17:59:36 น. 2 comments
Counter : 2066 Pageviews.

 
ชอบค่ะ อ่านและดูภาพเหมือนได้ไปด้วย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:14:18:43 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: owl2 วันที่: 7 มิถุนายน 2556 เวลา:15:29:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

owl2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add owl2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.