เทคนิคการพิจารณาไตรลักษณ์ในขณะฝึกฝน
เทคนิคการพิจารณาไตรลักษณ์ในขณะฝึกฝน . ก่อนอื่น ต้องเข้าใจคำว่า ไตรลักษณ์ก่อน ไตรลักษณ์ คือ อาการทีมีการเปลี่ยนแปลง เช่น >>เปลี่ยนไปมาระหว่างหนักหรือเบา เช่น วันก่อน เพราะตีระฆังแรง พอมีคนร้องเรียนว่าเสียงดังหนวกหูเขา พระก็ตีระฆังเบาลงไป >>เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่าง มี หรือ ไม่มี เช่น การเปิดพัดลมส่ายไปมา พอลมมาโดนตัว ก็มีลมกระทบ พอลมไม่โดนตัว ก็ไม่มีกระทบจากลม >> เปลี่ยนแปลงไปมาในขณะทีไม่เรียบ หรือ ไม่คงที่ เช่น นั่งรถเมล์แล้วรถสั่นสะเทือน เพราะถนนไม่เรียบ >> การเปลียนระดับของเสียง จากโทนสูงไปโทนต่ำ หรือ เสียงเบา เสียงดัง เช่น พวกริงโทนโทรศัพท์ หรือ เสียงเพลงในหนัง . ทีจริง การฝีกรู้ไตรลักษณ์ไม่ยาก ถ้าเข้าใจ ก็ทำได้ แต่คนไม่เข้าใจ ก็เลยไม่รู้จักวิธีการฝีก . มาดูตัวอย่างการฝีกกัน . นั่งสบาย ๆ บนเก้าอี้ เอาฝ่ามือลูบแขนตั้งแต่ต้นแขนเลยข้อพับขึ้นมาเล็กน้อย ให้ลูบลงไปเรื่อย ลงไปถีงข้อมือ ให้ลูบช้า ๆ แต่ไม่ต้องช้ามากเกินไปเหมือน Slow Motion . ขณะทีลูบให้สังเกตความรู้สีกของการลูบทีเกิดขึ้น จะพบว่า เมื่อลูบไป การสัมผัสทีเกิดขึ้น จะรู้สีกได้ว่า ไม่เรียบ มันสะเทือน เพราะว่า มือคนจะมีกระดูก ทีโปน ขนาดของแขนแต่ละทีก็ไม่เท่ากัน บางทีใหญ่ บางทีเล็ก มีรอยหยักของข้อพับ และ มีความแข็ง ความอ่อนของเนื้อในแขนจะไม่เสมอกันทั้งแขน บางจุดเนื้อจะอ่อน บางจุดเนื้อจะแข็ง เช่นไปโดนกระดูก . ในขณะทีสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงเมือลูบ ให้สังเกตด้วยว่า ตาจะมัว ๆ ลงไป ทีตามัว เพราะเราไปสังเกตการเปลี่ยนแปลงทีเกิดขึ้น . ถ้าลูบแบบสบาย ๆ ไปด้วย สังเกตความรู้สีกทีเกิดขึ้นจากการลูบไปด้วย จะมีลมหายใจปรากฏขี้นมาให้รู้ได้ แต่ใครทำแล้ว รู้ลมไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะอาจเกร็งมากเกินไป ตั้งใจมากเกินไป ลมก็จะรู้ไม่ได้ . แต่ถ้าให้ดีในขณะฝีกฝน ก็ให้เปิดพัดลมส่ายไปมาด้วย จะดีมาก ให้ลมโดนตัวบ้าง ไม่โดนบ้าง ให้ฝีกอย่างนี้ 5 ถึง 10 นาที พอ อย่าฝีกนาน จะเครียดได้ . การฝีกรู้ไตรลักษณ์แบบนี้ จะทำให้สติมีการปลุกให้ตื่นขึ้นจากหลับไหล ทำให้สติเข้มแข็งขึ้นได้ แต่สติทีได้จากการฝีก ยังเป็นสติต้นทุน ทีเริ่มต้น ท่านต้องไปหัดรับรู้อาการทางจิตใจ ทีเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอีก เพื่อให้สติ พัฒนาให้เข้มขึ้นไปอีกระดับ อย่าเก็บตัวเงียบในบ้านของตนเอง ออกไปพบปะผู้คน พูดคุยกับเขา ให้จิตใจมีการสั่นไหว แล้ว ถ้าสติเผอิญไปจับการสั่นไหว ของจิตใจที่สั่นไหวได้ ไม่ว่า จะสั่นไหวดี หรือ ร้าย ถือว่า การฝีกสติต้นทุนได้ผลดีขึ้นกว่าเดิมได้ไปอีกขั้น แต่การฝีกยังต้องทำต่อไป หัดทำทุกวัน . ผมแนะนำว่า บอกให้ทำแค่ 5 - 10 นาทีเท่านั้น เอง วันหนี้ง 2 รอบ เข้าและเย็น แต่ขอให้ทำทุกวัน เวลาเท่านี้ น่าจะทำกันได้ ถ้าเป็นคนสนใจการปฏิบัติธรรม . การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ แต่ต้องขยัน ทำทุกวัน เหมือนกินข้าว ขนาดกินข้าวยังกิน 3 เวลา กินแต่ละครั้งยังนานกว่า 5-10 นาทีเสียอีก . ถ้าคุณฝีกไปตามทีผมบอก วันไหน คุณขับรถไปตามถนน แล้วถูกรถคันอื่นปาดหน้่า คุณโกรธจนตัวสั่น ปากก็ด่าออกมา แต่สติต้นทุนทีฝีกไว้ เกิดไปเห็นทันอารมณ์โกรธนี้ ได้ เกิดและดับเป็นไตรลักษณ์ นี่แสดงว่า ทีคุณฝีกสติต้นทุนมา ได้มีการพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขึั้นแล้ว . นักภาวนาเป็นส่วนมาก ไม่เข้าใจเรื่องอารมณ์โกรธทีเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน พอเกิดขึ้นมา ต่างก็ไม่ชอบใจ เพราะเข้าใจว่า อารมณ์โกรธ เป็นกิเลสทีต้องหลีกห่างไป แต่ถ้ามีสติทีดีพอทีได้จากการฝีกฝน เมื่ออารมณ์โกรธเกิดขึ้นและเห็นมันเกิดดับเป็นไตรลักษณ์ได้ นั่นคือ ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้วครับ และท่านจะรู้จักคำว่า ไตรลักษณ์จริงๆ ก็คือ อย่างนี้เอง
Create Date : 22 ตุลาคม 2561 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2561 8:10:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1107 Pageviews. |
|
|