  เมื่อแรกมาปลูกบ้านอยู่ที่นี่ ริมที่ดินด้านใต้ติดทางน้ำสาธารณะ ทำให้เกรงว่าดินจะทลายลงไปเรื่อยๆ จึงลงพญาสัตบรรณเพื่ออาศัย ให้ยึดตลิ่ง แล้วก็ชื่นชมยินดีว่า พอโตแล้วก็ได้ร่มเงาด้วย ที่เราปลูกห่างกันตลอดแนวตลิ่งนี้มีทั้งหมด 5 ต้น

แต่พอต้นมีอายุมากพอก็ให้ดอกพร้อมกันทั้ง 5 ต้น ท่านที่รู้จักต้นพญาสัตบรรณคงจะพอทราบว่า ดอกสวยและมีกลิ่นหอมแรง คือถ้าชอบกลิ่นก็จะว่าหอม ไม่ชอบก็จะติว่าเหม็นทีเดียว
เราก็ว่าหอมอยู่นะคะ แต่เรามีถึง 5 ต้น ความหอมก็เลยกลายเป็น หอมอย่างฉุนเฉียวมาก อดทนให้มีดอกบานเข้าปีที่ 2 ลูกชายขอให้ตัด ต้นที่อยู่ใกล้บ้านเขาเพราะเขาแพ้กลิ่น ทนมาอีกปี ทุกคนพร้อมใจกันเอาลงอีกสองต้น เพราะต้นยิ่งใหญ่ก็ยิ่งให้ดอก มากขึ้น กลิ่นก็ยิ่งดุเดือดตามไปด้วย
เราก็เลยเหลือให้เติบโตตามสบายแค่ต้นนี้ต้นเดียว อีกต้นคอยตัดไม่ให้มีดอก แต่ต้นที่ปล่อยให้โตไปเรื่อยๆนี้ กิ่งล่างๆพาดอยู่บนหลังคา เป็นทางให้สัตว์เล็กๆ เช่น กระรอก กระแต และบางอย่างที่เราไม่รู้จัก พากันเดินทางเข้าไปทำรังอยู่ในฝ้าเพดาน กลางคืนก็วิ่งไล่จับกัน เหมือนมีสวนสัตว์อยู่ในนั้นก็ไม่ปาน
ในที่สุดเลยต้องตัดกิ่งที่พาดหลังคาบ้านออกหลายกิ่ง ที่เหลือก็ยังพอเป็นร่มเงาให้บ้านได้อยู่
จึงนำมาเขียนไว้เป็นตัวอย่างว่า กิ่งไม้ที่พาดหลังคาบ้าน ที่เราคาดหวังให้เป็นร่มเงาแก่บ้านนั้น จะเป็นหนทางให้สัตว์เล็กๆเข้าไปอาศัยอยู่ในฝ้าเพดานบ้านได้ บ้านในเมือง อาจไม่รบกวนเท่าไรเพราะกระรอกก็มีแต่ตัวเล็กๆ แต่ที่บ้านป่านี่ กระรอกบางตัวโตเท่าแมวขนาดกลางๆ บางทีเสียงดังจนตกใจตื่น แขกมาพักก็พลอยตกใจกลัว
สรุปว่า ต้นไม้ให้ร่มเงา บางที่ก็พาอาคันตุกะที่ไม่อยากเชิญมาด้วยค่ะ

ทักทายกันที่หน้าหลักนะคะ
|