การเข้านิพพานแบบฌานตื้น
1...บทความเรื่อง " การเข้านิพพานแบบฌานตื้น " เขียนขึ้นจากความเข้าใจส่วนตัว ท่านที่เข้ามาอ่าน แนะนำให้อ่านด้วยการพินิจพิเคราะห์ด้วยปัญญา
บทความก่อนหน้าที่แนะนำอ่านก่อน คือ เรื่อง สภาวะธรรมของนิพพาน
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=01-2022&date=25&group=17&gblog=238
2.. เงื่อนไขที่สำคัญของสภาวะนิพพาน จะมี 3 ข้อ คือ
ข้อ A พบว่า สัมมาสมาธิเกิดแล้ว
ข้อ B พบว่า เรือน ได้สลายไปแล้ว
ข้อ C ความรู้สีกความมีตัวตนได้สลายไปแล้ว
ซี่งทั้ง 3 ข้อ นักปฏิบัติต้องรู้จักสภาวะธรรมดังกล่าวก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับนักปฏิบัติ
ที่จะปฏิบัติจนรู้สภาวะธรรมทั้ง 3 ข้อได้ว่า ตนได้แล้วหรือยัง
แต่การเข้านิพพาน ยังสามารถเข้าได้อีกวิธีหนี่งที่ง่ายกว่า โดยการเข้าด้วยฌานตื้น ซี่งนักปฏิบัติต้องปฏิบัติสติปัฏฐาน จนจิตมีกำลังของจิตมากพอ แล้วใช้ กำลังของสัมมาสติที่มีพลัง เข้านิพพานได้ต่อไป
3..วิธีการ
1..ท่านนักปฏิบัติต้องเจริญฝีกฝนสติปัฏฐานไปตามปกติก่่อน จนจิตมีกำลังมากพอ แล้วจะเกิด ดวงตาเห็นธรรม ขึ้น ( อ่านเรื่อง ดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) คืออะไร เกิดได้อย่างไร
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=01-2022&date=27&group=17&gblog=239 )
2.. โดยธรรมชาติ คนที่มี ธรรมจักษุ เกิดขึ้น จะสามารถรู้ลมหายใจได้อยู่แล้ว ตรงจุดนี้ สำคัญที่ต้องเข้าใจก่อน
การรู้ลมหายใจ นั้น ขอท่านอย่าได้ไปรู้ลมที่ปลายจมูกเด็ดขาด การไปรู้ลมที่ปลายจมูก จิตจะไปยีดติดที่ปลายจมูก ทำให้ไม่สามารถเข้านิพพานได้
ลมหายใจที่จะเข้านิพพานได้นี้ จะมีลักษณะอาการที่ว่า รู้ว่ามีลมหายใจอยู่ แต่ไม่รู้ว่าลมอยู่ที่ไหน ลมจะลอยๆ ไม่มีที่ตั้ง ไม่มีที่อยู่ ลักษณะของลมหายใจแบบนี้ จึงจะเข้านิพพานแบบฌานตื้นได้
ถ้าลมหายใจของท่านยังไม่เป็นแบบนี้ ท่านยังไม่สามารถเข้านิพพานได้ ขอให้ไปฝึกฝนสติปัฏฐานต่อไปก่อน เพื่อให้กำลังจิตมีมากขึ้นก่อน
เมื่อท่านสามารถทำอาณาปานสติ โดยรู้ลมแบบไม่มีที่ตั้งได้แล้ว ต่อไป ขอให้หัดใช้ สติที่มีกำลัง ปรับลมหายใจในไหลแรงขึ้น ความแรงของลมหายใจนี้ เปรียบเหมือนการ กดปุ่มปรับลมที่พัดลมที่บ้าน ปกติ ถ้ากดเบอร์ 1 พัดลมจะให้ลมแรงระดับแรก แต่ถ้ากดเบอร์ 2 หรือ 3 ลมจะพัดแรงขึ้น การใช้สติปรับลมก็เช่นกัน ถ้าท่านใช้สติปรับลมหายใจให้แรงขึ้นได้กว่าลมหายใจปกติ จิตจะไปรู้ลมหายใจที่เด่นชัดนี้ทันที เพราะโดยธรรมขาติ การรู้ของจิต จะไปรู้สภาวะธรรมที่แรงที่สุดเสมอ เพราะเด่นชัดที่สุด
เมื่อจิตไปรู้ลมหายใจที่แรง ๆ ที่เป็นธรรมชาติอยู่ ตอนนั้น จิตจะเข้าสู่สภาวะนิพพานทันที
>> เรื่องการใช้สติปรับลมหายใจ ไม่ใช่เป็นการบังคับลมหายใจ อาการจะไม่เหมือนกัน
ถ้าคนธรรมดาบังคับลมหายใจเข้าออกให้แรง อาการจะเป็นแบบหนี่ง
ที่ตอนต้นลมและปลายลมจะเกิดความรู้สีกที่อึดอัดขึ้น
>>>>แต่การใช้สติปรับลมหายใจ จะไม่มีอาการอีดอัดเกิดขึ้นเลย
ลมหายใจจะไหลลื่นราบเรียบดี เป็นธรรมชาติมาก
>>> เมื่อปรับลมหายใจด้วยสติให้แรงขึ้นได้แล้ว ต่อไป
ท่านไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉย ๆ จะรู้ลมหายใจที่แรงและไหลลื่นได้เอง
ไม่ต้องบริกรรมใด ๆ ไม่ต้องไปรู้ว่า ลมไหลเข้าหรือลมไหลออก
ถ้าท่านมีปัญญาพอที่รู้จัก เรือน และ รู้จักอาการของการมีตัวตนอยู่ ท่านจะพบได้ว่า
เมื่อ จิตไปรู้ลมหายใจที่แรงที่เป็นธรรมชาตินี้อยู่ เรือน จะหายไป และ ความเป็นตัวตน ก็จะหายไปด้วย
แต่ถ้าท่านไม่รู้จัก เรือน ไม่รู้จักอาการของการมีตัวตน ก็ไม่เป็นไร ขอให้เชื่อไว้ก่อนว่า
ถ้าท่านอยู่ในสภาวะแบบนี้ เรือน และ ความเป็นตัวตน ได้หายไปแล้ว
ท่านจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า เมื่อสภาวะธรรมแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ ทุกข์จะหายไปหมดสิ้น
มีเทคนิคอีกแบบหนี่ง ถ้าท่านยังสามารถออกกำลังกายได้โดยการวิ่ง หรือ เดินเร็ว ๆ หรือ เล่นโยคะจนเหนื่อยเล็กน้อย ขอให้ท่านวิ่งหรือเดินเร็ว ๆ ก่อน ให้รู้สีกเหนื่อยเล็กน้อย ตอนนั้น ลมหายใจเริ่มต้นจะแรงกว่าปกติตอนที่ไม่เหนื่อย แล้ว ให้ท่านหยุดวิ่งหรือหยุดเดินหรือหยุดเล่นโยคะ ให้ท่านใช้สติ ปรับลมหายใจให้แรงขึ้นอีก ท่านก็จะเข้านิพพานได้เพราะลมหายใจมีความแรงขึ้นกว่าเดิม
3..การเข้านิพพานแบบนี้ จะตั้งอยู่ได้นานหรือไม่ อยู่ที่กำลังสติของท่านมีความตั้งมั่นได้ขนาดไหน ถ้าสติที่มีกำลัง สามารถปรับลมหายใจที่แรงได้นาน นิพพานก็อยู่ได้นาน แต่นานแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่า เกิดอยู่ทั้งวันที่ตื่นอยู่ ซี่ง นิพพานแบบเกิดได้ทั้งวันนั้น ท่านต้องเข้าแบบ ฌานลึก ซี่งเป็นการเข้านิพพานที่ยากกว่ามากมาก ซี่งยากที่จะหาคนที่เข้านิพพานแบบนี้ได้
การเข้านิพพานแบบ ฌานตื้น นี้ ลมหายใจที่ไหลแรง ผลจะดีต่อสุขภาพกายและใจ
ท่านควรฝึกฝนไว้เสมอ นอกจากได้เรื่องสุขภาพกายและใจแล้ว
ถ้าในยามวิกฤตที่กำลังจะตายลง ถ้าท่านเข้านิพพานได้ การเกิดใหม่ของท่านก็หยุดลงได้
ยกเว้นแต่ว่า ท่านยังต้องการจะเกิดอีกด้วยเหตุผลบางอย่างของท่านเอง...
| Create Date : 28 มกราคม 2565 |
| Last Update : 19 มิถุนายน 2565 16:19:34 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 651 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [