Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2566
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 สิงหาคม 2566
 
All Blogs
 
ฮอกไกโด 2023 - Matsumae Park (2)

Matsumae Park เป็นสวนขนาดใหญ่ในเมือง Matsumae ทางใต้สุดของฮอกไกโด นอกจากจะเป็นที่ตั้งของปราสาท Matsumae และศาลเจ้าที่มีผู้คนแวะเวียนมาเป็นประจำแล้ว จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกอย่างของสวนนี้คือ ต้นซากุระกว่า 10,000 ต้น อีกทั้งยังมีส่วนที่ทำเป็นแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้ของซากุระ ที่รวบรวมซากุระกว่า 140 สายพันธุ์จากทั่วญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่อีกด้วย

ช่วงประมาณปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมที่ดอกซากุระบานเต็มที่ จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกไม้ที่จะมีทั้งกิจกรรมและร้านรวงต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการแสดงไฟไลท์อัพในตอนกลางคืนด้วย

ที่ตั้ง: Matsushiro, Matsumae, Matsumae District, Hokkaido 049-1511
การเดินทาง: นั่งรถจากสถานี Kikonai ไปขึ้นรถบัส Hakodate Bus ที่ไปทาง Matsumae Shutchojo ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วลงที่ Matsushiro แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
ช่วงชมซากุระที่แนะนำ: ปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม



นอกจากซากุระที่เยอะมาก ๆ แล้ว มีดอกไม้ชนิดอื่นด้วยค่ะ



 ดอกพริมโรสค่ะ



ดอกแอปเปิ้ล



ต้องดัดให้ได้รูปทรงเนาะ คงไม่ได้เป็นแบบนี้ตามธรรมชาติ







ศาลเจ้า...แวะค่ะ จะเดินผ่านเฉย ๆ ก็กระไรอยู่




 
เคยสังเกตไหมเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองเล็ก ๆ หรือตามป่าเขานอกเมือง มักจะเห็นศาลขนาดเล็กตั้งอยู่ ข้างในนั้นก็มีพระพุทธรูปหินองค์เล็กหรือไม่ก็หินก้อนหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายคนนิด ๆ  สิ่งนั้นคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า จิโซ (Jizo / 地蔵)  เแปลตรง ๆ ว่า “ผู้พิทักษ์แห่งผืนดิน” ซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับจิโซของทางพุทธนิกายชินโตนี่ก็มีหลากหลายมาก 

1. จิโซ คือ เทพผู้คุ้มภัยนักเดินทาง

การเดินทางของคนญี่ปุ่นในอดีตนั้นเป็นการเดินเท้าเป็นส่วนใหญ่ ระหว่างทางก็จะเจอก้อนหินที่ดูโดดเด่นกว่าเศษเห็นเล็ก ๆ ตามทางแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก คนในอดีตเชื่อกันว่าก้อนหินที่เห็นนั้นก็คือจิโซนั่นเอง เพราะว่าก้อนหินเหล่านั้นมีอยู่ทุกที่ เห็นผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตามพุ่มไม้ ก็เหมือนกับว่ากำลังคอยสอดส่องนักเดินทาง ช่วยคุ้มครองนักเดินให้ปลอดภัย ดังนั้น เมื่อนักเดินทางพบเห็นก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายคนตัวเล็ก ๆ ก็จะเอาหมวกและผ้าคลุมไปใส่ให้หรือเอาข้าวปั้นไปไห้วเป็นเครื่องเซ่น เพื่อให้เดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายอย่างปลอดภัย ก็คล้าย ๆ กับความเชื่อของคนไทยที่ยกมือไหว้ศาลเจ้าที่ตามทาง

2. จิโซ คือ พระผู้คุ้มครองเด็ก ๆ

ด้วยรูปลักษณ์ของจิโซที่เหมือนกับเณรน้อย จึงมีความเชื่อที่ว่าจิโซคือพระผู้คุ้มครองเด็กเล็กด้วย คนญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณเหมือนกับคนไทย ครอบครัวที่เสียลูกหรือแท้งบุตรมักเชื่อว่าวิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตไปอาจจะถูกล่อลวงไปยังนรกภูมิหรือถูกปีศาจทำร้าย จึงมีการสร้างรูปปั้นจิโซขึ้นเพื่อเป็นการทำบุญให้กับเด็กที่เสียชีวิต และให้จิโซที่สร้างขึ้นคอยปกป้องดวงวิญญาณนั้น โดยจะสร้างไว้ตามศาลเจ้าหรือวัดต่าง ๆ

3. จิโซ คือ พระโพธิสัตว์

ประเทศญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลทางศาสนาพุทธมาจากประเทศจีนพร้อม ๆ กับตัวหนังสือคันจิที่ใช้ในปัจจุบัน จิโซเองเดิมทีก็คือ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์รูปหนึ่งในศาสนาพุทธนิกายมหายาน โดยมีตำนานเล่าว่าเดิมทีเป็นผู้หญิงที่เสียสละเพื่อแม่และมวลมนุษย์จึงได้กลับชาติมาเกิดเป็นชายและได้ปฏิบัติธรรมจนกลายเป็นพระโพธิสัตว์ในที่สุด  ซึ่งเรียกได้ว่าหนังคนละม้วนกับจิโซของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก https://www.japancheckin.com/lifestyle/jizo-statue/



ในช่วงฤดูหนาวเราจะเห็นรูปปั้นจิโซมีหมวกและผ้าคลุมสีแดงใส่ไว้กันหนาวด้วย ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปอีกแบบ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้จะได้รับบริจาคจากชาวบ้านที่ศรัทธานำมาถวายให้เพื่อคลายหนาวให้กับพระจิโซ เป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง จะว่าไปก็เหมือนของไทยที่มีการเปลี่ยนเครื่องทรงในแต่ละฤดูของพระแก้วมรกตเลย













ผ้าใบหลากสีตรงนี้ เป็นโซนร้านขายอาหาร ขายของ เหมือนงานวัดน่ะค่ะ



เดี๋ยวมื้อกลางวันเราก็กินแถวนี้ล่ะค่ะ 



ซากุระ ร่วงแล้วยังสวยเลย



เยอะมาก เกินคาดมากค่ะ สวยละลานตาไปหมด







หวาน...ซะ



แต่ละต้นอายุอานามน่าจะหลายปี 



 ชิดาเระ ซากุระ「SHIDARE ZAKURA(枝垂れ桜)」เอกลักษณ์ของดอกซากุระพันธุ์นี้ก็คือกิ่งที่อ่อน และทำให้กิ่งโค้งงอห้อยลงมาเหมือนน้ำตก สวยงามโดดเด่น เป็นสายพันธุ์ซากุระที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่สมัยโบราณ



ตัวจริงสวยกว่าภาพถ่ายค่ะ



สายพันธุ์อื่น ไม่กล้าบอกชื่อค่ะ กลัวผิด 555











ไปค่ะ เที่ยงแล้ว หาอะไรกินก่อนเนาะ





เลือกได้แล้วค่ะ  อุด้ง 500¥



ไข่ต้ม ไช้เท้า 300¥



กินเสร็จแล้วก็เดินถ่ายรูปเล่น เดินเล่นกันต่อค่ะ



























ต้นนี้น่าจะอายุเป็นพันปีเลย







ดอกแอปเปิ้ลค่ะ



คามิเลีย













ยาเอะซากุระ เป็นซากุระสายพันธุ์ที่บานช้าที่สุด จะเริ่มบานประมาณช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ดอกจะมีลักษณะเป็นพวง มีกลีบดอกหลายชั้นซ้อนกันสวยงามต่างจากซากุระพันธุ์อื่น ๆ











แบบนี้ก็น่ารักดีนะคะ เรียบ ๆ 





ด้านในมีนิทรรศการค่ะ เราไม่ได้เข้าไปดู







เอาภาพไปเสิร์ชหาใน google photo ... ไม่สำเร็จค่ะ





ซากุระร่วง



น่าปูเสื่อนอนเล่นตรงนี้เนาะ







จุดประสงค์ในการมาที่นี่ คือ มาดูซากุระ และไม่ผิดหวังค่ะ 











ต้นชิดาเระซากุระค่ะ







ดอกเกล็ดหิมะ



ดอก Grape hyacinth (Muscari armeniacum)



Daffodil หรือ ดอกดารารัตน์









เจอสายพันธุ์นี้เยอะที่สุดในทริปนี้ค่ะ



ทริปนี้ เจอแมวญี่ปุ่น 1 ตัวถ้วน

ตอนที่ 1 ปฐมบทการเดินทาง
ตอนที่ 2 เข้าพักที่ฮาโกดาเตะ
ตอนที่ 3 เดินเล่นในเมือง Kikonai
ตอนที่ 4 Matsumae Park (1)




Create Date : 04 สิงหาคม 2566
Last Update : 4 สิงหาคม 2566 16:20:43 น. 0 comments
Counter : 1271 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปัญญา Dh, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณnamfaseefoon, คุณทนายอ้วน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณJohnV, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณkatoy, คุณnewyorknurse, คุณpeaceplay, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณทูน่าค่ะ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtuk-tuk@korat, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.