รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มกราคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 มกราคม 2559
 
All Blogs
 
ทำตัณหาให้สิ้น ไม่ใช่ไปทำให้ทุกข์ไม่มี

นี่คือ ความเข้าใจผิด กันอย่างใหญ่หลวงของนักภาวนา
ทีไปทำให้ทุกข์ไม่มี

เข้าใจผิดอย่างไร....

ผมจะยกอริยสัจจ์ 4 มาอธิบาย
ในอริยสัจจ์ 4 ข้อที 1 กล่าวไว้ว่า ทุกข์ นั้น รู้
ตรงนี้ แปลว่า อะไรครับ
แปลว่า ทุกข์ นั้น ไม่มีวันหมดครับ ทุกข์หนี่งเกิดขึ้น แล้วดับลง ทุกข์ใหม่จะเกิดขึ้น แล้วดับลงไปอีก วนเวียนแบบนี้ไปตลอด

ในอริยสัจจ์ 4 ข้อที 2 กล่าวไว้ว่า ตัณหา คือ เหตุแห่งทุกข์
ตรงนี้แหละครับ ทีผมว่า คนมักไม่เข้าใจ หรือ เข้าใจผิดกัน
การหลุดจากกองทุกข์ได้ แปลว่า ทุกข์ถีงมี แต่ถ้าไร้ตัณหาเสียแล้ว
ทุกข์มี ก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะไม่ได้ยีดเอาไว้
ในพระไตรปิฏก ก็เขียนไว้หลายที่ หลายพระสูตรด้วยกันว่า
ในขบวนการของการบรรลุพระอรหันต์ เมื่อจิตเบื่อหน่อย ก็จะสิ้นตัณหา แล้วเกิดการปล่อยวางไม่ยีดมั่นถือมั่นอีกต่อไป

การปฏิบัตินั้น ต้องทำให้ ตัณหา สิ้นไปครับ
ไม่ใช่ไปทำให้ทุกข์ไม่มี

ตัณหา สิ้นไปได้อย่างไร...
ตัณหานั้น ตรงข้ามกับ สัมมาสมาธิ ครับ
ถ้า สัมมาสมาธิแรง จิตตั้งมั่น ว่องไว ทำให้ตัณหา สิ้นไปทันที
ด้วยเหตุนี้

ดังนั้น การภาวนา จึงมี มรรค 8 อันเป็นอริยสัจจ์ 4 ข้อที 4 ว่า มรรค เจริญให้มาก
เจริญมากทำไม..
ก็เพื่อให้สัมมาสมาธิแรง จิตตั้งมั่น ว่องไว ครับ
แต่ทีพลาดกันในหมู่นักภาวนา ทีใคร ๆ ก็บอกว่าเขาได้เจริญสมาธิกันทั้งนั้น
แต่สิ่งทีเขาทำนั้น มันไม่ใช่สัมมาสมาธิ แต่กลับเป็นสมาธิแบบอื่นกัน
ถ้าเขาเจริญสัมมาสมาธิกันจริงตามมรรค 8
อย่างช้า 7 ปี เขาจักบรรลุอย่างน้อยพระอนาคามี ซึ่งมีกล่าวไว้ในพระไตรปิฏก
สติปัฏฐานสูตรว่าแบบนี้

ทำความเข้าใจในกระจ่าง แล้วเดินตามอริยสัจจ์ 4
จักไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธองค์อีกเลย



Create Date : 22 มกราคม 2559
Last Update : 22 มกราคม 2559 9:41:32 น. 0 comments
Counter : 1446 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.