Group Blog
OWL2's blog
<<
มิถุนายน 2563
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
17 มิถุนายน 2563
น่าน น้าน นาน (3)
All Blogs
น่าน น้าน นาน (ตอนจบ)
น่าน น้าน นาน (4)
น่าน น้าน นาน (3)
น่าน น้าน นาน (2)
น่าน น้าน นาน (1)
Konnichiwa Nihon no densha (14)
Konnichiwa Nihon no densha (ตอนจบ)
Konnichiwa Nihon no densha (24)
Konnichiwa Nihon no densha (23)
Konnichiwa Nihon no densha (22)
Konnichiwa Nihon no densha (21)
Konnichiwa Nihon no densha (20)
Konnichiwa Nihon no densha (19)
Konnichiwa Nihon no densha (18)
Konnichiwa Nihon no densha (17)
Konnichiwa Nihon no densha (16)
Konnichiwa Nihon no densha (15)
Konnichiwa Nihon no densha (13)
Konnichiwa Nihon no densha (12)
Konnichiwa Nihon no densha (11)
Konnichiwa Nihon no densha (10)
Konnichiwa Nihon no densha (9)
Konnichiwa Nihon no densha (8)
Konnichiwa Nihon no densha (7)
Konnichiwa Nihon no densha (6)
Konnichiwa Nihon no densha (5)
Konnichiwa Nihon no densha (4)
Konnichiwa Nihon no densha (3)
Konnichiwa Nihon no densha (2)
Konnichiwa Nihon no densha (1)
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( ตอนจบ )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 12 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 11 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 10 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 9 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 8 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 7 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 6 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 5 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 4 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 3 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 2 )
มิงกาลาบาห์ เมียนมาร์ ( 1 )
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (ตอนจบ)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (5)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (4)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (3)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (2)
พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (1)
ล่องใค้ ไปอีสาน (ตอนสุดท้าย)
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๒ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๑ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑๐ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๙ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๘ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๗ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๖ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๕ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๔ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๓ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๒ )
ล่องใต้ ไปอีสาน ( ๑ )
ทานตะวัน Express (2)
ทานตะวัน Express (1)
xinchao Vietnam (ตอนจบ)
Xinchao Vietnam ( 13 )
Xinchao Vietnam ( 12 )
Xinchao Vietnam ( 11 )
Xinchao Vietnam ( 10 )
Xinchao Vietnam ( 9 )
Xinchao Vietnam ( 8 )
Xinchao Vietnam ( 7 )
Xinchao Vietnam ( 6 )
Xinchao Vietnam ( 5 )
Xinchao Vietnam ( 4 )
Xinchao Vietnam ( 3 )
Xinchao Vietnam ( 2 )
Xinchao Vietnam ( 1 )
Meeting สุดชายแดนบูรพา (ตอนสุดท้าย)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (4)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (3)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (2)
Meeting สุดชายแดนบูรพา (1)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนสุดท้าย)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 5)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 4)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 3)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 2)
สะบายดี...จำปาสัก (ตอนที่ 1)
กุลวาขาว แมคคิลวารี
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนสุดท้าย)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 6)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 5)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 4)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 3)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 2)
เที่ยวไปกับทัวร์ Circular Train (ตอนที่ 1)
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 3 (ส่งท้าย)
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 2
เที่ยวสุพรรณ....กับด่วนขุนแผน ตอนที่ 1
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 6 (สุดท้าย)
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 5
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 4
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 3
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 2
เที่ยวฉ่ำฝน (ที่ไม่ใช่ธรรมดา) ตอนที่ 1
ก่อนที่จะมาเป็นถนนวิภาวดีรังสิต
เรื่องราวในอดีตของถนนมิตรภาพ : กรุงเทพฯ - หนองคาย ใน 8 ชั่วโมง
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (12)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (11)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (10)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (9)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (8)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (7)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (6)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (5)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (4)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (3)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (2)
สารคดีสั้น...จาก "คนเมือง" (1)
น่าน น้าน นาน (3)
ได้เวลาออกไปต่างอำเภอแล้วค
รับ
วันนี้มีคิวเดินทางไปยังที่
พัก อ.ปัว แต่ทว่า ไม่ใช่ตรงไปยังที่นั่น มันง่ายไป ระดับเราต้องใช้เส้นทางหลวง
หมายเลข 1169 น่าน - สามแยกบ้านดู่พงษ์ อ.สันติสุข
หลังจากที่โรงเรียนและส่วนร
าชการต่างๆ เริ่มทำงานกันแล้ว สองคนพี่น้องล้อเริ่มหมุนออ
กจากที่พัก ข้ามสะพานพัฒนาภาคเหนือ ไปยังวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง อยู่ฝั่งตะวันออกแม่น้ำน่าน
นี้เอง
เมื่อ พ.ศ.1896 พญาการเมือง เจ้าผู้ครองนครน่าน (องค์ที่ 5) ได้รับพระราชทานพระบรมสารีร
ิกธาตุรวม 7 องค์ พร้อมด้วยพระพิมพ์ทองคำ 20 องค์ พระพิมพ์เงิน 20 องค์ จากพระเจ้าไสลือไท กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย
พระเถระชั้นผู้ใหญ่ พิจารณาเห็นว่า ดอยภูเพียงแช่แห้ง เป็นชัยภูมิดี จึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาต
ุ พร้อมด้วยพระพิมพ์ทอง พระพิมพ์เงิน ไปยังดอยภูเพียงแช่แห้ง ประจุลงในเต้าปูน ทองสำริด แล้วพอกด้วยสะตาย (ปูนขาวผสมยางไม้) แล้วขุดหลุมลึก 1 วา อาราธนาพระบรมสารีริกธาตุ ประจุไว้ในหลุมกลบดินแล้วก่
อเจดีย์สูง 1 วา ทับไว้อีกชั้น
ในกาลต่อมาจึงย้ายเมืองวรนค
ร (นครน่าน) จากท้องที่อำเภอปัว (ในปัจจุบัน) มาสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เชิ
งดอยภูเพียงแช่แห้ง ทรงขนานนามตามชื่อดอยว่า “เมืองภูเพียงแช่แห้ง” สืบมา
พญาการเมือง ปกครองเมืองใหม่นี้ได้เพียง
5 ปี ก็ถึงแก่พิราลัย พญาผากองผู้เป็นโอรส ได้ขึ้นครองเมืองสืบมาอีก 6 ปี เห็นว่าที่ตัวเมืองภูเพียงแ
ช่แห้งเป็นที่กันดารน้ำในฤด
ูแล้ง ชัยภูมิริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั
่งตรงข้าม คือ บริเวณห้วยไคร้ ห่างจากเดิมไปทางทิศตะวันตก
ประมาณ 60 เส้น เป็นที่เหมาะสมกว่า
ปี พ.ศ.1911 พญาผากองจึงอพยพไพร่พล ประชาชน ข้ามลำน้ำน่าน มาตั้งเมือง คือที่ตั้งตัวเมืองน่าน หรือจังหวัดน่านในปัจจุบัน
กิ่งอำเภอภูเพียงจึงตั้งอยู
่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดน
่าน โดยแยกออกจากอำเภอเมืองน่าน
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2540 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2540 ได้รับยกฐานะเป็นอำเภอตามพร
ะราชกฤษฎีกา ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา
ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 124 ตอนที่ 46 ก. ลงวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2550 โดยมีผลบังคับเมื่อพ้นสิบห้
าวันนับแต่วันประกาศในราชกิ
จจานุเบกษา ซึ่งส่งผลมีฐานะเป็นอำเภอตั
้งแต่วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2550 เป็นต้นไป
Cr. ภาพประกอบจาก Google Earth
วัดพระธาตุแช่แห้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปปร
ะมาณ 3 กิโลเมตร องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเ
ขาลูกเตี้ยๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและคว
ามสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุ
โขทัยในอดีต
ปัจจุบันทางมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย ตั้งวิทยาเขตน่าน อยู่ที่นี่ด้วย
เข้านมัสการพระประธานในพระอ
ุโบสถเพื่อความเป็นศิริมงคล
แก่ตัวเองกันก่อน
องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเ
นินปูด้วยอิฐสวยเด่น เป็นสง่าตั้งแต่ไกลครับ
พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำนักษัตรคนท
ี่เกิดปีเถาะ (กระต่าย) มีงานฉลองพระธาตุประจำปี ราวกลางเดือนหกฝ่ายเหนือ ซึ่งตรงกับเดือนสี่ฝ่ายใต้
มองลงมาตามทางลาดที่ขึ้นไปย
ังยอดเนิน ซึ่งกว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง เรียกว่าทหารเดินเรียงหน้าก
ระดานแถวละ 100 คน ยังเดินขึ้นไหว ไม่แออัด
ภายหลังทางจังหวัดได้ทำถนนลาดยางเพื่ออำนวยคว
ามสะดวกแก่ผู้ขึ้นมานมัสการ
ไม่เกี่ยวกับคนประจำปีเกิดน
ักษัตรปีเถาะ แต่ขอเป็นนางแบบที่วัดพระธา
ตุแช่แห้งเฉยๆ
จากวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ผมก็วนเวียนดูที่ว่าการอำเภ
อภูเพียงและส่วนราชการประจำ
อำเภอ ก่อนที่จะขับตามเส้นทางหลวง
ชนบทผ่านสี่แยกบ้านม่วงตึ๊ด
โดยไม่คาดฝัน
รีบจอดรถข้างรั้วโรงเรียนบ้
านม่วงตึ๊ด แล้วบันทึกภาพเป็นที่ระลึกว
่า เรานี้ได้มาถึงแล้ว หลังจากคาใจกับชื้อ "ม่วงตึ๊ด" นี้มานาน เป็นหมู่บ้านหนาแน่นทีดียว ยังมีฐานะเป็น อบต.ยังไม่ยกระดับเป็นเทศบา
ลตำบลแต่อย่างใด
แถมวัดม่วงตึ๊ดให้อีกรูปหนึ
่งครับ
หลังจากแวะร้านริมทาง หามื้อเช้าใส่ท้องกันแล้ว ก็เข้าเมือง เติมน้ำมันเต็มถัง ก่อนที่จะข้ามสะพานกลับมาให
ม่ แต่คราวนี้เลี้ยวซ้ายใกล้เชิงสะพานฝั่
งตะวันออก สู่ทางหลวงหมายเลข 1169 ไปยังบ้านดู่พงษ์ อ.สันติสุข และ อ.แม่จริม ต่อไป
Cr. ภาพประกอบจาก Google Earth
ผมเข้าใจว่าเส้นทางสายนี้แต
่เดิม คงเป็นเส้นทางในหมู่บ้านที่
มีชุมชนสองข้างทางหนาแน่น และเส้นทางคดเคี้ยว จนต้องใช้ความระมัดระวังเป็
นพิเศษเวลาขับรถผ่าน ภายหลังกรมโยธาธิการและผังเ
มือง ได้ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ
น่านทางด้านเหนือของตัวจังห
วัด ทำให้จำนวนรถบรรเทาลงไปได้ม
าก
Cr. ภาพประกอบจาก Google Earth
พอออกจากย่านชุมชน ถนนรีบขยายออกเป็นสี่เลนทัน
ใด จนกระทั่งถึงสามแยกเส้นทางข
้ามสะพานนครน่านพัฒนา สู่ตัวเมืองน่านด้านเหนือ บริเวณโรงพยาบาลน่าน
Cr. ภาพประกอบจาก Google Earth
ค่อยโล่งใจหน่อย แต่พอข้ามสะพานนครน่านพัฒนา
มองหาที่จอดรถ พบว่าเป็นที่จอดแบบเสียสตาง
ต์เรียบร้อยแล้ว มีผู้มาอุดหนุนคับคั่ง เช่นกับโรงพยาบาลประจำจังหว
ัดทั่วไป
Cr. ภาพประกอบจาก Google Earth
เลี้ยวซ้ายไปตามถนนผ่านบริเ
วณโรงพยาบาล หมายใจจะหาที่กลับรถ เลยได้ที่กลับรถเหมาะๆ ในวัดพระเนตรนี่แหละ สังเกตว่าวัดในเขตเทศบาลเมื
องน่าน ล้วนแต่สะอาด แถมมีดอกไม้ประดับตามบริเวณ
วัดสวยงามอีกด้วย
ขอแวะนมัสการองค์พระประธานใ
นพระอุโบสถกันเล็กน้อย
ย้อนกลับมาคราวนี้ ได้ที่จอดเหมาะๆ ใกล้เชิงสะพานนครน่านพัฒนา แล้วลงทุนเดินข้ามสะพานอีกน
ิดหนึ่ง
เข้าใจว่า เป็นโครงการขุดลอกแม่น้ำน่า
นข่วงผ่านตัวเมืองให้กว้างข
ึ้นจากอุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งมีสิ่งกีดขวางลำน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก
มองไปทางด้านใต้ครับ
ชาวน่านเล่าให้ฟังว่า ในช่วงหน้าฝน หากมีข่าวน้ำท่วมที่ อ.ท่าวังผา แล้ว ชาวเมืองจะมีเวลาโยกย้ายข้า
วของไปอยู่ชั้นบนภายในเวลา 48 ชม. เพราะน้ำท่วมจะไหลมาถึงตัวเ
มืองแน่นอน
ตัวสะพาน จะมีชานยื่นออกไปเพื่อติดตั
้งอุปกรณ์วัดระดับน้ำเบื้อง
ล่าง หรือเป็นจุดชมวิวไม่อาจทราบ
ได้ แต่น้องผมของจองไว้เป็นชัยภ
ูมิถ่ายภาพล่ะ
ต้องตามใจเขาหน่อย เพราะเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ แถมมีโอกาสมาเที่ยวน่านอย่า
งจริงจังคราวนี้เอง
จากฝั่งใต้ ย้ายมาฝั่งเหนือบ้าง ก่อนที่จะออกเดินทางกันต่อไ
ป
เส้นทางตอนนี้จะเริ่มขึ้นเข
า เป็นการเตือนให้ซ้อมฝีมือถึ
งทางโค้งหลายหลากข้างหน้า มีป้ายเตือนระวังน้ำยางหกด้
วยนะ
Cr.ภาพจาก Google Earth
สามแยกบ้านดู่พงษ์ อ.สันติสุข หากเลี้ยวซ้าย จะไปยัง อ.ปัว และ อ.บ่อเกลือ ถ้าเลี้ยวขวา จะไปยัง อ.แม่จริม
ถ้าเป็นสมัยก่อน จะเป็นเส้นทางสายยุทธศาสตร์
ตัดสู่พื้นที่สีแดงของ ผกค. เพื่อตัดเส้นทางลำเลียง และนำความเจริญเข้าสู่พื้นท
ี่ท่างไกล ซึ่งเรียกว่า "ถนนถึงไหน คอมมิวนิสต์พ่ายที่นั่น" นั่นแหละ
Cr.ภาพจาก Google Earth
วิ่งมาได้ไม่นาน จะถึงสามแยก ต.อวน อ.ปัว โดยแยกซ้าย จะไปยัง ต.ศิลาเพชร อ.ปัว ใกล้ที่พักในคืนนี้ของผมกับ
น้อง
ถ้าแยกขวา จะเป็นเส้นทางไปยัง อ.บ่อเกลือ ลัดเลาะชายแดน ไทย - สปป.ลาว บริเวณเทือกเขาหลวงพระบาง สู่ อ.เฉลิมพระเกียรติ
โดยมีป้ายเตือนไว้ตั้งแต่แร
กเห็นว่า เส้นทางบนเขาคดเคี้ยว ลาดชัน โปรดระมัดระวังในการขับรถ ระยะทางบอกไว้ตามป้ายว่า อ.เฉลิมพระเกียรติ 77 กม.
เราจะเลี้ยวซ้ายไปตามทา
งหลวงหมายเลข 1081 อ.ปัว - อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่ ต.อวน อ.ปัว ลัดเลาะไปตามไหล่เขาสู่ อ.บ่อเกลือ ชมบ่อเกลือโบราณที่นั่น
ถ้าวิ่งตามปกติ คงใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ แต่เอาเข้าจริง เป็นกิโลแม้ว เพราะเป็นเส้นทางบนเขา จึงไม่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ
่งผ่านเส้นทางสายนี้ มีเพียงรถบรรทุกหกล้อกลางเท
่านั้น
Cr.ภาพจาก Google Earth
ลัดเลาะไปตามเขาชายขอบอุทยา
นแห่งชาติดอยภูคาอยู่พักหนึ
่ง จะเห็นจุดชมวิว
น้องสาวผมตาไว อาจทำการบ้านมาดีก็ได้ รีบบอกให้จอดรถ ก่อนคว้ากล้องเดินดุ่มๆ ไปเก็บรูปที่อยู่ด้านขวาล่า
งของภาพ
ผมยกกล้องถ่ายรูปตามหลัง ถึงรู้ว่าตัวเองมาถึงจุดชมว
ิว โค้งเลข 3 บนเส้นทางหมายเลข 1081 แทบไม่รู้ตัว ถ้าขับรถมาคนเดียว คงเลยไปแล้วก็ได้
มาหยุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง ที่ กม.48 บนเส้นทางสายนี้ ขาเที่ยวทั้งหลายขนานนามว่า
จุดชมวิวโคตรสูง ชายขอบอุทยานแห่งชาตดอยภูคา
อ.ปัว แต่ฝุ่นลูกรังละเอียดดีจัง
มองไปยังถนนเบื้องล่างที่ลั
ดเลาะขึ้นมา สมชื่อที่เขาตั้งว่า จุดชมวิวโคตรสูงจริงๆ
ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน
่อย ร้านข้างหลังนั้น จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว
ช่วงวันหยุดยาว แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวมีน้อย ร้านเลยปิด
จอดอ่อยเหยื่อได้สักพัก มีรถอีกคันมาจอดพรืดอยู่ข้า
งๆ สงสัยเอาเราเป็นเพื่อนกระมั
ง ? หรือว่าวิวคงสวยก็ไม่ทราบ ฮ่า...
ลัดเลาะไปตามไหล่เขาจนถึงเว
ลาราวห้าโมงเช้า เข้าเขตชุมชนอำเภอบ่อเกลือ โดยที่ทำการอำเภอและส่วนราช
การจะอยู่บนเนินเขาด้านขวาม
ือ หากตรงไปอีกนิดหนึ่ง จะมีเส้นทางลงจากถนนใหญ่ด้า
นซ้ายสู่บ่อเกลือโบราณ ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ
ผมคิดว่า แถวนี้คงรู้สึกถึงแผ่นดินไห
วครั้งใหญ่ใน สปป.ลาว เมื่อไม่นานมานี้แน่ๆ จนถึง อ.เฉลิมพระเกียรติ นั่นแหละ
ที่จอดรถ กว้างขวางพอรับรถของผู้มาเย
ือนได้สะดวก
มองมุมกว้างจากที่จอดรถครับ
ขอดูป้ายบรรยายความเป็นมาขอ
งบ่อเกลือโบราณกันสักหน่อย
ตามจริงแล้วมีป้ายบรรยายเรื
่องราวของบ่อเกลือโบราณนี้เ
ช่นกัน แต่ตัวอักษรเล็ก ไม่เหมาะกับสายตาคนแก่เช่นผ
ม เลยขอสละสิทธิ์
จบสรุปคำบรรยายจากที่ว่าการ
อำเภอบ่อเกลือเพียงแค่นี้ เรารีบสาวเท้าก้าวเข้าไปดูข
้างในดีกว่า
เริ่มจากศาลเจ้าพ่อชายคำ ผู้คุ้มครองปกปักรักษาบ่อเก
ลือโบราณแห่งนี้ ตามความเชื่อของชาวบ้าน
บ่อเกลือโบราณ ที่ยังมีการต้มเกลืออยู่ และรูปปั้นวัวต่างในสมัยโบร
าณ ที่ขนสินค้ามาแลกเปลี่ยนกับ
เกลือจากบ่อนี้
เห็นรูปปั้นวัวต่างแล้ว นึกถึงภาพป้ออุ๊ยผมสมัยยังห
นุ่มตามขบวนวัวต่างจากพะเยา
ไปลำปาง ต้องค้างระหว่างทางถึง 3 คืนด้วยกัน บางครั้งต้องเดินทางรอนแรมไ
ปถึงเชียงรายก่อนที่จะกลับบ
้าน
ครอบที่ปากวัวนั้น สวมไว้เพื่อมิให้วัวหยุดเล็
มหญ้าระหว่างทาง อันเป็นเหตุให้การเดินทางล่
าช้า
ดูให้ชัดๆ แยกส่วนเลยนะครับ มีป้ายห้ามปีนขอบบ่อด้วย
ผมคิดว่า นอกจากจะทำให้บ่อสกปรกแล้ว หากพลัดตกลงไป คงอีกนานจะมีคนมาช่วย แถมน้ำในบ่อยังเป็นน้ำเค็มอ
ีกด้วย
ลองก้มดูภายในบ่อสักหน่อย
มีวงบ่อ ติดรั้วรอบขอบชิดกันไม่ให้ส
ัตว์เลี้ยงเข้าไปใกล้บ่อ แต่ไม่มีท่อสูบน้ำจากบ่อขึ้
นมาข้างบนแม้แต่ท่อนเดียว คงใช้วิธีนำถังพลาสติกผูกคั
นโพงลงไปตักน้ำในบ่อลงใส่รา
งไม้ข้างนอกเท่านั้น
น้องผมให้ข้อมูลว่า บ่อเกลือโบราณแห่งนี้จะหยุด
ต้มเกลือในช่วงวันเข้าพรรษา อาจเป็นเพราะมีน้ำฝนไหลลงไป
ปนน้ำในบ่อมาก เสียเวลาต้ม เลยหยุดพักดีกว่า
ขอเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง มีเครื่องกั้นหยอดเหรียญอัต
โนมัติ ราคาครั้งละ 3 บาทด้วยสิ ไม่ต้องหาพนักงานมาเฝ้าอีกต
่อไป
กองฟืนนั้น กองไว้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงต
้มเกลือครับ
กอไผ่ซาง สร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชา
ติจนบอกไม่ถูก
กลับเข้าไปชมที่โรงต้มเกลือ
กันใหม่ เตานี้คงเริ่มต้ม ยังได้เกลือน้อยอยู่
แต่เตานี้ เกลือเต็มตะกร้าเลย เขาปล่อยให้น้ำเกลือหยดลงสู
่กระทะ จนกว่าเกลือจะเแห้งดีครับ
ผลผลิตที่ได้จากเตาเกลือโบร
าณแห่งนี้ มีตั้งแต่เกลือผสมไอโอดิน เกลือผสมเนื้อ และมาแรงก็เกลือสปา
น้องผมบอกหลังจากได้มีโอกาส
คุยกับลุงทีเข้าเวรต้มเกลือ
ว่า ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้
มาแนะนำให้ผสมไอโอดินลงในเก
ลือ ปรากฎว่า คลุกถนอมอาหารแล้ว อาหารเสียไวกว่าปกติ เลยลงตัวที่ว่า ถ้าเป็นเกลือปรุงอาหาร จะผสมไอโอดิน ส่วนเกลือถนอมอาหารและเกลือ
สปา จะเป็นเกลือธรรมชาติ
เถลไถลไปยังโรงต้มเกลืออีกแ
ห่งหนึ่ง โชคอำนวยมากที่มีโอกาสเห็นเขากำลังต้มเ
กลือพอดี เลยบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึ
ก
ตักขึ้นมาใส่ตะกร้าแบบนี้แห
ละ ปล่อยให้น้ำเกลือที่ค้างอยู
่ไหลจากตะกร้าลงสู่กระทะ จนกว่าเกลือจะแห้งดี ถึงนำไปเก็บในยุ้งต่อไป
จากกล้องของน้องผม แสดงให้เห็นถึงกระทะต้มเกลื
อที่ล้างทำความสะอาด พักการใช้งานจนกว่าจะต้มเกล
ือรอบใหม่
แถมได้ภาพชาวบ้านใช้คันโพงต
ักน้ำเกลือในบ่อขึ้นมาใส่ภา
ชนะไม้ริมปากบ่อ ก่อนไขผ่านท่อ pvc ลงสู่กระทะเพื่อต้มต่อไป
กำลังตักน้ำเกลือในบ่อ
ตักขึ้นมาเทเลยล่ะ แต่ภาชนะที่ใช้คงไม่มีโลหะเ
ป็นแน่ เพราะน้ำเกลือจะกัดกร่อนหมด
ร้านจำหน่ายของที่ระลึกอยู่
ท้ายสุด มีห่ออะไรที่น่าสนใจจำหน่าย
ด้วยน้อ ?
จากการสอบถามเจ้าของร้าน ได้รับคำตอบว่าเป็น "มะแขว่น" พืชเครื่องเทศ เป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของ
จังหวัดภาคเหนือ เช่น ต.เมืองลี อ.นาหมื่น และ ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน จนถึงกับมีการจัดงาน มะแขว่น ขึ้นทุกปี
ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นมักใช้ผสม
กับน้ำพริกลาบ ทำให้ลาบทางเหนือ มีรสชาติออกไปทางเผ็ด ซ่าลิ้น แตกต่างจากลาบทางภาคอีสานอย
่างชัดเจน
ดูจนทั่ว ได้ของที่ระลึกสมใจอยากแล้ว
ถึงเวลาไปหามื้อเที่ยงลงกระ
เพาะบ้างล่ะ เพราะเป็นเวลาร่วมเที่ยงเศษ
แล้ว
ผ่านร้านสปา หนึ่งในจำนวนหลายๆ แห่งที่นี่ อันเป็นธุรกิจต่อเนื่องจากบ
่อเกลือโบราณ
ร้านอาหารตามสั่งที่มีป้ายข
้างหน้า คือที่ฝากท้องประจำเที่ยงวั
นนี้ ซึ่งแม่ครัวพอทำอาหารเสร็จ มองดูทีท่าว่าลูกค้าไม่สั่ง
อะไรเพิ่มอีกแล้ว ก็เดินข้ามถนนไปทานมื้อกลาง
วันร่วมกับร้านฝั่งตรงข้าม
เป็นกันเองเสียไม่มี
ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไป จนกระทั่งเห็นป้ายหนึ่ง อยู่ฝั่งขวามือ บอกว่า "ต้นกำเนิดแม่น้ำน่าน"
ผมจอดรถแล้วมองหน้ากับน้องว
่าจะไปดูกันไหม ?
ไม่เคยเห็นต้นกำเนิดแม่น้ำส
ักสาย นอกจากที่นี่แหละ แถมระยะทางก็ไม่ไกลด้วย น้องผมผงกศรีษะรับ งั้นก็ลุย
ต่างคนต่างเตรียมกล้องกันให
้เรียบร้อย ก็สาวเท้าเข้าไปตามทางเดินใ
นป่านั้น
ก่อนได้ฤกษ์ เอนหลังเป็นนางแบบเอาเชิงกั
นก่อน
เส้นทางในป่าช่วงแล้ง ไม่ค่อยลำบากอะไรนัก แต่แมลงวันกับแมลงหวี่ชอบเข
้ามาตอม เพราะผิดกลิ่นในป่า ทำให้ผมนึกถึงทหารที่ได้รับ
บาดเจ็บในสนามรบจาก ผกค. มีแมลงวันเข้ามาตอมตามกลิ่น
คาวเลือด แถมวางไข่บนแผลอีก จะส่งเสียงก็ไม่ได้ เพราะศัตรูอาจย้อนกลับเข้าม
าโจมตีเมื่อใดก็ได้ กว่าพวกเดียวกันเข้ามาช่วยเ
หลือซึ่งกินเวลานานหลายวัน อาจสูญเสียแขนขาจากแผลเน่าเ
ปื่อยโดยไม่จำเป็น
จากกล้องของน้อง คิดว่าซ้อมเดินป่าก็แล้วกัน
ดีกว่าหน้าฝนตั้งแยะ
บางช่วงก็ออกกำลังกายเหนี่ย
วเถาวัลย์ขึ้นไปตามทางเดินต
ามประสาคน สว.
กว่าจะถึง ขอพักเหนื่อยเอาแรงสักนิด
พอกำลังกลับคืนมาแล้ว ขอเป็นนางแบบเช่นเคย
มองดูรอบๆ แล้ว มีฝายประชาอาสาตั้งอยู่ใกล้
ๆ นั้นลูกหนึ่ง แต่ไม่มีน้ำขังอยู่เลย เป็นอันว่าตัดข้อกังขาว่าต้
นกำเนิดแม่น้ำน่านจะอยู่เหน
ือจากนั้นขึ้นไปได้
จุดสนใจเลยมาสรุปตรงที่ตาน้
ำเล็กๆ ที่มีน้ำไหลผุดขึ้นมานั่นแห
ละ แม้แต่ยามแล้ง
ตรงนี้ เป็นจุดกำเนิดแม่น้ำน่านของ
จริง
ช่วยกันยืนยันทั้งคนพี่
และก็คนน้องอีกด้วย
ขอเซลฟี่ไว้เป็นหลักฐานหน่อ
ย น้องผมว่าอย่างนั้น ก่อนออกเดินทางต่อไป
คราวนี้ ถนนเริ่มคดเคี้ยว พอๆ กับเส้นทางสายแม่มาลัยไป อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เข้าเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ แล้ว แต่อีกกี่ กม.ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
เส้นทางช่วงนี้ ทางแขวงฯ น่านที่ 2 เพิ่งปรับปรุงทางแล้วเสร็จเ
มื่อไม่นานนี้เอง
จากต้นกำเนิดแม่น้ำน่าน เราจะข้ามแม่น้ำน่านสะพานแร
กบนทางหลวงสายนี้ สังเกตผิวจราจรยังอยู่ในสภา
พเดิม ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงลาดย
างใหม่แล้ว
Cr. ภาพจาก Google Earth
จนบ่ายคล้อย สองคนพี่น้องได้มาถึงทางแยก
เข้าสู่บ้านน้ำรีพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ
ที่นั่น เป็นที่ตั้งของสถานีพัฒนากา
รเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูพยัตฆะราชดำริ หรืออดีตที่ตั้งของสำนัก 708 อันเป็นที่ตั้งศูนย์กลางพรร
คคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยใ
นช่วงปี 2516 - 2519 โดยมีลุงชัด (มิตร สมานันท์) เลขาธิการพรรค ลุงธาร (วิรัช อังคถาวร) ลุงดิน (ธง แจ่มศรี) ลุงบา (ทรง นพคุณ) ลุงท่ง (ประสิทธิ์ ตะเพียนทอง) ลุงจำรัส (เปลื้อง วรรณศรี) ลุงคำตัน (พ.ท.โพยม จุลานนท์) ลุงไฟ หรือลุงมะ (อัสนีย์ พลจันทร์) และลุงดั่ง (ดำริ เรืองสุธรรม) เป็นกลุ่มผู้นำพรรค และมีสำนักนอกสำหรับต้อนรับ
ผู้มาติดต่อ คือ หน่วยนา 708 มีสหายเสริม เป็นเจ้าสำนัก
ขื่อสำนักมาจากที่ระลึกวันเ
สียงปืนแตกนั่นเอง
ในปี 2520 มีประเทศเพื่อนบ้าน เสนอต่อ พคท.ว่าจะให้การสนับสนุนด้ว
ยกำลังในการบุกยึดภาคอีสาน
หลังจากพิจารณากันอย่างเคร่
งเครียดหลายครั้ง พคท.เห็นว่า จะเป็นผลเสียต่อความรู้สึกข
องประชาชนในระยะยาวว่าเป็นผ
ู้ร้าย จึงได้ตอบปฏิเสธ ทางประเทศเพื่อนบ้านจึงประก
าศตัดความสัมพันธ์กับ พคท. ทำให้สูญเสียหลังพิง และที่มั่นทางทหารทั้งภาคเห
นือและอีสานติดกับประเทศเพื
่่อนบ้านไปมาก ทำให้มีการหดตัวลง รวมทั้งมีการแตกแยกทางความค
ิดระหว่างกลุ่มผู้นำพรรคเอง
อีกด้วย
ประกอบกับกับรัฐบาลไทย ได้ประกาศใช้นโยบาย 66/
2523 ทำให้ผู้คนออกจากป่ามาขึ้น จนฐานที่มั่นสิ้นสุดลง โดยไม่มีการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลอ
ีก เมื่อปี 2526
Cr.ภาพจาก Google Earth
หลังจากผ่านแยกบ้านน้ำรีพัฒ
นา เส้นทางจะตัดใจแยกจากเทือกเ
ขาหลวงพระบาง มุ่งทางทิศตะวันตกสู่ อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยลัดเลาะเขาจนถึงระดับต้น
สนขึ้นเลยล่ะ
ขออาศัยภาพจาก Google Earth เข้าไปดูที่ว่าการอำเภอเฉลิ
มพระเกียรติ สักหน่อยครับ เพราะอยู่ห่างจากทางหลวงหมา
ยเลข 1081 เข้าไปข้างใน
Cr.ภาพจาก Google Earth
ใกล้โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียร
ติ น่าน จะมีทางแยกเข้าไปยังอนุสรณ์
ทหารกล้าห้วยโก๋น ที่กองกำลังแม้วแดงตีแตก เมื่อปี 2510 จนทำให้เกิดศึกยืดเยื้อมานา
น ระหว่างกำลังทหารกับฐาน 708 ของ พคท. ที่ถือว่าเป็นเขตงานของตน
Cr. ภาพจาก Google Earth
แล้วเราก็มาถึงจนได้ในยามบ่
ายคล้อย ที่สามแยกบรรจบกับทางหลวงหม
ายเลข 101 จากน่าน ที่บ้านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ
Cr. ภาพจาก Google Earth
สุดทางที่ด่านตรวจคนเข้าเมื
องห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน กับด่านตรวจคนเข้าเมือง เมืองเงิน แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว
Cr. ภาพจาก Googe Earth
กลับเข้ามาฝีมือเราดีกว่า กับสภาพตัวด่านในปัจจุบัน
นัยว่า เป็นตัวอาคารด่านตรวจคนเข้า
เมืองแห่งใหม่เพิ่งจะก่อสร้
างแล้วเสร็จ แต่ยังไม่เปิดทำการ
ตั้งอยู่ถัดจากตลาดชายแดนห้
วยโก๋น โดยมีถนนเชื่อมกับเส้นทางเด
ิม
ยืนยันได้ว่า เราเดินทางมาถึงชายแดนไทย - สปป.ลาว อีกแห่งหนึ่งแล้ว
น้องผมกำลังให้ความสนใจกับป
้ายห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ผ่า
นด่านประเทศเพื่อนบ้านครับ
ดูจากป้ายเต็มดีกว่า ห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ที่เป็
นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever) หากตรวจพบ จะมีการยึดและนำไปทำลายทันที
ระหว่างนั้น มีรถบริการซึ่ง กฟผ.เช่าเหมานำคนงานไปยังโร
งไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว ที่บริษัท ไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ในเครือของ กฟผ.เข้าไปถือหุ้นอยู่ จอดส่
งคนงานเพื่อผ่านกรรมวิธีขาอ
อกด่านพอดี
แถมให้สำหรับผู้ที่ไม่ทราบว
่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่
ใดนะครับ
Cr.ภาพจาก Google Earth
ซูมให้เห็นจากอวกาศเลย
Cr.ภาพจาก Google Earth
ไหนๆ ก็ไหนๆ แถมเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ซึ่งบรรดา NGO บ้านเรา ขัดใจที่ประท้วงอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในเขตบ้านของเขา ขืนไปทำรุ่มร่ามที่นั่น เป็นได้ถูกจับขังลืมแน่นอน มีโทษหนักด้วยสิ
Cr.ภาพจาก Google Earth
แสดงว่าตัวเมืองไซยะบุรี อันเป็นที่ตั้งแขวงชื่อเดีย
วกัน ไม่ได้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง
ดังที่เข้าใจกันแต่แรก ดังนั้น ผู้ที่นั่งรถ บขส.จาก จ.เลย ไปยังแขวงหลวงพระบาง จะไม่เห็นแม่น้ำโขงในช่วงนี
้้เข่นกัน
Cr.ภาพจาก Google Earth
มาแล้ว รถบรรทุกขาเข้าจาก สปป.ลาว ไปยัง จ.น่าน คนขับส่งยิ้มให้ด้วยสิ
ขอเป็นนางแบบกลางถนนส่งท้าย
วันนี้ โดยไม่เกรงต่อการถูกรถชนครั
บ ฮ่า...
จากนั้นก็ล่องมาตามทางหลวงห
มายเลข 101 จนถึง อ.ทุ่งช้าง ถนนจึงขยายออกเป็นสี่เลน ผ่าน อ.เชียงกลาง แวะทานมื้อเย็นที่ตลาด อ.ปัว ก่อนเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1081 อีกเล็กน้อย ถึงทางแยกเข้าสู่หมู่บ้าน ผ่านสู่รีสอร์ท ซึ่งเจ้าของลงทุนเปิดไฟสว่า
งไสวเป็นที่หมายเห็นได้ตั้ง
แต่ไกล
ลมภูเขาคืนนั้น พัดตั้งแต่หัวค่ำ จนถึงเที่ยงคืน ชนิดที่เปิดหน้าต่างไม่ได้ สมกับคำรับรองจากเจ้าของรีส
อร์ทซึ่งเป็นชาว อ.ปัว ว่า ไม่มียุงมารบกวนแต่อย่างใด ถึงแม้จะเตรียมมุ้งไว้ให้ก็
ตาม
Create Date : 17 มิถุนายน 2563
Last Update : 17 มิถุนายน 2563 14:51:13 น.
5 comments
Counter : 1357 Pageviews.
Share
Tweet
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณทนายอ้วน
,
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ
,
คุณโน้ตตัวดำ
,
คุณKavanich96
,
คุณhaiku
,
คุณnewyorknurse
ตามไปเที่ยวน่านด้วยคราบ
โดย:
ทนายอ้วน
วันที่: 17 มิถุนายน 2563 เวลา:16:03:52 น.
ได้เลยครับ
โดย:
owl2
วันที่: 17 มิถุนายน 2563 เวลา:22:21:46 น.
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย:
Kavanich96
วันที่: 18 มิถุนายน 2563 เวลา:17:31:32 น.
ครับผม
โดย:
owl2
วันที่: 18 มิถุนายน 2563 เวลา:20:25:14 น.
น่าไปเที่ยวครับ แต่ไกลจังเลย
โดย:
ไวน์กับสายน้ำ
วันที่: 20 มิถุนายน 2563 เวลา:10:15:51 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
owl2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add owl2's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.