ลักษณะอาการของสัมมาสมาธิเป็นเช่นไร
1.....บทความเรื่อง < ลักษณะอาการของสัมมาสมาธิเป็นเช่นไร > บทความนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัวล้วน ๆ ท่านทีเข้ามาอ่าน แนะนำให้อ่านด้วยวิจารณญาณ และใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง เพื่อความเจริญในธรรมสืบต่อไป 2....สัมมาสมาธิ เป็นสมาธิทีเกี่ยวเนื่องกับสติปัฏฐาน 4 เมื่อเกี่ยวเนื่องกับสติปัฏฐาน 4 ก็คือ สัมมามรรค อันเป็น ข้อที่ 4 ในอริยสัจจ์ 4 3....สิ่งทีจะนำมาแสดง จะแสดงเป็นรูปธรรม ให้ผู้อ่านได้เห็นเป็นภาพและเข้าใจได้ว่า คำว่า สัมมาสมาธิ นี้มีลักษณะอาการอย่างไร ขอให้ดูจากภาพข้างล่างนี้ ประกอบ . ตามภาพ ลักษณะอาการของสัมมาสมาธฺิ จะมี 2 แบบ ซึ่งทั้ง 2 แบบ เกิดขึ้นจากเหตุที่ สมาธิมีความตั้งมั่นอย่างพอเพียง ซึ่งอาการทั้ง 2 แบบนี้ จะได้กล่าวต่อไปในหัวข้อที่ 4 และ ที่ 5 . 4...ลักษณะอาการของสัมมาสมาธิแบบที่ 1 (ขอให้ดูจากภาพส่วนทีอยู่ด้านบน ) แบบนี้ นักปฏิบัติธรรม ตามองค์มรรคจะสามารถพบได้ก่อนแบบที่ 2 ในแบบที 1 นี้ เมื่อนักปฏิบัติเกิดเผลอขึ้น ทุกข์จะเกิดขึ้นก่อน แล้ว จิตตัวรู้ ทีมีกำลัง สัมมาสมาธิทีตั้งมั่นพอเพียงทีสามารถต้านทานแรงดึงดูดของทุกข์ได้ (แรงดึงดูดนี้ ภาษาธรรมก็คือ ตัณหา ) จิตตัวรู้ จะหลุดออกจากทุกข์ทีเกิดขึ้น แล้ว จิตตัวรู้ จะไปเห็น ทกข์ เป็นสิ่งหนี่ง ทีเกิดขึ้น ทีอยุู่ ห่าง ๆ ออกมา เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่หนี่ง ทุกข์นั้น ก็จะดับสลายไปเป็นไตรลักษณ์ได้เอง ขบวนการของสมาธิแบบนี้ จะเกิดขึ้นเองเท่านั้น นักปฏิบัติไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้เลย อาการหลุดออกแบบนี้ คนทีพบได้ก็มีอยู่ แต่จำนวนไม่มากนัก นักปฏิบัติธรรมทียังไม่เคยพบ กับการหลุดออกแบบนี้เกือบทั้งหมด จะไม่เข้าใจคำว่า ไตรลักษณ์ ในพุทธศาสนาเลย ต่อเมื่อ สามารถพบกับการหลุดออกได้เพียงครั้งเดียว ก็จะเข้าใจคำว่า ไตรลักษณ์ ได้ทันที . ขออธิบายเพิ่มเติม นักปฏฺิบัติทียังมีประสบการณ์น้อย และ กำลังสัมมาสมาธิยังไม่แข็งแรงมากนัก การหลุดออกจากทุกข์ทีเกิดขึ้น จะพบว่า บางครั้งก็หลุดออกได้ บางครั้งก็หลุดออกไม่ได้ นี่เป็นอาการปกติทีนักปฏิบัติจะพบแบบนี้เอง เพราะกำลังสัมมาสมาธิยังไม่ตั้งมั่นมากพอ เมื่อนักปฏิบัติได้พบกับทุกข์ไปบ่อยๆ แล้วเกิดการหลุดออกได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ตาม ความตั้งมั่นของสัมมาสมาธิ ก็จะมีมากขึ้นเองไปเรื่อย ๆ เอง นี่คือ กุญแจสำคัญทีว่า สัมมาสมาธิ เพิ่มมากขึ้นได้อย่างไร นักปฏิบัติทียังไม่มีประสบการณ์การภาวนามากพอ มักจะเข้าใจว่า การเพิ่มกำลังของสัมมาสมาธินั้น คือ การนั่่งทำสมาธิอยู่ในทีเงียบๆ ไร้การรบกวนใด ๆ นี่เป็นการเข้าใจทีคลาดเคลื่อน การทำดังกล่าว นักปฏิบัติจะพบได้แต่ความสงบ แต่กำลังของสมาธิไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยวิธีการดังกล่าว . 5...ลักษณะอาการของสัมมาสมาธิแบบที่ 2 (ขอให้ดูจากภาพส่วนทีอยู่ด้านล่าง ) สัมมาสมาธิแบบนี้ จะเกิดได้เมื่อ นักปฏิบัติต้องผ่าน สัมมาสมาธิแบบที่ 1 มาแล้วอย่างโชกโชน ( เน้นย้ำว่า อย่างโชกโชน ไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่ต้องเป็นนับหลายร้อยครั้งขึ้น ๆ ) เมื่อ นักปฏิบัติ มีประสบการณ์สัมมาสมาธิแบบที่ 1 นับหลายร้อยครั้งแล้ว ก็จะเกิดความเข้าใจในอาการของทุกข์ และ การไม่ทุกข์ได้ เมื่อเกิดความเข้าใจได้ นักปฏิบัติก็จะรู้ว่า ในชีวิตประจำวัน หรือ ในขณะทีกำลังทำงานทางโลกอยู่ ให้ สัมมาสติ ไประลึกรู้ ทีอาการแห่งสติปัฏฐาน (กาย / เวทนา / จิต / ธรรม ) ซี่งจะระลึกรู้ หมวดใดหมวดหนี่งในสติปัฏฐาน ก็ได้ หรือ ระลึกรู้ได้ หลายหมวดพร้อมกันก็ได้ ซึงขึ้นกับประสบการณ์ความเข้าใจของตัวนักปฏิบัติเอง และ กำลังสัมมาสมาธิของตนเองว่าตั้งมั่นได้มากเพียงใด การอยู่ในอาการสัมมาสมาธิแบบที่ 2 นี้ ไม่ใช่ของง่าย นักปฏิบัติต้องใช้ความเพียรในการฝีกฝน อย่างต่อเนื่อง ฝีกฝนไปเรื่อยๆ จนวันหนี่ง ก็สามารถอยู่ในสภาวะอาการแบบนี้ได้เป็นอย่างดี . อาการของสัมมาสมาธิแบบที่ 2 นี้ เมื่อเกิดขึ้นเมื่อใด ทีนักปฏิบัติอยู่ในลักษณะแบบนี้ ทุกข์จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหลุดจากอาการสัมมาสมาธิแบบนี้เมื่อใด ทุกขืก็จะเกิดขึ้นได้ แต่ ถึงทุกข์เกิดขึ้น ก็จะเข้าไปสู่ อาการของสัมมาสมาธิแบบที่ 1 ทีนักปฏิบัติมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว . 6..แนะนำอ่านเรื่อง ความเป็นอิสระของจิต https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=17-04-2021&group=17&gblog=220
Create Date : 23 เมษายน 2564
Last Update : 30 พฤษภาคม 2564 16:14:44 น.
0 comments
Counter : 983 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****