"คุณสมบัติของผู้ที่จะบรรลุธรรม"
ถ้ามีปัญญาที่สามารถตัดกิเลสได้ก็บรรลุได้
ถ้าขจัดความอยากต่างๆ ให้หมดไปจากใจได้
ก็บรรลุธรรมได้ แต่ส่วนใหญ่มันจะตัดไม่ได้ถ้าไม่มีสมาธิ
เพราะถ้าไม่มีสมาธิ ใจจะไม่มีกำลังที่จะไปตัดกิเลส
ถึงแม้จะมีมีด แต่ไม่มีกำลังไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ก็ตัดไม่ได้
แต่ถ้ามีเรี่ยวมีแรงแล้วมีมีด ก็จะสามารถ
ฟันกิเลสฆ่ากิเลสให้ตายได้ ตอนนี้เรามีปัญญา
ที่เกิดจากการฟังธรรม แต่ใจของเรานี้อ่อนปวกเปียก
เหมือนเด็กทารก ไม่มีกำลังที่จะเอาปัญญา
เอามีดของพระพุทธเจ้านี้ไปฆ่ากิเลสได้
เราจึงต้องมาฝึกสมาธิกัน เพื่อทำให้จิตนี้แข็งแรง
เหมือนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ใช่เป็นเด็กทารก
คนที่ไม่มีสมาธินี้ก็เป็นเหมือนเด็กทารก
ใจจะอ่อนปวกเปียก จะโลเล จะไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์
แต่ถ้ามีสมาธิแล้วจะเป็นคนหนักแน่น
มีหลักมีเกณฑ์ มีพลังที่จะทำอะไรต่างๆได้
ดังนั้น การฟังเทศน์ฟังธรรมอย่างเดียวถ้าไม่มีสมาธินี้
ยากที่จะบรรลุได้ ผู้ที่บรรลุจากการฟังเทศน์ฟังธรรมนั้น
ส่วนใหญ่เขามีสมาธิกันแล้ว เช่นในครั้งพุทธกาล
ครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม
ให้กับบรรดานักบวชทั้งหลาย
พวกนี้เขามีฌานมีสมาธิกันแล้ว แต่เขาไม่มีปัญญา
พอเขาได้ปัญญาจากพระพุทธเจ้า
เขาก็เอาปัญญานั้นมาฆ่ากิเลสได้ทันทีเลย
บรรลุธรรมได้ในขณะที่ฟัง เพราะเขามีสมาธิแล้ว
เขามีกำลังที่จะเอามีดที่พระพุทธเจ้าหยิบยื่นให้
ไปฆ่ากิเลสของเขา แต่พวกเรานี้ตรงกันข้าม
พวกเรามีมีด เราฟังเทศน์ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า
เรารู้ว่ากิเลสคืออะไร แต่เราไม่มีกำลังที่จะไปฆ่ามัน
ดังนั้น เราต้องมาฝึกสมาธิกันก่อน
คือถ้าเราฟังเทศน์แล้วไม่บรรลุ เรายังตัดกิเลสไม่ได้
ก็แสดงว่าเราไม่มีกำลังไม่มีสมาธิ
เราก็ต้องมาฝึกสมาธิกัน ถ้าเรามีสมาธิแล้ว
เราอยากเอาธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนให้เราเอามาใช้
เราก็จะสามารถเอามาฆ่ากิเลสตัณหาต่างๆ
ให้หมดไปจากใจได้
เราก็จะสามารถบรรลุธรรมขั้นต่างๆ ได้.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.............................
จาก "หนังสือสติธรรม"
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ