รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2565
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 พฤศจิกายน 2565
 
All Blogs
 
ตัวอย่าง การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน



.
เมื่อท่านฟังเพลงนี้  ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นได้ ก็จะมีดังนี้
1..เพลงน่าฟัง เพราะดี
2.. เพลงไม่เอาไหน ไม่น่าฟัง
3..เฉย ๆ  
.
อาการทั้ง 3 แบบ นี้ จะเกิดขึ้นกับคนทุกคนทีรับฟัง
แต่ถ้าท่านเป็นนักภาวนา ท่านควรรู้มากกว่า 3 แบบข้างบน
ก็คือ  ถ้าท่านเห็นด้วยกับ  ข้อ 1  จิตใจท่านจะส่งสัญญาณออกมาว่า
ชอบเพลงนี้   // ถ้าท่านเห็นด้วยกับข้อ 2 จิตใจท่านจะส่งสัญญาณออกมาว่า
ไม่ชอบเพลงนี้  // ถ้าท่านเห็นด้วยกับข้อ 3 จิตใจท่านจะส่งสัญญาณออกมาว่า
เฉยๆ  ไม่มีความชอบหรือไม่ชอบ
.
การรับรู้เข้ามาที่อายตนะทุกอย่าง จะเกิดผลตามมา 3 แบบเสมอ
นักภาวนานั้น ถ้าสามารถรู้อาการของจิตใจได้ว่า ชอบ / ไม่ชอบ / เฉยๆ 
แบบใดได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นแหละ ท่านคือ นักภาวนาที่มีความสามารถคนหนี่ง
และ การพัฒนาการภาวนาของท่านก็จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ  
.
จิตใจนั้น ไม่จำเป็นว่า เมื่อรับรู้อะไรเข้ามาแล้ว ใจต้องไม่มีการปรุงแต่ง
แต่จริง ๆ ใจจะปรุงแต่งก็ได้ ไม่ปรุงก็ได้ ไม่สำคัญเลย
ที่สำคัญคือ ท่านรู้อาการของใจได้หรือไม่
.
นักภาวนาจำนวนมาก  มักเข้าใจว่า ภาวนาแล้วจิตต้องนิ่ง
ไม่มีกิเลส ความเข้าใจนี่ไม่ตรงนักในการภาวนา
ถ้าท่านยังไม่เป็นพระอรหันต์  เมื่อมีอะไรเข้ามา จิตไม่มีทางนิ่งได้เลย
แต่สิ่งที่ท่านควรเป็นก็คือ รู้อาการของจิตใจของตนเอง
.
การรู้อาการของจิตใจนั้น  มีเรื่องหนี่งที่ควรพิจารณาก็คือ
สามารถรู้ได้เร็วหรือช้า 
นักภาวนาใหม่ๆ มักจะไม่รู้อาการของจิตใจ
นักภาวนาเก่า ๆ  มักรู้อาการได้ แต่ไม่เร็ว กว่าจะรู้ก็นาน ผ่านไปหลายขณะจิตแล้ว

ความเร็วในการรู้อาการของจิต ก็มาจาก สติที่รุ้ได้เร็ว

การพยายามไปจ้องดูผัสสะ เพื่อต้องการรู้ได้เร็ว
ก็เป็นการปฏิบัติผิด ความก้าวหน้าก็ไม่เกิดขึ้นอีก
ใหม่ ๆ ถ้ารู้ช้า ไม่เป็นไร ฝีกไปเรือ่ยๆ  การรู้ก็จะรู้ได้เร็วขึ้นไปเรื่อยๆ เอง
อาจใช้เวลานานหลายเดือน หรือ เป็นปี กว่าจะรู้ได้เร็วมาก ๆ  ได้


Create Date : 22 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2565 19:28:10 น. 0 comments
Counter : 478 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.