| Surf & Turf | | | การบริการแบบ Chefs Table คือการจัดโต๊ะพิเศษในครัวสำหรับลูกค้าคนสำคัญ ได้นั่งรับประทานพร้อมกับชมการทำงานของเชฟอย่างใกล้ชิด ซึ่งแม้ในเมืองไทยอาจยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก แต่สำหรับในต่างประเทศ นี่เป็นรูปแบบของร้านอาหารในยุคใหม่ ที่มีในทุกหัวเมืองใหญ่ที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรมการกิน บรรดาเชฟคนดังต่างหันมาเปิดร้านแบบ Chefs Table ที่จัดเป็นร้านขนาดไม่กี่ที่นั่งกับครัวที่เปิดโล่ง เพื่อเปิดโอกาสให้แขกทุกคนรู้สึกราวกับเป็นคนพิเศษที่ได้รับบริการแบบใกล้ชิดกับเชฟและได้เห็นทุกขั้นตอนการปรุงเมนูแสนอร่อยเหมือนอย่างที่ร้าน Aston นี้ ก่อนหน้านี้คำว่า Chef's Table เกิดขึ้นด้วยการที่เชฟดังของร้านอาหารยอดนิยมจัดสรรบริการแบบพิเศษคือ เปิดครัวที่บ้านตัวเองให้บริการลูกค้าระดับ VIP ที่ให้ความสนิทสนมพาไปสัมผัสกับกระบวนการปรุงพร้อมพูดคุยแนะนำเมนูได้อย่างใกล้ชิด หรือไม่ก็อาจจะเปิดครัวของทางร้านในช่วงเวลาพิเศษนอกเหนือเวลาเปิดร้านเพื่อให้เข้าไปนั่งทานเมนูพิเศษที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ โดยจะจัดเป็นดินเนอร์มื้อเล็กๆ ประมาณไม่ถึง 10 ที่นั่ง ที่สามารถนั่งล้อมรอบเคาน์เตอร์ครัวได้แบบสบายๆ จนกระทั่งมาในช่วงหลังนี้จึงได้ปรับแนวคิดไอเดียมาเป็นร้านอาหารที่ให้บริการแนวนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเราจะพบเห็นได้อย่างแพร่หลายในเมืองแห่งนักชิมอย่างนิวยอร์กหรือโตเกียว สำหรับที่กรุงเทพฯ เราก็เริ่มเห็นร้านในแนวนี้เปิดให้บริการแล้วบ้าง แต่ที่ร้อนแรงที่สุดต้องยกให้ร้าน Aston นี้ ที่เปิดให้บริการได้เพียงวันละ 16 ท่านเท่านั้น โดยทุกท่านจะได้นั่งติดเคาน์เตอร์ครัว รับชมการทำงานของเชฟกว่า 10 คนในร้านช่วยกันปรุงอาหารแต่ละจาน โดยเมนูของร้านนี้จะเสิร์ฟเป็นคอร์สที่เชฟได้คิดสรรมาแล้วจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเพื่อความอร่อยที่สุด ซึ่งอาจจะแตกต่างเมนูกันออกไปในแต่ละวัน พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอย่างค็อกเทลจากมิกโซโลจิสต์ฝีมือดีและไวน์ฝรั่งเศสจับคู่รับประทานกับเมนูต่างๆ ด้วย
|