รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
สติ ตามรู้ตามดู สมถวิปัสสนา ในการภาวนา

ผมเข้าไปอ่านในกระทู้นี้  //www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12267801/Y12267801.html
ก็มีการถกการพอหอมปากหอมคอเรื่องของสติ การตามรู้ตามดู เรื่องของสมถวิปัสสนา  เป็นการถกกันในแบบปราชญ์ที่น่ายกย่องนับถือมากครับ

กระทู้นี้ดีมาก และ ผมเชื่อว่า นักภาวนาจำนวนมากจะสับสนกับเรื่องเหล่านี้อยู่เป็นอันมาก เพื่อให้กระจ่างแจ้งในการภาวนาของท่านที่อ่าน blog  ที่ผมเขียน ผมจึงนำความเห็นของผมมาแสดงไว้ตรงนี้

1..เรื่องของตามรู้ตามดู มันเป็นอย่างไรกัน อีกฝ่ายว่าไม่ต้องตาม อีกฝ่ายว่าตำราบอกว่าให้ตาม

ผมมีเขียนไว้ในเรื่อง ตามรู้ ตามดู อย่างไร คือ ถูกต้องในการปฏิบัติ

ขอให้ท่านอ่านใน link ข้างบนก่อนครับ

ในการตามรู้ตามดูนั้น มันจะโยงเข้ากับเรื่องของ สมาธิ และ สมถ วิปัสสนาด้วย

2..ถ้ามีการตามรู้ตามดูแบบจงใจ จะโยงเข้ากับเรื่องของสมาธิ  อ่านเรื่อง
เรื่องของ สมาธิ ภาค 1 -ลักษณะของสัมมาสมาธิ มิจฉาสมาธิ

ซึ่งถ้าตามรู้แบบจิกแน่น จนจิตเข้าไปเกาะยึด จะเป็นสมาธิแบบฤาษี  ถ้าเป็นการตามรู้ที่จงใจก็จริง แต่รู้แบบเบา ๆ จิตไม่เข้าไปเกาะยึดกับสิ่งที่ถูกรู้ ก็เป็นการตามรู้ที่เป็นสมาธิที่ฝึกเพื่อใช้เกื้อหนุนวิปัสสนาได้ต่อไป  แต่เป็นการตามรู้ตามดูที่เป็นสมถภาวนา ไม่ใช่วิปัสสนาภาวนา (อ่านเรื่อง  สมถะ วิปัสสนา ในแนวทางที่ตำราไม่กล่าวถึง  //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=30&group=1&gblog=19 )

3.มีอีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้ ผมเขียนไว้เหมือนกันแต่หาเรื่องที่เขียนไว้แล้วไม่พบ ก็เขียนใหม่ก็แล้วกัน  คือ ถ้าจิตกำลังเดินวิปัสสนาของเขาเอง จิตจะตามรู้ตามดูสภาวะธรรมแบบไม่ปล่อยวาง แต่เป็นการทำงานเองของจิต ที่นักภาวนาไม่ได้สั่งให้จิตทำแบบนี้  ผมจะยกตัวอย่างให้เห็น

3.1 ถ้าท่านเกิดปวดท้อง ปวดไม่หายเลย จิตที่แยกตัวออกจะเดินวิปัสสนาเอง เขาจะติดตามการดูอาการปวดท้องเอง ดูอยู่อย่างนั้น โดยที่นักภาวนาไม่ได้สั่งให้ดู เขาจะดู จนเลิกดูไปเอง

3.2 ถ้าความคิดเกิดแล้วไม่ยอมดับสักที จิตเห็นพลังงานความคิดโผล่ออกมาพลุบพลับปานประหนึ่งน้ำที่เดือนพล่านอยู่ จิตจะไปเห็นพลังงานความคิดนี้ และเฝ้าดูมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าความคิดจะหยุด หรือ จนกว่า จิตจะเลิกดูเอง

3.3 ในนักภาวนาที่เห็นจิต เห็น มโน ได้แล้ว เมื่อกำลังจิตตั้งมั่นพอ จิตจะเห็นจิต เห็น มโน ได้เอง เห็นอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ๆ โดยที่นักภาวนาไม่ได้ตั้งใจจะสั่งให้จิตไปดู แต่จิตก็ดูเองเห็นของเขาได้เอง

4..สรุปความเข้าใจในการภาวนา

4.1 ถ้าตามรู้ตามดูแบบจงใจ  แต่ไม่แนบแน่นจนจิตไปเกาะติดกับสิ่งที่ถูกรู้ แบบนี้เป็น สมถภาวนา จิตจะสงบและเป็นสมถที่เกื้อหนุนวิปัสสนา การฝึกสมถแบบนี้ วิปัสสนาจะเกิดในชีวิตประจำวันในขณะที่ไม่ได้จงใจกระทำ ซึงจะเข่าข่าย 
สมถนำหน้า วิปัสสนาตามหลัง

4.2 ถ้าตามรู้ตามดูแบบจงใจ และ จิตไหลไปยึดเกาะติดกับสิ่งที่ถูกรู้ แบบนี้เป็นสมาธิแบบฤาษี ไม่เกื้อหนุนวิปัสสนา

4.3 ถ้าการตามรู้ตามดูที่ไม่จงใจ แต่จิตไปทำงานตามรู้ตามดูเอง อย่างนี้เป็นทั้งสมถและวิปัสสนาพร้อมกัน







Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 22 มิถุนายน 2555 7:00:23 น. 0 comments
Counter : 2126 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.