รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2563
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 มิถุนายน 2563
 
All Blogs
 

มือใหม่เมื่อต้องการปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน ท่านจะเริ่มต้นได้อย่างไร

บทความนี้เป็นข้อแนะนำของผู้เขียน สำหรับมือใหม่
ทีสนใจการปฏิบัติธรรมแบบหลวงพ่อเทียน.
.
1..เกริ่นนำ
ผู้เขียนได้เคยอ่านหนังสือธรรมวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียนมาก่อน
แล้วก็ลงมือปฏิบัติตามในหนังสือ เมื่อปฏิบัติไป ก็เกิดความสงสัยหลายเรื่อง
ต่อมา ผู้เขียนได้รู้จักหลวงพ่อสมบูรณ์ (ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกของหลวงพ่อเทียน )
โดยผ่านคอร์สอบรมของหลวงพ่อวิโมกข์ (ปัจจุบัน หลวงพ่อวิโมกข์ เป็นเจ้าอาวาสวัดหนี่งที่ ระยอง)
.
หลวงพ่อวิโมกข์ นิมนต์หลวงพ่อสมบูรณ์มาสอนวิธีการภาวนา
ที่บ้านของหลวงพ่อวิโมกข์  ที่ย่านสะพานพระปิ่นเกล้าในสมัยนั้น
.
เมื่อผู้เขียนได้รู้จักหลวงพ่อสมบูรณ์แล้ว 
ผู้เขียนได้ไปกราบหลวงพอสมบูรณ์อีกหลายครั้ง ที่่วัดสนามใน ซี่ง หลวงพ่อเดินทางเข้ามา กทม.ทุกเดือน (ปกติ หลวงพ่อสมบูรณ์ จะอยู่ที่วัดในจังหวัดกระบี่ )
และ ผู้เขียนได้สอบถามข้อสงสัยในการภาวนา
หลวงพ่อท่านได้เมตตาตอบข้อสงสัยและได้อธิบายวิธีปฏิบัติเพิ่มเติมจากสิ่งที่ได้เคยอ่านในหนังสืออีก
ผู้เขียนได้ปฏฺิบัติตามคำสอนของท่านอยู่นาน  ก็มีประสบการณ์การภาวนาและได้เข้าใจวิธีปฏิบัติตามแนวทางนี้มากขึ้น
จึงขอเขียนสิ่งที่ผู้เขียนผ่านพบมาที่มีประสบการณ์ในแนวทางนี้
มาเขียนลงใน blog  นี้ เพื่อท่านที่สนใจแนวทางนี้ จะได้ศีกษาเป็นความรู้
.
2...เริ่มเรื่อง.
วิธีการเคลื่อนมือแบบหลวงพ่อเทียนนั้น
ในขณะที่เคลื่อนมือ ให้เคลื่อนสบาย ๆ  ไม่ต้องรีบเร่งในการเคลื่อน
และการเคลื่อนจะมีจังหวะหยุดสักครู่แล้วเคลื่อนต่อไปเป็นจังหวะ
ใน 1 รอบ จะมีทั้งหมด 14 จังหวะ ( หลวงพ่อสมบูรณ์บอกว่า
แรก ๆ หลวงพ่อเทียนเคลื่อนมี 16 จังหวะ ไม่ใช่ 14
แต่นั้นไม่สำคัญว่า กี่จังหวะ )
.
ในการฝีกนั้น จะแบ่งผู้ฝีกเป็น 3 ระดับด้วยกันดังนี้
1..ระดับมือใหม่เอี่ยม
เพิ่งสนใจการภาวนาแล้วมาลงมือฝีก
ระดับนี้  ให้สนใจความรู้สีกที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนมือ
ขอให้ จขกท ทดลองดูเอง ดังนั้น
1.1 เมื่อเคลื่อนมือลูบที่ลำตัว จะรู้สีกได้ถึงการสัมผัสทีลำตัว
คล้าย ๆ เราอาบน้ำแล้วลูบตัว ก็จะรู้สีกได้ในการลูบที่ลำตัว
ขอให้ ท่านที่เข้ามาอ่าน ให้ลองทำการลูบดูจริง ๆ ก็จะพบเรื่องนี้ได้ทันที เพราะง่ายมาก
1.2  ในขณะที่เคลื่อนมือแล้วลูบลำตัว ความรู้สีกสัมผัสที่ลำตัว
จะเป็นอาการแบบหนี่ง แต่พอมือที่ลูบลำตัว หยุด เคลื่อน
ความรู้สีกจะไม่เหมือนกับตอนที่เคลื่อน ความแตกต่างในของการ
รู้ความรู้สีกที่เกิดขึ้นนี้ ให้สังเกตด้วยว่า ไม่เหมือนกันนะ
การรู้ความแตกต่างของความรู้สีกได้ นี่คือ ปัญญาอย่างหนี่งของจิต
ขอให้ทดลองทำดูจริงๆ ก็จะพบความรู้สีกที่ไม่เหมือนกันนี้ได้
ระหว่างกำลังเคลื่อน และ หยุดเคลื่อน
1.3 ในการเคลื่อนมือสำหรับนักภาวนาระดับที่ 1
ให้รู้สีกไปที่สัมผัสที่อธิบายไว้ข้างบนนี้
ทั้งที่กำลังเคลื่อนและ ที่กำลังหยุด ไม่ใช่สักแต่ว่าเคลื่อนไป
แล้วหยุด แบบนี้ไม่ถูกแล้ว และ ขอให้สังเกตว่า
ถ้าเราสังเกตความรู้สีกที่เกิดขึ้นเมื่อเคลื่อน เมื่อหยุด
ไม่ใช่ไปจ้องที่มือ   การไปจ้องที่มือนี่ เป็นการปฏิบัติที่ผิด
.
การรู้สีกได้ ไม่ต้องจ้องมือก็สามารถรู้สึกได้
ขอให้ลองทำดูจริงๆ  ก็จะพบเองว่า ได้แน่ และง่ายด้วย
 >>>ห้ามจ้องมือแต่ให้รู้สีกได้ เรื่องนี้สำคัญมาก<<<
ในขณะที่กำลังรู้ความรู้สีกที่กำลังเกิดขึ้นได้
ขอให้สังเกตว่า ตาเนื้อของเรา
จะเห็นภาพมัว ๆ ลงไป คือ ตาจะเห็นไม่ชัดเจน  
นี่คือ มือใหม่เอี่ยมมาฝีกให้ทำแบบนี้ก่อน
.
หมายเหตุ ถ้าตาเนื้อของเราเห็นภาพชัด  การรู้ความรู้สีกจะลดน้อยลงไป
นี่เป็นกลไกของธรรมชาติจะเป็นแบบนี้
       ในระดับ 1 เราฝีกเพื่อให้จิตไปรู้ที่ความรู้สีกเป็นสิ่งสำคัญ
มากกว่าการเห็นได้ของตาเนื้อ  
 (  ขอให้อ่านระดับ 2  ซี่งจะเพิ่มระดับการเห็นของตาเนื้อ )
.
สรุป สำหรับมือใหม่เอี่ยมเพิ่งมาฝีกในระดับ 1
ให้รู้ความรู้สีก สังเกตความแตกต่างของความรู้สีกที่เกิดขึ้นระหว่าง
เคลื่อน และ เมื่อหยุด
>> ในขั้นนี้ อย่าเพิ่งสนใจอาการความรู้สีกตัว **ตรงนี้สำคัญยิ่ง
.
2..ระดับ2  ทีมือใหม่เริ่มมีประสบการณ์ในการฝึกไปบ้างแล้ว
ปัญหาก็คือ จะเริ่มเปลี่ยนไปแบบที่ 2 นี้เมื่อใด
.
ที่ผมเข้าใจ  ก็คือ ระดับที่ 1 ฝีกไปเรื่อยๆ ฝีกไปบ่อย ๆ
แนะนำควรฝีกทุกวัน ถ้ามีเวลามาก ก็ฝึกมาก ถ้ามีเวลาน้อย
ก็ฝีกน้อยได้ แต่ขอให้ฝีกละกัน การฝีกทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง
นี่สำคัญมาก ถ้าหยุดฝีกไป 1 วัน ก็จะส่งผลต่อความก้าวหน้าให้ช้าลงไป
ยิ่งถ้า หยุดฝีกนาน ๆ หลาย ๆ วัน ความก้าวหน้าก็ยิ่งช้าลง จนยากที่จะก้าวหน้าได้
.
สำหรับระดับ 2 นี้
เมื่อมือใหม่ รู้จักการรู้ความรู้สีกและรู้ความแตกต่าง
ของความรู้สีกระหว่างกำลังเคลื่อนมือและหยุดเคลื่อนได้ดีมากพอในระดับ 1 แล้ว
ต่อให้ ให้ปรับการฝีกใหม่ โดยเพิ่ม ตาเนื้อมองเห็นสิ่งแวดล้อมได้ แต่ไม่จ้องสิ่งใด
ตาเนื้อจะเห็นภาพชัดขึ้นกว่า ระดับหนี่ง และ หู ให้ได้ยินเสียงรอบๆ ได้
เช่น เสียงลมพัดใบไม้ เสียงหมาเห่า เสียงรถวิ่งที่ถนน ให้เพียงได้ยินเสียงก็พอ
ไม่ต้องไปสนใจว่า เสียงอะไร

ระดับ 2 นี้จะเป็นว่าในขณะที่เคลื่อนมือนั้น >> ตามองเห็นได้ หูได้ยินเสียงได้
และรู้ความรู้สีกที่เกิดขึ้นเหมือนระดับ 1 ได้ด้วยพร้อมกันไป กับ ตาเห็นได้
หูได้ยินได้
ถ้า จขกท ทำแล้ว รู้สีกเครียด แสดงว่า การฝีกในระดับ 1 ยังไม่ได้ผลมากพอ
ให้กลับไปฝีกระดับ 1 ใหม่อีก  
หรือจะพูดว่า ท่านยังไม่ผ่านการเลื่อนชั้นก็ได้
.
แต่ถ้าฝีกระดับ 2 นี้ได้ ทำได้แบบสบาย  ๆ ไม่เครียด ก็ฝีกระดับ 2 ต่อไปเรื่อย  ๆ  
การฝีกระดับ 2 นี้ เป็นมาตรฐานการฝีกทีเดียว ที่สมควรฝีกบ่อยๆ  
ซี่งนักภาวนาหลายคนจะเรียกว่า การฝึกฝนในรูปแบบ
.
ระดับ 3...เมื่อฝีกระดับ 2 ได้มากพอ และได้ผลดีพอประมาณ
ผู้ฝีกจะสามารถ เห็นความคิด หรือ เห็นอารมณ์จิตที่รุนแรงได้ เช่น ความโกรธ

.
 เมื่อเห็นความคิดได้ หรือ เห็นอารมณ์จิตที่รุนแรงได้
ต่อไป เป็นการฝีกฝนชีวิตประจำวัน ที่ไม่ใช่ฝีกฝนในรูปแบบแล้ว
ก็คือ เมื่ออยู่ในชีวิตประจำวัน ทำงานประจำวัน เช่น อาบน้ำ
ซักผ้า แปรงฟัน เก็บที่นอน กวาดบ้านและอื่น ๆ
ให้มีความรู้สีกตัวอยู่เท่านั้น
แล้ว สิ่งทีฝีกฝนในระดับที่ 2 นี้
จะส่งผลออกมาให้เอง เมื่อมีความคิดหรือมีอารมณ์จิตทีรุนแรงเกิดขึ้น
กล่าวคือ จะเห็นได้และจะเห็นความคิดหรืออารมณ์จิตเป็นไตรลักษณ์ได้ด้วย
.
จะเห็นว่า การฝีกในรูปแบบของระดับ 2 นี้เป็นสมถะ เป็นการสร้างเหตุ
ให้จิตมีสติเกิดได้เมื่ออยู่ในชีวิตประจำวัน
.
ส่วนการฝีกในชีวิตประจำวันระดับ 3 นี้จะเป็นวิปัสสนา
เมื่อเกิดการเห็นความคิด เห็นอารมณ์จิตได้ ก็จะคือ ได้ปัญญา ซี่ง
เป็นผลของการฝีกฝนของ ระดับ 2  
การฝีกฝนในระดับ 2 นี้ที่เป็นการสร้างเหตุ จึงทิ้งไม่ได้ต้องทำไปเรื่อยๆ  
.
สิ่งที่เขึยนข้างบนคือหลักการเบื้องต้น
ถ้าได้ระดับ 3 แล้ว
ก็ขอแนะนำให้ไปหาครูบาอาจารย์ทีจะสอนการภาวนาในระดับสูงขึ้นต่อไป 
.
ผู้เขียนหวังว่า บทความนี้ จะเป็นประโยขน์แก่ท่านที่เข้ามาอ่าน
 




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2563
0 comments
Last Update : 28 กันยายน 2565 9:14:32 น.
Counter : 708 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.