พินิจงานรถไฟสายอีสานด้วยค่าโดยสารเพียง 50 บาท (ตอนจบ)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558047.jpg)
มาถึงแล้วครับ ข. 135 (กรุงเทพ - อุบลราชธานี) ที่ทีมงานโดยสารมาเมื่อวานนี้ กำลังเข้าสู่ชานชาลาสถานีมวกเหล็ก
และก็ได้เวลาของ ข.234 (สุรินทร์ - กรุงเทพ) ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ ต่อไป
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558120.jpg)
ครั้งที่ก่อสร้างทางรถไฟหลวงสายกรุงเทพ - นครราชสีมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นั้น มีช่วงที่ฝรั่งช่างก่อสร้างมักเกรงกลัวกันมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ผ่านเทือกเขาดงพญาไฟ อันชุกชุมด้วยสัตว์ร้ายและไข้ป่า ทำให้นายช่างและคนงานล้มตายกันมากมาย ถึงกับทรงเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น "ดงพญาเย็น" จนกระทั่งเปิดเดินรถได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2443 อันทำให้กรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างๆ ในภาคอีสาน มีความรู้สึกใกล้ชิดกันยิ่งกว่าเดิม
ในเวลาต่อมา รัฐบาลได้ก่อสร้างถนนมิตรภาพช่วงสระบุรี - นครราชสีมา โดยความช่วยเหลือจากประเทศสหรัฐอเมริกา จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2501 ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้าไปหักร้างถางพงเพื่อทำการเกษตร ทำให้เทือกเขาดงพญาเย็นอันคร่ำคร้ามเมื่อได้ยิน แทบจะลืมเลือนไปจากความทรงจำของคนรุ่นใหม่
แถมยังมีโรงงานผลิตปูนซิเมนต์ อันเป็นอุตสาหกรรมหนักของประเทศ ไปตั้งอยู่ที่นี่ถึง 3 โรงด้วยกัน ทำให้ถนนมิตรภาพต้องขยายเป็น 4 เลน มีรถวิ่งขวักไขว่ตลอด 24 ชั่วโมง ต่างจากการคมนาคมทางรถไฟ ที่นับวันจะร่วงโรยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการฟื้นฟูโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ขึ้นมานั่นแหละ
สุดหลักแดงนั้น เป็นพื้นที่ของลานจอดขบวนรถสินค้าของบริษัทเจ้าสัวประชัย ซึ่งเมื่อก่อนโน้น ยังเป็นป่ารกอยู่เลย![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558219.jpg)
สถานีหินลับ ที่อยู่กลางดงพญาเย็น ปัจจุบันเห็นจะไม่เปล่าเปลี่ยวอีกแล้ว
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558289.jpg)
ไม่เพียงแต่โรงงานผลิตปูนซิเมนต์เท่านั้น ยังมีคลังน้ำมัน โรงปุ๋ยเคมี ขบวนรถสินค้าและรถจักรเหล่านี้ ล้วนเป็นทรัพย์สินของบริษัทในเครือของเจ้าสัวประชัยทั้งสิ้น
แต่ถ้าออกเส้นทางใหญ่เมื่อใด เป็นหน้าที่ของพนักงานของการรถไฟฯ ซึ่งคุ้นเคยกับระบบอาณัติสัญญาณ และสภาพทางมากกว่า ทำการแทนครับ
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558362.jpg)
สีของรถจักรติดแอร์ที่มีเกือบ 20 คัน คงคุ้นตากันอยู่แล้ว เห็นไม่ต้องบอกซ้ำอีกกระมัง ?![](//www.bloggang.com/emo/emo6.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558434.jpg)
โรงรถจักรของบริษัท อยู่บนเนินข้างบนที่เห็นลิบๆ โน้นครับ
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558519.jpg)
เส้นทางในย่านด้านซ้ายภาพ เป็นทางเข้าสู่โรงปูนของเจ้าสัวประชัย ส่วนเส้นทางใหญ่จะโค้งขวาข้างหน้านี้แหละ
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558599.jpg)
ช่องหินลับ ที่แต่ก่อนเคยเป็นยุทธภูมิปะทะกันระหว่างกองทหารฝ่ายรัฐบาล กับกองกำลังของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช เมื่อปี พ.ศ.2476
จนเป็นเหตุให้ นายทหารฝ่ายกบฏ ได้แก่ นายพันเอก พระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ) ถูกยิงโดยทหารจากกองพันทหารราบที่ 6 นำโดยพันตรีหลวงวีรวัฒน์โยธา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2476 ทำให้ฝ่ายกบฎเริ่มเพลี่ยงพล้ำ
พระองค์เจ้าบวรเดชหัวหน้าคณะกบฏและพระชายานั้น ทรงขึ้นเครื่องบินเดินทางหนีไปยังเมืองไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2476
...............................
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wikipediathai.Com
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506558667.jpg)
ผ่านโรงงานปุ๋ยเคมีที่มีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์นัก เข้าโค้งด้านเหนือสถานีผาเสด็จ
หากนั่งรถไฟขาขึ้น จะเห็นเส้นทางที่มีความลาดชันอย่างชัดเจน
อีกไม่กี่วันต่อมา ขบวนรถขนปูนซิเมนต์ผงของเจ้าสัว ซึ่งทดลองวิ่งจากโรงงานไปส่งยังคลังที่เชียงใหม่ ก็มาเทกระจาดแถวๆ นี้แหละ
โชคดีจริงๆ ที่ผ่านมาก่อน ไม่อยากนั่งรถย้อนทางเดิมครับ![](//www.bloggang.com/emo/emo34.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559091.jpg)
สำนักสงฆ์ผาเสด็จ บริเวณจุดเกิดเหตุรถตกราง
ถ้าขับรถมาตามถนนใหญ่ จะมีถนนซอยข้างโรงปูนตรานก เข้าสู่สำนักสงฆ์แห่งนี้
และสามารถเดินทางไปชมผาเสด็จได้อีกด้วย
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559196.jpg)
สถานีผาเสด็จ หากใครที่เคยมากับทัวร์รถไฟแล้ว ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก จริงไหม ?
![](//www.bloggang.com/emo/emo23.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559448.jpg)
จากสถานีผาเสด็จด้านใต้มาอีกเล็กน้อย บังเอิญที่ผมกะจังหวะถ่ายรูปผิด ทำให้พลาดจังหวะไปอย่างน่าเสียดาย และทีมงานที่กะจะถ่ายรูปตามผม พลอยพลาดโอกาสไปด้วย
คงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ทางไปยืนอยู่ท้ายขบวน เลยได้จังหวะงามในการบันทึกรูปครั้งนี้![](//www.bloggang.com/emo/emo23.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559540.jpg)
ถึงสถานีมาบกะเบา ปลายทางคู่สายอีสานในขณะนี้ ก่อนที่จะก่อสร้างต่อไปถึง จ.นครราชสีมา และ ขอนแก่น
เหตุที่สร้างสถานีแห่งนี้ เนื่องจากที่ตั้งสถานีทับกวาง (เดิม) อยู่ในทางลาด หยุดขบวนรถได้ลำบาก เพราะระบบเบรกรถไฟสมัยก่อนยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ครั้นบริษัทปูนตรานกอินทรี ก่อสร้างโรงงานอยู่ใกล้เคียงกับสถานีแห่งใหม่ การรถไฟฯ จึงก่อสร้างอาคารสถานีพร้อมย่านสินค้า ให้ชื่อว่า "สถานีมาบกะเบา" โดยยุบสถานีทับกวางลงเป็นที่หยุดรถและเลิกใช้งานในทีสุด
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559648.jpg)
ตัวอาคารสถานีมาบกะเบาครับ
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559712.jpg)
ทรากรถเก่า "โตกิว" แขวงรถดีเซลรางมหาชัย และ KIHA ที่เหลือเพียงเล็กน้อย รอขนย้ายไปยังสถานีต่างๆ บนเส้นทางสายชุมทางแก่งคอย - ชุมทางบัวใหญ่ เพื่อเคลียร์ย่านสถานีรองรับโครงการก่อสร้างทางคู่ไปยัง จ.นครราชสีมาในเร็วๆ นี้
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559834.jpg)
จากสถานีมาบกะเบา ขบวนรถได้ไหลเร็วรี่ตามทางลาดปานน้ำป่า เพราะเป็นทางคู่เข้าสู่ชุมทางแก่งคอย จนผมยกกล้องถ่ายรูป (อดีต) ที่หยุดรถทับกวางแทบไม่ทัน
![](//www.bloggang.com/emo/emo22.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506559965.jpg)
คราวนี้มีผู้โดยสารลงจากขบวนรถค่อนข้างหนาตาที่ชุมทางแก่งคอย
หลวงพี่ที่เห็นในภาพได้ยินเสียงคุยกับเพื่อนพระภิกษุด้วยกันในรถว่า จะไปช่วยงานทอดผ้าป่า หรืองานวัดประจำปีตามนัดหมายนี่แหละ นั่นคือภารกิจเช่นนกขมิ้นป่าของท่าน
ส่วนขบวนรถดีเซลรางที่เห็นไกลๆ เป็น ข.439 (ชุมทางแก่งคอย - ชุมทางบัวใหญ่) ที่ทีมงานได้โดยสารไปเมื่อวานนี้เอง
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560048.jpg)
พอผู้โดยสารลงเสร็จ ก็ถึงคราวผู้โดยสารที่จะเดินทางขึ้นรถบ้าง
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560131.jpg)
โรงงานผลิตหมอน คสล. รองรางรถไฟที่สถานีหนองบัวครับ จำหน่ายทั้งในและนอกประเทศ![](//www.bloggang.com/emo/emo6.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560236.jpg)
ทางเข้าสู่ที่เก็บหมอน คสล.รอนำขึ้นรถ
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560306.jpg)
บ้านป๊อกแป๊ก สถานีของขบวนรถพลังงานสายเหนือและสายอีสานมาหยุดรับที่สถานีจ่ายน้ำมันแห่งนี้
แต่ริมทางเข้าหญ้าขึ้นรกจังเลย เมื่อเทียบกับสถานีจ่ายน้ำมันดิบที่สถานีบึงพระ จ.พิษณุโลก จนกระทั่งมองแทบไม่เห็นหลังคา
ส่วนขบวนรถบรรทุกก๊าซ NGV นั้น ต้องไปรับที่สถานีบางละมุง จ.ชลบุรี
เหตุที่ชื่อฟังแล้วแปลกหูนั้น ผู้รู้ในทัองถิ่นสันนิษฐานว่า มาจากชื่อเดิมว่า "บ้านเพ็งเพ็ก" แต่นายช่างฝรั่งสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมา ฟังแล้วกลับออกเสียงและให้เขียนชื่อสถานีว่า "บ้านป๊อกแป๊ก"
ชื่อเลยเพี้ยนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560407.jpg)
หนองสีดา คนพื้นถิ่นและพี่น้องชาวอีสานคงเข้าใจตรงกันนะครับ![](//www.bloggang.com/emo/emo23.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560483.jpg)
หนองแซง สถานีที่ผู้โดยสารเพื่อนร่วมทางของผมเมื่อวานนี้ ลงสถานีที่นี่แหละ
ขากลับ มีแม่ค้านำผลผลิตชื่อดังของอำเภอนี้มาเร่ขายให้กับผู้โดยสารกันหนาตา![](//www.bloggang.com/emo/emo25.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560575.jpg)
หนองกวย สถานีแรกและสถานีสุดท้ายของเส้นทางสายอีสาน ก่อนบรรจบกับเส้นทางสายเหนือที่ชุมทางบ้านภาชี
ผมเพิ่งนึกออกว่า เหตุที่พลาดถ่ายรูปสถานีหนองบัว จ.สระบุรี คงจะมีขนาดเล็ก และอยู่ฝั่งตรงข้ามเช่นสถานีแห่งนี้กระมัง ?![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560687.jpg)
ถึงสถานีแห่งนี้ หนึ่งในทีมงานกับลูก แยกจากคณะลงจากขบวนรถไปยังบ้านโดยมิชักช้า
ส่วนผมกับทีมงานที่เหลือ ขอสั่งไอติมมาฉลองทริปงวดนี้กันหน่อย![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560769.jpg)
จากชุมทางบ้านภาชี ขบวนรถหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารตรงที่หยุดรถบ้านดอนกลางอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วก็ไม่หยุดตามสถานีใดๆ อีก จนกระทั่งมาถึงสถานีอยุธยา![](//www.bloggang.com/emo/emo18.gif)
![](https://www.bloggang.com/data/o/owl/picture/1506560869.jpg)
หยุดที่สถานีบางปะอินอีกสถานีเดียว แล้วก็แซง ข.202 (พิษณุโลก - กรุงเทพ) ซึ่งจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีเชียงราก เข้าชิงธงสู่สถานีรังสิตก่อน
อีกหนึ่งในทีมงาน ขอแยกวงลงที่สถานีหลักสี่ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากกว่า เหลือผมเป็นคนบ๊วยสุดลงทีสถานีชุมทางบางซื่อ ก่อนมุดดินกลับบ้าน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมมาจนจบนะครับ![](//www.bloggang.com/emo/emo15.gif)
Create Date : 28 กันยายน 2560 |
|
6 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2560 8:15:52 น. |
Counter : 3127 Pageviews. |
|
![](../images/bg-follower.png) |
|