รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
22 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
ความแตกต่างระหว่าง สุขเวทนา และ สุขในนิพพาน

ในตำรามีกล่าวไว้ถีง เวทนาขันธ์  ซี่งมีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน คือ

1/2  สุขใจ  สุขกาย
3/4  ทุกข์ใจ ทุกข์กาย
5/6  ไม่ทุกข์ไม่สุขใจ ไม่ทุกข์ไม่สุขกาย

เป็นความจริงทีว่า อาการสุขและทุกข์ในเวทนานั้น จะต้องมีอะไรมาเป็นตัวกระตุ้นจึงเกิดอาการอย่างนี้ได้ แต่ถ้าไร้ตัวกระตุ้นก็จะเกิดอาการไม่สุขไม่ทุกข์ขึ้นมา

ในการภาวนานั้น ถีงแม้ว่านักภาวนาจะนั่งสมาธิเกิดฌาน เกิดปิติ เกิดสุข นั่นเป็นเพียงสุขเวทนาใน เวทนาขันธ์ ซี่งสุขแบบนี้ ก็คือ ทุกข์อริยสัจจ์ในข้อที 1 ของอริยสัจจ์ 4  ถ้านักภาวนาเกิดหลงพอใจในสุขทีเกิดขึ้น ก็จะเป็นการติดสุข หรือ ก็คือ ติดในทุกข์อริยสัจจ์ในข้อที 1 

นี่คือสุขเวทนาในเวทนาขันธ์  ทีผู้คนไม่ว่าใครก็พบกับอาการสุขแบบนี้ได้

แล้วสุขในนิพพานนี่เป็นอย่างไร

สุขในนิพพานนั้น เป็นสุขทีมันโผล่มาเพราะความสงบของจิตทีเป็นสุญญตาสภาวะ มันจะไม่เหมือนกับสุขเวทนาทีต้องอาศัยอะไรมาล่อให้เกิดสุข แต่สุขในนิพพานเป็นสุขที่เป็นสุญญตา ไม่มีอะไรมาล่อให้เกิด เพียงแต่ต้องอยู่ในสภาวะสุญญตา และอาการสุขในนิพพานนี้ต่างจากสุขเวทนา

ในพระอนาคามี จักพบสภาวะสุญญตาได้ แต่ยังไม่มั่นคงพอทีจะรักษาสภาวะนี้ได้ แต่พระอนาคามีจะไม่รู้จักสุขทีเป็นความสงบของสุญญตาสภาวะ  พระอนาคมี จะมีอาการแห่งไม่ทุกข์ไม่สุขประกอบอยุ่ในสุญญตาสภาวะ

ในพระอรหันต์  จักพบกับอาการความสงบทีได้ซ่อนอยู่ในสุญญตาสภาวะ เมื่อความสงบนี้ปรากฏตัวแล้ว พระอรหันต์จึงสามารถรักาษาสุญญตาสภาวะได้มั่นคงกว่าพระอนาคามีและความสงบนี้จะปรากฏตัวไม่เสื่อมสูญไปจากจิตใจอีก

สุขในนิพพานหรือความสงบในสุญญตาสภาวะ เป็นสิ่งทีรู้ได้เฉพาะตนหรือภาษาพระเรียนกว่า ปัจจัตตัง
ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดใด ๆ ได้ นอกจากจะได้พบด้วยตนเอง

ถ้าท่านฝีกฝนการภาวนาแล้วพบกับความสุข หรือเกิดอาการเฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ นั้นเป็นเพียงเวทนาขันธ์ ยังไม่ใช่สุขในนิพพานครับ

มีคำสอนในการภาวนาว่า สติปัฏฐาน 4 จะบริบูรณ์ เมื่ออาณาปานสติบริบูรณ์  คำสอนนี้เป็นจริงแต่นักภาวนาถ้าไม่เข้าใจดีพอ ก็จะหลงคิดว่า เพียงทำอาณาปานสติเพียงอย่างเดียวให้เก่งกล้า ก็จะได้สติปัฏฐาน 4 ทีสมบูรณ์  ความเข้าใจนี้คลาดเคลื่อนจากความจริง

การปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 นั้น นักภาวนาจักต้องปฏิบัติตามคำสอนทีว่า อาตาปี สัมปชาโน สติมา แล้วให้เกิดสัมมาสติไปรับรู้สภาวะแบบไม่ยีดติดในสภาวะธรรมใด ๆ จนเกิดจิตตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ 

ต่อเมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิอย่างดีแล้ว จักเกิดสัมมาญาณ เมื่อเกิดสัมมาญาณ จึงมีญาณหยั่งรู้ในสุญญตาสภาวะได้ เมื่อหยั่งรู้สุญญตาสภาวะได้ การพบกับความสงบในสุญญตาสภาวะจักเกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดความสงบในสุญญตาสภาวะนี้แล้ว การพบกับลมหายใจทีปรากฏอย่างสมบูรณ์อันเนื่องมาจากความสงบในสุญญตาสภาวะจึงเกิดขึ้นได้

ความเป็นจริงจะออกมาแบบนี้ ถ้านักภาวนาหลงไปเฝ้าทีลมหายใจโดยไม่ได้เดินตามคำสอนในสติปัฏฐาน 4 ที่ว่า อาตาปี สัมปโชาโน สติมาแล้วละก็  ก็เท่ากับเดินผิดทางไปจากคำสอนแล้ว แล้วจะพบกับความสมบูรณ์ตามคำสอนย่อมเป็นสิ่งทีเป็นไปไม่ได้เลย



Create Date : 22 กันยายน 2556
Last Update : 22 กันยายน 2556 8:44:30 น. 0 comments
Counter : 2512 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.