ช่วงเศรษฐกิจชะลอ ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารยังสามารถเติบโตได้ ภายใต้วงเล็บ ต้องอร่อยและมีจุดขาย หนึ่งในตัวอย่างคือ “ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณปอย” ที่นำเมนูคุ้นเคยมายกระดับขึ้นห้างสรรพสินค้า นอกจากอร่อยแล้วยังนั่งเย็นสบาย ในราคาชามละ 20 บาท ซื้อง่ายขายคล่องโดนใจลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว

“ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณปอย” สาขาโลตัส ปิ่นเกล้า

ลีลนา รอดจินดา หรือ “ปอย” เจ้าของร้าน บอกว่า ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือมาก ตระเวนกินไปทั่ว แต่ยังหารสอร่อยถูกปากจริงๆ ไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น ร้านที่ขายในห้างฯ ยังรู้สึกว่า ราคาสูงเกินไปด้วย กลายเป็นแรงผลักดันให้อยากลองทำร้านก๋วยเตี๋ยวเรือตามแบบฉบับที่ตัวเองต้องการ คือ ทั้งอร่อย นั่งสบายเย็นๆ ในห้างฯ และราคาสมเหตุสมผล

“ธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างและตกแต่งภายใน ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยว เริ่มจากแค่อยากมีร้านตามแบบที่อยากได้ เลยขอร้องให้ญาติ ซึ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้วช่วยคิดค้นสูตรน้ำซุปให้หน่อย แล้วมาให้ปอยชิม ทดลองอยู่นานกว่าจะได้รสที่พอใจ มีลักษณะเด่นน้ำซุปหอม หวานจากสมุนไพรนับสิบชนิด” ลีลนาเล่า และอธิบายต่อว่า

ลีลนา รอดจินดา หรือ “ปอย” เจ้าของร้าน

 นอกจากนั้น เรื่องวัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้น ลูกชิ้น เนื้อสัตว์ เครื่องปรุง ฯลฯ เสาะหาและลองชิมด้วยตัวเองทั้งหมด เพื่อให้นำมาประกอบกันได้ก๋วยเตี๋ยวเรือรสชาติตามที่ต้องการ

ขายชามละ 20 บาท เปิดในห้างสรรพสินค้า

เธอบอกว่า ตั้งใจแต่แรกต้องเป็นร้านขายในห้างฯ เพื่อให้ลูกค้านั่งกินเย็นสบาย ตกแต่งสไตล์ย้อนยุคคล้ายกับอยู่ในบรรยากาศงานวัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้ว และตั้งราคาชามละ 20 บาท ซึ่งคำนวณแล้วว่าสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงเกินไป เมื่อเทียบทั้งด้านปริมาณ และความสะดวกสบายที่ได้รับ

“ร้านนี้ปอยเอาตัวเองแทนลูกค้า คิดเทียบว่า ถ้ามีร้านแบบนี้ อร่อย บรรยากาศดี ขายชามละ 20 บาท ถ้าเป็นตัวเราเอง เราก็มากิน แล้วทำไมคนอื่นจะไม่กิน” เธอกล่าว

ตกแต่งสไตล์งานวัด ย้อนยุค

ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณปอยเปิดสาขาแรกที่ห้างเซียร์รังสิต เมื่อ พ.ศ. 2555 ด้วยเงินลงทุนส่วนตัวประมาณ 1.3 ล้านบาท ผลตอบรับนับแต่วันแรกคือสิ่งที่เจ้าตัวคาดไม่ถึง นั่นคือขายดีมาก และลูกค้าแน่นแทบทุกวัน กำไรเกินหมื่นบาททุกวัน ภายในระยะเวลา 4 เดือนสามารถคืนเงินลงทุนได้ทั้งหมด จึงขยายสาขา 2 ที่ห้างโลตัส ปิ่นเกล้า ซึ่งได้การตอบรับดีเช่นกัน หลังจากอีก 4 เดือนต่อมาก็ขยายสาขา 3 ที่โลตัส ทาวน์อินทาวน์

“ตอนที่ทำสาขาแรก เกิดจากความอยากทำมากกว่าเห็นโอกาสธุรกิจ ยิ่งเจาะจงขายชามละยี่สิบในห้างฯ ทั้งเพื่อนและญาติก็บอกว่าไม่น่าจะรอด แต่กลับขายดีจนเราอยากปิดร้านหนีเลย วันแรกถึงขั้นร้องไห้เพราะทำร้านอาหารมันเหนื่อยมาก เราไม่มีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน เดินเสิร์ฟไม่ได้หยุดพัก เหนื่อยจนแทบทนไม่ไหว และมีปัญหาจุกจิกมากมาย”

อย่างไรก็ตาม จากระยะแรก ลองผิดลองถูก ค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และปรับปรุง นำระบบมาทำงานแทนตัวเอง ไม่ต้องเหนื่อยมากแล้ว โดยปัจจุบันมีผู้ช่วยมาดูแลธุรกิจนี้โดยตรง และแต่ละสาขามีผู้จัดการร้านคอยกำกับอีกชั้น ขณะที่การควบคุมคุณภาพใช้ระบบครัวกลางกระจายวัตถุดิบสำคัญไปตามสาขาต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติเหมือนกันหมด ส่วนด้านบัญชีและสต๊อกสินค้าดูแลโดยระบบคอมพิวเตอร์ และทุกสาขาจะมีติดตั้งกล้องวงจรปิด ช่วยดูแลสาขาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องเหนื่อยแรงเหมือนช่วงเริ่มต้น

 เธอเล่าด้วยว่า แม้จะขายชามละ 20 บาท แต่ก๋วยเตี๋ยวเรือต่อชามยังมีกำไรสูงกว่า 50% ของต้นทุน และในความเป็นจริงลูกค้าคนหนึ่งมักสั่งไม่ต่ำกว่า 2 ชาม เมื่อเสริมค่าน้ำดื่ม แคบหมู ของหวาน ลูกชิ้นปิ้ง ฯลฯ สรุปแต่ละรายที่เข้าร้านเฉลี่ยแล้วใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 50 บาท ทำให้มีกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว 3 สาขารวมกันเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นบาทต่อวัน หรือประมาณ 6 แสนบาทต่อเดือน ถือเป็นรายได้ที่ไม่เลวเลยสำหรับมือใหม่ที่มาจับธุรกิจนี้เพียง 2 ปี

ผักสดฟรี

“จากที่ทำร้านก๋วยเตี๋ยวมาประมาณ 2 ปี ทำให้รู้ว่าอาชีพนี้กำไรดีมาก และไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนก็ยังต้องกิน แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ “ทำเล” ต้องดี ซึ่งของเราจะเน้นเปิดในห้างโมเดิร์นเทรดเพราะคนมากและค่าเช่าไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกันร้านต้องตกแต่งบรรยากาศดี อร่อย สะอาด บริการดี และราคาสมเหตุสมผล ถ้าทำได้ทั้งหมดนี้โอกาสจะสำเร็จเป็นไปได้มาก ซึ่งเป้าหมายปีนี้ (2557) เตรียมจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา นอกจากนั้นกำลังศึกษาเรื่องระบบแฟรนไชส์เพื่อเปิดโอกาสแก่ผู้สนใจมาร่วมธุรกิจ”

สนใจติดต่อธุรกิจ โทร. 08-6665-9797