Group Blog
All Blog
<<< “กายวิเวก จิตวิเวก” >>>










“กายวิเวก จิตวิเวก”

เพราะการทำสมาธินี้ จิตจะสงบได้ง่ายถ้าอยู่คนเดียว

กายวิเวกแล้วจิตก็จะวิเวก คำว่าวิเวกก็สงบสงัด

ถ้ากายสงบสงัด อยู่ในสถานที่สงบสงัด จิตก็จะสงบสงัด

 ถ้าอดีตชาติเคยมีความสงบในจิตแล้ว

 พอกายสงบ จิตก็จะสงบทันทีเลย

เช่นพระพุทธเจ้านี่ตอนที่เป็นเด็กนะ

 มีวันหนึ่งท่านอยู่คนเดียว อยู่ใต้ต้นไม้

พวกพี่เลี้ยงต่างๆ เขาไปยุ่งกับงานอื่น

 ไม่มีเวลามาคอยรับใช้

มาคอยปรนนิบัติมาคอยอยู่เป็นเพื่อน

 ก็เลยปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียว พอท่านอยู่คนเดียว

ใจของท่านเคยมีความสงบอยู่แล้ว

 ก็เข้าสู่ความสงบโดยอัตโนมัติ

 เพราะไม่มีอะไรคอยดึงไว้

ที่ใจเราไม่เข้าไปข้างใน

เพราะมีเรื่องต่างๆ คอยดึงเราไว้

เรื่องแฟน เรื่องสามี เรื่องครอบครัว

 เรื่องลูก เรื่องเงินทอง เรื่องอะไรร้อยแปด

ใจเราก็เลยเข้าสู่ความสงบไม่ได้

ถ้าเราไม่เคยมีความสงบมาก่อน

 เราก็ต้องใช้สติดึงใจเข้าไป

 ใช้สติดึง ดึงใจให้ออกจากเรื่องราวต่างๆ

 ออกจากเรื่องสามี เรื่องภรรยา เรื่องลูก เรื่องสมบัติ

 เรื่องอะไรต่างๆ ใช้พุทโธพุทโธดึงใจออกมา

จากเรื่องราวต่างๆ เพราะเวลาเราพุทโธ

 เราจะคิดถึงคนนั้นคนนี้ไม่ได้นั่นเอง

 พอเราไม่คิดถึงเขาเราก็ลืมเขาไปชั่วคราว

 แล้วเราก็จะเข้าสู่ความสงบได้

ฉะนั้นเราต้องอยู่ห่างไกลจากคน จากเรื่องราวต่างๆ

เพราะอยู่ที่บ้านเดี๋ยวก็เห็นคนนั้นเห็นคนนี้

 พอเห็นปั๊บมันก็อดที่จะคิดถึงเขาไม่ได้

 นอกจากคนแล้วยังมีอย่างอื่นอีก

ขนมนมเนย ทีวี อะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมด

 เดี๋ยวเห็นปั๊บก็อยากจะไปยุ่งกับเขาแล้ว

 เห็นทีวีก็อยากจะเปิดดู เห็นมือถือก็อยากจะเปิดดู

 เดี๋ยวก็กดหาคนนั้นหาคนนี้ นี่มันเลยเข้าข้างในไม่ได้

 จึงต้องไปอยู่ที่ไหนที่ไม่มีของเหล่านี้ อยู่คนเดียว

 ปลีกวิเวก กายวิเวก จิตก็วิเวก

 บางคนมาอยู่ที่นี่ก็ยังเอามือถือมาด้วย

เดี๋ยวเปิดดูอยู่เรื่อย ไม่รู้มาทำไม อย่ามาดีกว่า

 มันก็เหมือนกัน มือถือมันก็ไปเชื่อมให้เรา

กลับไปอยู่ที่บ้านอีกอยู่ดี เดี๋ยวก็โทรไปหาคนนั้น

เดี๋ยวก็โทรไปหาคนนี้ เป็นห่วงเขา

 เขาสบายดีหรือเปล่า แม่อยู่ที่นี่ลูกทำอะไรอยู่

อย่างนี้มันยังไม่กายวิเวก

กายวิเวกแต่ใจไม่วิเวก ใจยังคิดถึงเขาอยู่

อย่างสมัยก่อนนี่ ไปอยู่วัดหลวงตานี้

ท่านห้ามไม่ให้มีเรื่องราวต่างๆ

วิทยุ โทรศัพท์ ทีวี โทรทัศน์

ท่านเรียกว่าเทวทัต พวกเทวทัต พวกทำลายศาสนา

 พวกทำลายความสงบ ท่านเรียกเทวทัต

ไฟฟ้งไฟฟ้าท่านไม่ให้เอาเข้าเลย

 เพราะเข้าเดี๋ยวมันแอบเอาวิทยุเข้ามาเสียบฟังได้

เอาเทปเข้ามาเปิดได้ เอาอะไรเข้ามาเล่นได้

 ท่านเลยก็ต้องห้าม ถ้าเราอยากจะภาวนาให้ได้ผล

เราต้องหาที่ห่างไกลจากแสงสีเสียง

ห่างไกลจากรูปเสียงกลิ่นรส

 ห่างไกลจากคนนั้นคนนี้ แล้วเวลามาอยู่ที่เดียวกัน

 ที่ปฏิบัติ ก็อย่ามารวมกันอย่ามาคุยกัน

อย่ามาจับกลุ่มคุยกัน ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างปฏิบัติ

ใจถึงจะสงบได้ ถ้าสงบแล้วใจจะมีความสุขมาก

แล้วใจจะเลิกพึ่งคนนั้นคนนี้ พึ่งสิ่งนั้นพึ่งสิ่งนี้ได้

ตอนนี้เราต้องพึ่งคนนั้นคนนี้เพื่อให้ความสุขกับเรา

 พึ่งสิ่งนั้นสิ่งนี้มาให้ความสุขกับเรา

 แต่ถ้าเราทำใจให้สงบ ทำใจให้มีความสุขได้

 เราไม่ต้องพึ่งใครแล้ว.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

............................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 24 กันยายน 2560
Last Update : 24 กันยายน 2560 11:08:00 น.
Counter : 914 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ