รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
17 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
กฏ 3 ข้อในการภาวนาใน blog ใช้อย่างไร

ทีอีเมล์เข้ามาถามผมว่า.....

ผมศรัทธาในคำสอนอาจารย์มากดูกิจกรรม ทุกครั้งดูหลายๆรอบ เข้าใจมากรู้สึกมีกำลังใจในการปฎิบัติมาก กราบขอบคุณ ปัญหาคือ ผมทำความผ่อนคลายแทบตลอดเวลาเลยในขณะรู้สึกตัวคลายกล้ามเนื้อ คลายสมองให้มันเบาๆแล้วทำในรูปแบบ ประจำวัน ผ่อนคลายแทบต่อเนื่องไปด้วย ผมทำถูกใหมครับ ที่กระผม มี 3 คนพี่น้องดุกิจกรรมหลายๆรอบ ปำิบัติทุกคน หวังว่าอาจาริย์คงไม่นำผิดทางนะครับ รอคำตอบอาจาริย์อยู่นะครับ กราบขอบคุณ

*****
ผมตอบไปดังนี้.....

ทีคุณเล่ามานั้น ถูกต้องแล้วครับ
ทีนี้ ผมจะบอกวิธีใช้งาน
เมื่อคุณทำอย่างทีคุณเล่ามา คุณรู้สีกได้ไหมว่า มันสบายๆ ตรงนี้ ผมจะเรียกว่า อาการปกติครับ

ทีนี้ ถ้าคุณเกิดเครียด หรือ มีความกังวล ไม่ว่าเรื่องใด ๆ คุณจะรู้สีกได้ไหมว่า มันจะต่างออกไปจากอาการปกติทีคุณรู้สีกได้

นี่คือ ความแตกต่าง ระหว่าง การไม่ทุกข์ (อาการปกติ) และ การทีมีทุกข์ ( มีความเครียด มีความกังวลใจ หรือ อื่นๆ )
เมื่อคุณรู้ได้ถีงการมีทุกข์ ( มีความเครียด มีความกังวลใจ หรือ อื่นๆ ) คุณก็คลายเสียให้มันไม่ทุกข์ คือ ปกติต่อไป

ความสำเร็จของการภาวนาอยู่ตรงทีผมเล่านี แต่สำคัญทีว่า คุณรู้ทุกข์ได้เร็วไหม
คุณสามารถคลายทุกข์ได้เร็วไหม ตรงนี้เป็นประสบการณ์ของคุณเอง ถ้าคุณทำได้เร็ว
ทั้งรู้ ทั้งคลาย ทุกข์ก็ลดลงไปเรื่อยๆ เอง แล้วความปกติทีไม่ทุกข์ก็จะมาเรื่อยๆ เอง

คุณอ่านดูแล้ว เหมือนไม่ใช่พุทธศาสนาสอน แต่นั่นคือ แก่นแท้ของอริยสัจจ์ 4 ทีพระพุทธองค์ทรงสอนอยู่ให้แก่ชาวพุทธ ทีว่า
ทุกข์ให้รู้
สมุทัยคือตัณหาให้ละเสีย
นิโรธ คือ ความไม่ทุกข์ ทำให้แจ้งขึ้นมา
มรรค คือ หนทางดับทุกข์ ให้ทำให้เนืองๆ

การทีรู้ทุกข์ และ รู้ทีไม่ทุกข์ ไปเรื่อยๆ มาก ๆ คุณจะเข้าใจในอริยสัจจ์ 4 ทีพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ และ เข้าสู่การไม่ทุกข์ไปตามลำดับ

อย่าไปคิดถีงความเป็นพระอริยบุคคล นั่นเป็นเพียงคำเปรียบเทียบในคนที่ทุกข์น้อยลงไปเรือ่ยๆ เช่น ถ้าสามารถจัดการทุกข์ได้ 25 % ก็เรียกว่า พระโสดาบัน ถ้าจัดการทุกข์ได้ 100 % ก็เรียกว่า พระอรหันต์




Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 9:10:46 น. 0 comments
Counter : 1966 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.