รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
การรู้แจ้งในการภาวนานั้น จะเป็นการรู้ตามลำดับไป

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เคยลงไว้ใน facebook  เมื่อวันที 15 พฤษภาคม 2555  ขอบคุณคุณหนุ่มที่ได้ส่งมาให้ครับ

1. เป็นการรู้แจ้งว่า ขันธ์ 5 นั้นไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของ ๆ เรา การรู้แจ้งแบบนี้ ถึงแม้ว่า นักภาวนาจะรู้ได้เพราะจิตแยกตัวออกมาแล้วไปเห็นสภาวะของขันธ์ 5 ที่ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ของ ๆ เราได้แล้ว ก็จริงอยู่ แต่ทว่า... การเผลอยึดติดในอาการชองขันธ์ 5 นั้น ก็จะยังมีอยู่ แต่ถ้าไม่เผลอเพราะสัมมาสมาธิยังดีอยู่ ก็จะไม่ยึดนะครับ ไม่ใช่ว่า จิตแยกตัวออก ไปเห็นสภาวะแล้ว จะไม่ยึดอีกเลย มิใช่แบบนั้นนะครับ เพราะอาการเผลอในระดับนี้ อย่างไรก็ยังมีอยู่ และมีแยะ มีบ่อยซะด้วยซิ เรื่องแบบนี้ หลอกกันไม่ได้ครับ ใครไปถึงก็จะพบจริงๆ ว่า อาการยึดที่เกิดกับตัวเองเป็นอย่างไร มีหรือไม่มี

2. เมื่อผ่านระดับ 1 มาแล้ว ต่อไป นักภาวนาจะพบ มโน ครับ นักภาวนาจะพบว่า มโน นี่เป็นของเที่ยงก่อน ไม่เกิดไม่ดับ ไม่หายไปไหน แต่ขันธ์ 5 จะเกิดดับใน มโน ทำให้นักภาวนาเข้าใจว่า จิตนี่เที่ยง แต่ขันธ์ 5 ไม่เทียง ในระดับนี้ นักภาวนาก็ยังเผลออยู่ครับ แต่จะเผลอสั่นๆ ไม่เผลอยาว

3. เมื่อผ่านระดับ 2 มาแล้ว นักภาวนาจึงจะพบว่า ที่แท้ มโน มันโผล่มาจากการสร้างของจิตผู้รู้อีกทีหนึ่ง ตอนนี้ นักภาวนาจะเลิกสนใจขันธ์ 5 แล้ว ไม่ค่อยเผลอเท่าใดแล้ว แต่จะสนใจว่า จะจัดการภาวนาต่อไปอย่างไร จึงจะหยุด มโน ได้ แต่นักภาวนากลับไปพบ การแตกตัวออกเป็นความว่างของ จิตผู้รู้ แทน ซึ่งพอจิตผู้รู้ แตกตัวออกไปได้แล้ว นักภาวนาจึงจะพบกับสิ่งที่เรียกว่า สภาวะแห่งการไร้ตัวตน ทีแท้จริงว่า มันเป็นอย่างนี้เอง การที่นักภาวนาไม่ผ่านตามลำดับขั้นแห่งการรู้ของปัญญา แล้วบอกว่า ไม่มีตัวตน นี่เป็นการคิดเอาเอง ยังไม่ใช่การรู้แจ้งแห่งการไร้ตัวตนที่เป็นของจริง

4. เมื่อผ่านระดับ 3 มาได้แล้ว จิตผู้รู้ แตกทำลายออกเป็นความว่างก็จริง แต่นักภาวนายังพบกับสภาวะของ มโน อยู่ นักภาวนาจะหาทางทำลายให้ มโน ให้สิ้นซากให้ได้ แต่เขาจะหาทางไม่พบหรอก เพราะ มโน นั้น มันเกิดเพราะเหตุ ปัจจัย ที่นักภาวนายังไม่ตาย มันจะยังมีอยู่ แต่มันไม่เที่ยงแล้ว นักภาวนาจะเห็น มโน หายไปเป็นสุญญตา แล มโน ยังมีโผล่อีก เมื่อขันธ์ มันทำงาน นักภาวนาจะเข้าใจ มโน และ เลิกยุ่งกับ มโน ทำงาน ทำการไปตามหน้าที่ของเขา มโน จะมีหรือไม่ ไม่สำคัญอีก เพราะ จิตผู้รู้ นั้นดับสลายไปเป็นความว่างเปล่าไปแล้ว ความเป็นตัวตนได้สิ้นสุดลงไปแล้ว

พอดี วันนี้ ไปเห็นรายการพื้นที่ชีวิต ของ TPBS ที่พิธีการพูดเรื่องการไร้ตัวตน จึงนำมาเล่าสู่กันฟังว่า จะถึงตรงนั้นได้ มีนจะมีจังหวะลำดับขั้นอยู่ ไม่ใช่จู่ ๆ ไปถึงนั่นเลย ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ไม่ขยันการภาวนา ก็ไม่ก้าวหน้า เคร่งเครียดกับการภาวนา ก็เป็นการสร้างอัตตาตัวตนอีก เพราะจิตผุ้รู้จะเด่นโตชัดขึ้น แทนที่จะสลายเป็นสุญญตา การไปจ้องสภาวะ ก็เป็นการสร้างอัตตาตัวตนขึ้นอีก เพราะจิตผู้รู้จะไปเด่นโตชัดขึ้นอย่างนี้ก็ไม่ก้าวหน้า อย่างนี้ก็สร้างอัตตา แล้วให้ทำอย่างไรละ
ฝึกบ่อย ๆ ครับ ฝึกมาก ๆ ฝึกแบบผ่อนคลาย เหมือนทำเล่น ๆ ซ้อม ๆ ด้วยกฏ 3 ข้อที่เคยให้ไว้นั่นเอง
1. รู้สึกตัว
2. ผ่อนคลาย สบายๆ อย่าเครียด
3. อย่าอยากรู้สิ่งใด แต่ขอให้รู้ที่เป็นไปเอง



Create Date : 01 มิถุนายน 2555
Last Update : 7 มิถุนายน 2555 8:30:07 น. 0 comments
Counter : 2441 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.