แพร่งภูธร...ยังอร่อยเหมือนเดิม เดินดินกินข้าวแกง - วิษณุ เครืองาม
คอลัมน์ เดินดินกินข้าวแกง โดย วิษณุ เครืองาม มติชน 7 มิถุนายน 2557
เคยเขียนถึงย่านอาหารการกินอร่อยที่เรียกว่า "แพร่งภูธร" มาแล้ว แต่อาจไม่ทั่วถึง บัดนี้ มีร้านหรือเจ้าอร่อยเพิ่มขึ้นในย่านนั้นควรแก่การแวะไปชิม
มารู้จักแพร่งภูธรกันเสียก่อน คำว่า "แพร่ง" หมายถึงบริเวณที่เป็นทางแยกทางบกไม่ว่าจะเป็นสามแยก สี่แยก หรือห้าแยก เช่น ห้าแยก
พลับพลาไชยและปากเกร็ด ดังที่เรามีคำว่าทางสามแพร่ง ทางสี่แพร่ง แต่ไม่ใช้เรียกทางน้ำที่แยกเป็นคูคลองต่างๆ คำนี้ต่างจาก "เวิ้ง" ซึ่งหมายถึงบริเวณที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวหลบเข้าไปข้างในคล้ายๆ ซอกแต่กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่
บางครั้งอาจเป็นที่ลุ่มหรือแก้มลิงอยู่ก็ได้ ดังที่เคยมีกลอนพรรณนาว่า "เป็นชะวากวุ้งเวิ้งตะเพิงพัก แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน" แต่โดยมากมักถมเสียจนกลายเป็นทุ่ง ตลาด ลานโล่ง
แพร่งภูธรอยู่ระหว่างถนนอัษฎางค์ ถนนเลียบคลองคูเมือง (ที่เราเรียกผิดว่าคลองหลอดนั่นแหละ) สายที่ผ่านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ หลังกระทรวงกลาโหมและหน้ากระทรวงมหาดไทย กับถนนตะนาวสายที่ผ่านหน้าวัดมหรรณพาราม หน้าศาลเจ้าพ่อเสือและหลังกระทรวงมหาดไทย
ความจริงถ้ามองจากถนนอัษฎางค์หรือถนนตะนาว บริเวณที่หลบอยู่ข้างในน่าจะเป็นเวิ้งมากกว่าแพร่ง แต่โดยที่ตรงนั้นเคยเป็นทางแยกหรือถนนจึงเรียกว่า "แพร่ง" ใกล้ๆ กันยังมีอีก ชื่อแพร่งสรรพศาสตร์และแพร่งนรา ที่ชื่อว่าแพร่งภูธรไม่ได้หมายถึงว่าเป็นภูธร หรือบ้านนอกคอกนา หรือต่างจังหวัดเหมือนตำรวจภูธร
แต่เคยเป็นวังกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ จึงเรียกสั้นๆ ว่าแพร่งภูธร เคยได้ยินผู้ใหญ่รุ่นเก่าเรียกแพร่งภูธเรศก็มี รัชกาลที่ 5 ทรงซื้อที่ดินที่เป็นวังมาตัดถนนและทำเป็นตลาด ส่วนที่เรียกแพร่งสรรพศาสตร์เพราะเคยเป็นวังกรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจ และที่เรียกแพร่งนราเพราะเคยเป็นวังกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
ปัจจุบัน แพร่งภูธรเป็นที่ดินในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ลานที่เห็นตรงกลางคล้ายๆ เวิ้ง เคยเป็นตลาด ผมยังทันแวะไปหาของกินอร่อยๆ ในตลาดนั้นสมัยเรียนที่ธรรมศาสตร์ จนเมื่อมาเป็นกรรมการกฤษฎีกาแล้ว พอเลิกประชุม
อาจารย์ ดร.ประยูร กาญจนดุล ประธานคณะที่ผมอยู่ มักชวนไปกินข้าวสตูลิ้น ข้าวราดแกงกะหรี่เอ็น ข้าวหมูกรอบในตลาดนั้นเป็นประจำ เวลานี้รื้อตลาดลงแล้ว โดยปล่อยให้โล่งเป็นลานใหญ่ให้คนแถวนั้นทำกิจกรรม ความจริงน่าจะปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่นดีกว่าทิ้งไว้เฉยๆ
ลานดังกล่าวมีถนนล้อมรอบ สามารถเข้าออกทางถนนอัษฎางค์และถนนตะนาวได้ ตึกแถวข้างถนน ล้อมรอบ และหาบเร่ร้านค้าริมถนนล้วนเป็นเจ้าอร่อยแทบทั้งนั้น เที่ยงๆ บรรดาผู้พิพากษา ข้าราชการกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยจึงมักมาหาของกินแน่นขนัด นี่ยังไม่พูดถึงคนที่มาจากท้องที่ไกลๆ
ถ้าเข้าทางถนนอัษฎางค์ด้านคลองคูเมือง ก็เจอร้านอาแปะขายสมองหมูเจ้าโบราณแบบจีนอยู่ทางซ้ายมือ มีคุณป้าเปิดร้านต้มสมองหมูแบบไทยอยู่ทางขวามือ กรุณาเลือกตามใจชอบ อร่อยทั้งนั้น แต่ทำเป็นเล่นไป ร้านป้าแกได้รับป้ายเชลล์ชวนชิม 1 ใน 4-5 ร้านแรกของไทยนะครับ
ร้านที่ 1 ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามกันแต่เลิกกิจการไปนานแล้ว ก่อนจะกลัวไขมันอุดตันในเส้นเลือด ผมเป็นแฟนร้านสมองหมูแบบไทยของป้า เวลาไปกินก็สั่งต้มสมองหมูชามหนึ่ง ไม่เอาสมองนะ เคยมีโต๊ะหนึ่งได้ยินเข้าหันมาแซวว่า "อ้อ! มิน่า!" หวิดเกิดเรื่องแล้ว
ถนนรอบๆ ลานข้างในมีร้านอุดมโภชนา ขายข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวแกงกะหรี่หมู-เนื้อ ข้าวสตูลิ้น-เอ็นเนื้อ ขายมากว่า 60 ปีแล้วอร่อยมาก
ใกล้ๆ ร้านอุดมโภชนา มีร้านบุญทอนขายพวกไก่ย่าง ส้มตำ ปลาดุกฟู ต้มแซ่บ น้ำตกปลาช่อน อาหารทำนองเดียวกันมีเจ้าปลานึ่งข้างสถานีอนามัยอีกเจ้า อยู่ตรงข้ามร้านบุญทอนนั่นแหละ แต่เป็นรถเข็น ขายปลาดุกย่าง คอหมูย่าง ตับหวาน ไก่ย่าง ส้มตำ ร้านสุพรรณีก็ขายทำนองเดียวกันแต่หยุดวันจันทร์
ร้านปทุมมีกะเพราปลาทู กะเพราหมู กะเพราทะเลแปลกออกไป ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลตำลึง ร้านบะหมี่แพร่งภูธรของเจ๊สุนีย์ เป็นพวกบะหมี่หมูแดง บะหมี่ปู ถ้าอยากแวะนั่งกินในร้านก็ต้องครัวต้นหอม แกงส้มชะอมไข่กับกุ้ง เนื้อปลาผัดผงกะหรี่ ทอดมันปลากราย และปลาช่อนกรอบผัดพริกขิงของเขาอร่อยดี
หลายคนพอกินของคาวเสร็จ มักเตร่ไปข้างร้านอุดมโภชนาซื้อข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย ไส้เผือก กลับไปแจกพรรคพวกในที่ทำงาน แต่แทบทุกคนมักเดินเลยไปอีก 4-5 คูหาเพื่อกินไอศกรีมกะทิสด ไอศกรีมนมสดสูตรโบราณร้านเจ๊นัฐพรล้างปากล้างคาวดีนักแล
เวลาผมมีงานมีการเลี้ยงแขกก็ไปเหมาไอศกรีมกะทิสด นมสดของเจ๊นี่แหละ ยกถังไปตักแจกแขกเสร็จงานก็ยกถังเอาไปคืน
ร้านรวงในแพร่งภูธรขายกันมากว่ากึ่งศตวรรษแล้วเป็นส่วนใหญ่ อาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมในย่านนั้นยังคงที่ ฝีไม้ลายมือยังคงเส้นคงวา สนนราคาก็ปรับเพิ่มไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย
ผมเคยไปเจอระดับรองประธานศาลฎีกา รองปลัดกระทรวงกลาโหม อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัดหลายคนแวะมากินต้มสมองหมูกับข้าวสวยร้อนๆ มีกุนเชียงตับจิ้มซีอิ๊วหวานเป็นของแนม กินข้าวราดแกงกะหรี่หมู มีพริกชี้ฟ้าเขียว ไข่ต้ม กุนเชียงเป็นของแนม
หรือนั่งที่โต๊ะข้างถนนนั่นแหละรอปลาดุกย่าง คอหมูย่างร้อนๆ ควันฉุยจากเตา ถามว่าทำไมไม่ให้เด็กมาซื้อไปกินในที่ทำงาน ทุกท่านตอบเหมือนกันว่า เรื่องรสชาติน่ะเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องบรรยากาศเหมือนเมื่อสมัยเป็นจ่าศาล สมัยเรียนธรรมศาสตร์ปี 1 สมัยเป็นปลัดอำเภอเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ว่าแต่ลื้อน่ะมาถึงนี่ทำไม!
ผมหัวเราะตอบว่า "ก็อีหรอบเดียวกันล่ะท่าน"
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คอลัมน์ เดินดินกินข้าวแกง ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 10 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2557 8:56:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1426 Pageviews. |
|
|