Group Blog
All Blog
<<< “จิตที่ว่างก็เป็นจิตที่มีความสุข” >>>













“จิตที่ว่างก็เป็นจิตที่มีความสุข”

วันนี้วันสบาย ไม่รีบร้อน วันว่าง หัดอยู่ว่างๆ มั่ง

 เราวุ่นวายกันอยู่ทุกวัน ไม่วุ่นวายเรื่องนั้นก็เรื่องนี้

 ถ้าไม่มีอะไรมันก็ไม่มีเรื่องให้วุ่น ใช่ไหม

พอมีมันก็วุ่นกับเรื่องที่มี งั้นอย่าไปมีมันเลย

อยู่แบบไม่มีสิสุขจะตาย นิพพานัง ปรมัง สุญญัง

จิตที่ไม่วุ่นวายกับเรื่องต่างๆ เป็นจิตที่ว่าง

จิตที่ว่างก็เป็นจิตที่มีความสุข

 เนี่ยที่มีดวงตาเห็นธรรมก็เห็นตรงนี้

เห็นว่าไม่มีอะไรดีเท่ากับความว่าง

 ถ้ามันว่าง มันทุกข์ไม่ได้ เข้าใจไหม

จะไปทุกข์กับอะไร

ถ้ามันไม่มีอะไรจะให้ทุกข์ ใช่ไหม

 พอมีปั๊ปมันก็ทุกข์ปั๊บเลย

มีเงินก็ทุกข์กับเงินตอนเงินหมดไง

ตอนเงินหมดก็ทุกข์ พอไม่พอใช้ก็ทุกข์

พอเป็นหนี้ก็ทุกข์ ถ้าไม่มีเงินจะใช้

มันก็ไม่เป็นหนี้ไม่มีหนี้

ไม่มีแฟนก็ไม่ต้องทุกข์กับแฟน ใช่ไหม

 ไม่มีลูกก็ไม่ต้องทุกข์กับลูก

 ไม่มีอะไรสบายจะตาย

กลับไม่มีดวงตาเห็นธรรมกัน

 ดวงตาเห็นธรรม เห็นว่า

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นทุกข์

ทุกข์เพราะว่ามันไม่เที่ยง เที่ยงแท้แน่นอน

ไม่ใช่ของจริงของปลอม ความสุขปลอม

ได้มาแล้วเดี๋ยวก็หมดไปเหมือนควันไฟ

 เห็นควันไฟไหม ให้มันอยู่ได้ไหมเนี่ย

เวลาสูบบุหรี่แล้วพ่นออกไปเนี่ย

เดี๋ยวมันก็จางหายไปหมด

ความสุขต่างๆ ที่เราได้จากสิ่งต่างๆ

 พอได้มาปุ๊บแล้วเดี๋ยวก็หมดไป

ที่เรามานั่งสมาธิกันเพื่อทำใจให้ว่าง

ใจสงบใจไม่คิดอะไรไม่อยู่กับเรื่องอะไร

 เพราะคิดแล้วมันจะทุกข์ คิดถึงลูกก็ทุกข์

 คิดถึงหนี้ก็ทุกข์ คิดถึงแฟนก็ทุกข์

คิดถึงกิจการต่างๆ ก็ทุกข์ มันทุกข์ทั้งนั้นแหละ

เพราะมันเป็นของที่เราจับไว้ไม่ได้ เหมือนควันไฟ

 เหมือนปลาไหลจับแล้วมันก็หลุด หลุดมือไป

 ได้อะไรมาเดี๋ยวมันก็ลื่นหลุดมือไป

ได้อะไรมาเดี๋ยวก็หมด ได้เงินมาเดี๋ยวก็หมด

เงินเดือนออกปุ๊บเดี๋ยวเดียวไม่กี่วัน หมดแล้ว

 แต่ทำไมเราต้องไปมีสิ่งต่างๆ

ก็เพราะว่าเราห้ามความอยากของเราไม่ได้

 ความอยากนี่เป็นตัว

ที่ทำให้เราต้องไปหาสิ่งต่างๆ มา

 เพราะเวลามันอยากแล้วมันทรมาน

 คนอยากได้อะไรขึ้นมาแล้วนี่ใจไม่สบายแล้ว

ใจหงุดหงิดรำคาญ จะหายหงุดหงิดก็ต่อเมื่อ

ได้สิ่งที่อยากได้มา เห็นรองเท้าสวยๆ

 กระเป๋าสวยๆ อยากได้ ใจมันสั่นแล้ว

 กว่าจะหายสั่นก็ต้องไปได้มา

พอได้ไปซื้อกระเป๋าซื้อรองเท้าแล้ว

มันก็หายสั่นชั่วคราว ดีใจชั่วคราว

แล้วเดี๋ยวก็เห็นอย่างอื่นขึ้นมาก็อยากขึ้นมาอีก

 อยากขึ้นมาใหม่ก็สั่นขึ้นมาใหม่

 เพราะเราไม่รู้จักควบคุมความสั่นของใจ

เราควบคุมด้วยการทำตามความอยาก

 พออยากได้อะไรพอไปซื้อมาใจก็หายสั่น

 แต่เราไม่สามารถหยุดมันได้

 เดี๋ยวมันก็กลับมาใหม่

เดี๋ยวความอยากมันก็โผล่ขึ้นมาใหม่

อยากได้ของอื่นต่อ วันนี้ได้กระเป๋า

เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็อยากได้รองเท้า

 เดี๋ยวต่อไปก็อยากจะได้เสื้อผ้า

 อยากได้แหวนได้สร้อย

ได้ตุ้มหูได้อะไรต่างๆ นานา

นาฬิกงนาฬิกา เครื่องของประดับต่างๆ

ของฟุ่มเฟือยต่างๆ ยิ่งช่วงนี้ใกล้ปีใหม่นี้

ยิ่งต้องซื้อให้ตัวเองแล้ว

ยังไม่พอยังต้องซื้อให้คนอื่นอีก

ซื้อเท่าไหร่ก็ไม่พอ ความอยากก็ไม่หมด

เดี๋ยวปีใหม่หน้าก็อยากซื้ออีก

 แล้วถ้าไม่ได้ซื้อก็เสียใจรำคาญใจ

หงุดหงิดรำคาญใจเศร้าใจ

ไม่มีใครสอนให้หยุดความอยากกัน

มีแต่สอนให้ทำตามความอยาก

ใครอยากได้อะไรก็ทำ

ลูกอยากได้อะไรก็รีบวิ่งหามาเดี๋ยวกลัวมันจะร้อง

 กลัวมันจะเสียใจ อยากให้ลูกมีความสุข

 แต่เป็นการให้ความสุขแบบให้ยาเสพติด

ลูกอยากเสพยาเสพติดก็ซื้อมาให้มันเสพ

 เสพแล้วมันก็ติดแล้วมันก็อยากอยู่เรื่อยๆ

 พอมันไม่ได้เสพมันก็ ของต่างๆ ที่เราอยากได้

แต่เนี่ยมันเป็นยาเสพติดเท่านั้นแหละ

 เป็นเหมือนยาเสพติด ได้แล้วก็ติด

อยากจะได้อยู่เรื่อยๆ อยากจะมีอยู่เรื่อยๆ

 พอไม่ได้ขึ้นมาก็เสียใจทุกข์ใจไม่สบายใจ

พระพุทธเจ้าบอกว่ามาหยุดความอยากดีกว่า

 ความอยากมันจะไม่กลับมา

ถ้าทำตามความอยากแล้วมันจะกลับมาอยู่เรื่อยๆ.


 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

....................................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐









ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 13 ธันวาคม 2560
Last Update : 13 ธันวาคม 2560 14:12:54 น.
Counter : 466 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ