รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
ปรมัตถธรรม ทุกข์ ไม่ทุกข์ ฉบับชาวบ้านอ่านด้วยภาษาง่าย ๆ

ขอนอบน้อมแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เนื่องในวันวิสาขบูชา 2560 ผมขอเขียนเรื่องทุกข์ ไม่ทุกข์ ฉบับชาวบ้านอ่าน
ด้วยภาษาชาวบ้านง่าย ๆ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอให้ดูจากภาพ



สี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน 3 อันทีอยู่วงนอก นั้นคือ ทุกข์
ทุกข์นี้ มูลเหตุเกิดจากจิตพลังงานวิ่งออกไปทำงานซี่งมีสาเหตุทำให้เกิดขึ้น

ทุกข์ตัวบน นีกคิด
ทุกข์ตัวนี้ เกิดจากความเคยชินของคนเรา ทีถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด ให้รู้จักสิ่งต่างๆ รอบตัว รู้จักการทำมาหากิน รู้จักการเข้าสังคมและอื่น ๆ เมื่อถูกปลูกฝังมานานมาก ก็กลายเป็นนิสัย เนื่องจากคนทีเกิดมา มักมีสติสัมปชัญญะอ่อนแอมาก ทำให้ไม่รู้จัก และ ไม่เห็นพลังงาตัวความคิดนี้ เมื่อมีการทำงานเกิดขึ้น
ความอยากในการกระทำใด ๆ ก็คือ การนีกคิดเช่นกัน

ทุกข์ตัวกลาง จิตไหลออกสู่โลกภายนอก
นี่คือแรงตัณหาทีฝังในตัวจิต เมื่อมีการมองจ้องสิ่งใด หรือ สนใจสิ่งใดในโลกภายนอก
จิตจะเกิดการไหลออกไป การไหลออกของจิตจะเป็นการสร้างภพชาติของจิต หมายความว่า ถ้าคนยังมีจิตทีไหลออก ก็จะเวียนเกิดตายในสังสารวัฏไปตลอด
เช่นกัน เนื่องจากคนมีสติสัมปชัญญะอ่อนแอ เมื่อจิตไหลออก เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่า จิตไหลออก

ทุกข์ตัวล่าง ร่างกายเจ็ยป่วย
อาการนี้ ถ้าเจ็บป่วยรุนแรง คนมักจะรู้ แต่ถ้าเจ็บป่วยเบา ๆ คนจะไม่รู้
อาการเจ็บป่วย ก็มาจากธาตุขันธ์ทีไม่สมบูรณ์ หรือมีอุบัติเหตุ มีโรคภัยเกิดขึ้น
เมื่อมีอาการเจ็บป่วย ตัวจิตจะมารวมตัวกันอยู่บริเวณทีเจ็บป่วย ทำให้เป็นทุกข์เจ็บป่วย

ในทุกข์ทั้ง 3 เรื่องที่กล่าวมา พระพุทธองค์ทรงสอนเรื่องมรรค 8 เพื่อการดับทุกข์
หรือ พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน ก็คือ การฝีกสัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ให้จิตไม่ไหลออก ให้จิตไม่ยีดติดในทุกข์ ให้จิตเห็นพลังงานความคิดได้ ให้จิตเห็นพลังงานทีทำให้เจ็บป่วยได้ ถ้าใครฝีกได้จนได้ผลดี กล่าวคือ รู้จักทุกข์
เห็นทุกข์ได้ ใครทีฝีกได้ถีงระดับนี้ ถีงมีทุกข์จะไม่ยีดติดในทุกข์เลย

ในขบวนการไม่ทุกข์นั้น อยู่ทีสี่เหลี่ยมสีเหลือง
พระพุทธองค์ทรงสอนเรื่อง สติปัฏฐาน 4 ให้มีสติระลีกรู้ในความรู้สีกทีเป็นโลกภายใน เมื่อสติระลีกรู้อยู่ทีนี้อย่างสม่ำเสมอ ไม่หลุดออกไปจากรู้ในโลกภายในนี้เลย ก็คือ สัมมาสมาธิได้เกิดขึ้นในจิต ซี่งถ้าใครก็ตามทีฝีกฝนตามทีพระพุทธองค์ทรงสอนไว้จนได้เป็นอย่างดี ทุกข์ถีงมี แต่จิตจะไม่ยีด ทำให้จิตไม่มีทุกข์

ขบวนการจัดการทุกข์ด้วย สติ สมาธิ ปัญญา นั้น คือ สิ่งทีพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในอริยสัจจ์ 4 อันเป็นแก่นของพุทธศาสนา

ถ้าใครก็ตามทีได้ปฏิบัติตาม ก็จักพบความจริงนี้ได้


Create Date : 10 พฤษภาคม 2560
Last Update : 10 พฤษภาคม 2560 10:19:15 น. 0 comments
Counter : 3208 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.