ปี 1954 เป็นปีแรกที่สาวไทยขึ้นประชันโฉมกับสาวงามนานาชาติบนเวทีนางงามจักรวาล สาวไทยในปีนั้นคือ คุณ
อัมรา อัศวนนท์ชุดว่ายน้ำสมัยก่อนนี้ก็ดูแปลกตาดี จะว่าเป็นชุดว่ายน้ำก็ไม่เชิง เพราะด้านล่างจะเป็นคล้ายๆกับกระโปรง ดูไม่โป๊มาก รวมๆแล้วก็โอเค

หายไป 4 ปี กลับมาในปี 1959 กับคุณ
สดใส วานิชวัฒนาชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นก็มีลักษณะเหมือนกับคุณอัมรา ในปี 1954 ยังคงเอกลักษณ์เดิม ปีนี้เป็นปีแรกและปีเดียวที่สาวไทยได้ครองตำแหน่ง Miss Amity หรือ Miss Congeniallity ในปัจจุบันนั่นเอง

ว่างเว้นไปอีก 5 ปี กับสาวไทยของเรา ต่อมาในปี 1965 สาวไทยที่มีชื่อว่า
อาภัสรา หงสกุลสามารถครองตำแหน่งนางงามจักรวาลคนได้เป็นแรกของไทยและคนที่ 2 ของเอเชีย เท่ากับว่าการกลับมาของประเทศไทยในแต่ละครั้งนั้น สร้างความฮือฮาได้ตลอด สำหรับชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นก็มีลักษณะเหมือนกับในปีก่อน แต่ไม่เป็นกระโปรงแล้ว จะเป็นบิกินี่ วันพีซ แต่ไม่คัทสูงเท่านั้นเอง

ครองตำแหน่งรองนางงามจักรวาลอันดับ 2 ได้อย่างสวยงามกับ
จีรนันท์ เศวตนันท์ในปี 1966 สำหรับชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นยังคงเหมือนในปี 1965

ปี 1968 กับ
อภันตรี ประยุทธเสนีย์ชุดว่ายน้ำสีแดงพาให้เธอคว้ารางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม และ 1 ใน 15 คนสุดท้าย อภันตรีเป็นสาวไทยคนแรกและคนเดียวที่ครองตำแหน่งชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ถือว่าร้อนแรงจริงกับสาวไทยในยุคนั้น
ปี 1969 คุณแสงเดือน แม้นวงศ์ชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นยังคงเอกลักษณ์เดิมเหมือนปีก่อนๆ นอกจากนั้นคุณแสงเดือนเป็นสาวไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่งแต่งกายในชุดประจำชาติยอดเยี่ยมข้ามมาในปี 1972 กับคุณ
นิภาภัทร สุดสิริตามจริงแล้วเธอเป็นนางสาวไทยที่สวยมากคนหนึ่ง เสียดายที่เธอน่าจะคว้ารางวัลใดรางวัลหนึ่งมาฝากคนไทย แต่ไม่เป็นไร สำหรับชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นยังคงเอกลักษณ์เดิมเหมือนในปีก่อนๆ

ปี 1976 กับ
คัทลียา เอรีกุลชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นมีลักษณะเซ็กซี่ขึ้นมานิดหน่อย โดยผ่าอกและมีเชือกผูก อวดความอวบอึ๋มได้ดีทีเดียว

ข้ามมาในปี 1981 กับคุณ
มาศสุภา กาพย์ประพันธ์ ชุดว่ายน้ำที่เธอเลือกสวมใส่นั้นเป็นสีฟ้าขาว ช่วงล่างเป็นไฮคัทนิดหน่อย

ปี 1983 คุณ
จินดา เนินกร่าง เลือกชุดว่ายน้ำเป็นแบบวันพีซ เสียดายที่ภาพเป็นขาว ดำ เลยไม่รู้ว่าเธอนั้นจะสวยงามแค่ไหนกับชุดว่ายน้ำลายลายขวาง

ปี 1984 วงการนางงามไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อ
สาวิณี ปะการะนังสาวอิมพอร์ต สามารถฝ่าฟันเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายไปได้ แต่เธอก็ไปไม่ถึงดวงดาว เมื่อเธอได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 6 จึงไม่สามารถเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้ สำหรับชุดว่ายน้ำในปีนี่ดูเซ็กซี่ขึ้นมาก เนื่องจากมีการผ่ายาวบริเวณอก และมีเชือกไขว้ คุณสาวิณีก็ทำคะแนนได้ดีในรอบการประกวดชุดว่ายน้ำ

ปี 1985 สำหรับชุดว่ายน้ำที่คุณ
ธารทิพย์ พงศ์สุข(สมร ส่องศรี) สวมใส่นั้นยังคงเอกลักษณ์เดิมเหมือนในปี 1984

ต่อมาในปี 1986 คุณ
ทวีพร คลังพลอยเธออาจจะดูอวบไปหน่อยเมื่อใส่ชุดว่ายน้ำ จึงทำให้เธอดูไม่โดดเด่นนักเมื่อเทียบกับเพื่อนสาวงามจากชาติต่างๆ

แรงได้ใจมากๆกับเธอคนนี้
ชุติมา นัยนาในปี 1987 ถึงแม้เธอจะหุ่นดูตันๆ แต่ลีลาการโพสท่าของเธอนั้นเด็ดสะระตี่มากๆ เอาไปเลยเกิน 100

ปี 1988 เป็นอีกปีที่เป็นยุคทองของนางสาวไทย เมื่อ
ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนกสามารถคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล ควบรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม แถมคะแนนในชุดว่ายน้ำนั้นก็นำโด่งมาเลยทีเดียว ไม่ต้องบอกเลยกับความสวยงามของพี่ปุ๋ยของเรา

ปี 1989 กับคุณ
ยลดา รองหานามคุณน้องของเราก็สวยนะ น่าจะเข้ารอบลึกๆ แต่เมื่อมาดูแล้วปี 1989 นั้นไม่มีสาวงามจากเอเชียติด 1 ใน 10 เลย สงสัยคงเป็นเพราะปีก่อนที่ 4 สาวเอเชียผงาดพาเหรดเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายกันหมด ปีนี้คงหมั่นไส้ เอเชียไม่ต้องเข้ารอบเลย แต่คุณน้องก็ยังหยิบรางวัลรองอันดับ 1 ชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาฝากคนไทยได้

ปี 1990 เป็นปีไม่ชอบชุดว่ายน้ำเซตนี้เอาเสียเลย ดูไม่ลงตัว อย่างที่คุณ
หญิง ภัสราภรณ์ ชัยมงคลสวมใส่นั้น ดูตลกมากๆ แต่อย่างไรก็ตามเธอก้อสามารถคว้ารางวัล Miss Photogenic หรือขวัญใจช่างภาพมาครองได้ นับว่าเป็นสาวไทยคนแรกและคนเดียวในขณะนี้ที่ได้รับตำแหน่งนี้

มาในปี 1991 ชุดว่ายน้ำที่คุณ
จิรประภา เศวตนันท์หลานสาวคุณจีรนันท์ เศวตนันท์ รองนางงามจักรวาลอันดับ 2 ในปี 1966 เลือกสวมใส่นั้นเป็นลายทางตรง สีเรนโบว์ น่ารักไปอีกแบบ

ปี 1992 ทีไทยเราเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดนางงามจักรวาลครั้งแรก ตัวแทนสาวไทยในปีนั้นคือ
น้องอร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์จริงๆแล้วชอบภาพนี้มากๆ เธอดูเหมาะกับการปล่อยผมแล้วเอามาไว้ทางด้านหน้ามากกว่า ชุดว่ายน้ำก็สวย คนใส่ก็สวย แต่น่าเสียดายที่เธอเพิ่งจะมาสวยตอนใกล้ๆรอบตัดสิน เพราะตลอดเวลาที่เก็บตัว ทำกิจกรรมกับกองประกวด เธอมักจะรวบผมตลอดเลย

ปี 1993 คุณ
ปุ๊ก ฉัตรทริกา อุบลศิริเธอเป็นนางงามอีกคนที่หน้าสวยมากๆ ที่จริงรอบพรีลิม เธอก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยในชุดว่ายน้ำ แต่ทำไมคะแนนของเธอจึงได้น้อยขนาดนั้น แค่ 7 กว่าๆ

ปี 1994
อารียา ศิริโสภานับว่าเป็นนางงามที่หน้าหวานสุดๆ ไม่หวานได้ไงขนาดสื่อต่างๆที่ฟิลิปปินส์ต่างประโคมข่าวเธอไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังคว้าตำแหน่งพิเศษนางงามยิ้มสวยมาครองได้อีก น้องป๊อบทำคะแนนได้มาเป็นลำดับที่ 13 น่าเสียดายมากๆ ชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่นั้นเป็นสีออกน้ำเงินกำมะหยี่เข้ม มีผ้าคลุมสีขาวเพิ่มความเซ็กซี่ ช่วงล่างเป็นไฮคัทค่อนข้างสูง

ปี 1995 กับคุณ
มะปราง ภาวดี วิเชียรรัตน์ชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่ช่วงทำกิจกรรมนั้นเป็นวันพีซลายสีฟ้า มะปรางทำคะแนนชุดว่ายน้ำได้เกือบ 9 คะแนน เฉียดการเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อเธอทำคะแนนได้มาเป็นลำดับที่ 14

ในปี 1996 ไม่มีการประกวดนางสาวไทย ประเทศไทยจึงต้องคัดเลือกสาวไทยมาประกวดนางงามจักรวาล ตัวแทนสาวไทยในปี 1996 ก็คือคุณ
นิรัชลา คำยา1 ใน 10 คนสุดท้ายจากการประกวดนางสาวไทยปี 2538 สำหรับชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่ช่วงทำกิจกรรมนั้นเป็นวันพีซลายใบไม้สีฟ้าเขียว

ถัดมาในปี 1997 นางสาวไทยประจำปี 2540
สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐพร้อมแล้วสำหรับการประกวดนางงามจักรวาลที่สหรัฐอเมริกา เชื่อได้เลยว่าถ้าเธอเป๊ะภาษาอังกฤษและกล้าแสดงออกอีกนิด 1 ใน 5 ต้องมีชื่อเธออยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน

ปี 1998 คุณ
ชลิดา เถาว์ชาลีเป็นนางงามคุณภาพอีกคนหนึ่ง การประกวดนางงามจักรวาลปี 1998 คุณนกทำคะแนนได้ค่อนข้างดี แต่เธอก็ไม่สามารถไปยืนในรอบ 10 คนสุดท้ายได้ เนื่องจากบอดี้คุณนกค่อนข้างตัน เธอจึงใส่ชุดว่ายน้ำได้ไม่สวยเท่าไรนัก

ปี 1999 คุณ
หมอเบิร์ท อภิสมัย ศรีรังสรรค์หมอเบิร์ทติด 1 ใน 10 Miss Photogenic และเธอยังเป็นที่ฮือฮามากในกองประกวด เนื่องมาจากที่เธอเป็นคุณหมอนั่นเอง
ปี 2000 ถือเป็นปีเริ่มศักราชใหม่ในการเฟ้นหาสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล จากเดิมนางสาวไทยในแต่ละปีจะต้องเป็นตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาล นี่จึงเป็นจุดเริ่มของการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เพื่อเฟ้นหาสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล ถือเป็นลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องและเป็นทางการ สำหรับสาวไทยปี 2000 นั่นก็คือ
เหน่ง กุลธิดา เย็นประเสริฐมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคนแรกเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาลที่ไซปรัส เหน่งมีภาพออกมาค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเพื่อนสาวงามจากแถบเอเชียด้วยกัน สำหรับชุดว่ายน้ำที่เหน่งเลือกสวมใส่นั้นเป็นวันพีซสีเหลือง มีลายดอกไม้เพิ่มความงาม แต่ปีนี้ออกแบบมาเป็นลักษณะพิเศษนิดหนึ่งตรงที่จุดรอยเชื่อมต่อระหว่างท่อนบนกับท่อนล่างนั้นไม่เชื่อมกัน หลายคนจึงมองว่าเป็นทูพีซ ซึ่งมันไม่ใช่

ปี 2001 คุณ
อ้วน วรินทร ผดุงวิถีเป็นสาวไทยคนแรกที่ใส่ชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ ที่เลือกใส่ก็เพราะว่านางงามชาติอื่นแย่งวันพีซไปหมด สำหรับชุดว่ายน้ำที่อ้วนเลือกสวมใส่นั้นเป็นทูพีซสีแดง ดูสวยงามและลงตัว
ถัดมาในปี 2002 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคนที่ 3
จันจิรา จันทร์โฉมเป็นอีกคนที่สวมชุดว่ายน้ำได้สวยมากๆ เพราะเธอเป็นคนมีหน้าอก และมีทรวดทรง ชุดว่ายน้ำสีขาวช่วยให้เธอดูโดดเด่นมากๆ
ปี 2003 กับ
เจี๊ยบ เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์ขวัญใจของใครหลายๆคน เจี๊ยบเกิดมาเพื่อการเป็นนางงามซะจริงๆ เธอเต็มที่กับการประกวดในครั้งนั้นที่ปานามา เจี๊ยบถูกเก็งจากหลายๆโพลว่าจะสามารถเข้ารอบลึกๆได้ แต่เมื่อผลออกมามันไม่ใช่ แต่เธอก็ยังเป็นไอดอลการเป็นนางงามได้อย่างดีทีเดียว
ปี 2004
เอมมี่ มรกต กิตติสาระจริงๆแล้วเอมมี่มีใบหน้าสวย แต่บุคลิกเธอค่อนข้างไม่ดี เธอถูกวิพากษ์ วิจารณ์เป็นอย่างมากกับชุดว่ายน้ำแพมเพิร์สตัวนั้น แต่อย่างไรก็ตามในรอบพรีลิม เธอเลือกให้ตัวเล็กลงมาอีกนิด แต่ก็โอเคนะ ไม่น่าเกลียดเหมือนชุดว่ายน้ำลายดอกสีฟ้าตัวนั้น
ภาคภูมิใจที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดนางงามจักรวาลเป็นครั้งที่สองในปี 2005 ตัวแทนสาวไทยในปีนั้นคือ
น้อด ชนันภรณ์ รสจันทนNน้อดเป็นนางงามคุณภาพอีกคน เธอทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมกับการเป็นเจ้าภาพ จำได้เลยว่าวันประกวดรอบพรีลิม น้อดดูภูมิใจมากๆที่ได้ทำหน้าที่ของเธอได้อย่างเต็มที่ต่อหน้ากำลังใจนับล้านที่มอบให้กับเธอ

18 ปีที่รอคอยเมื่อ
ชาม อรวรินธ์ โอสถานนท์สามารถเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายได้ ชามเป็นที่รุมล้อมเหล่าบรรดาช่างภาพ นักข่าว กับชุดว่ายน้ำอันสุดอึ๋มๆๆ ถึงขั้นถูกจับตาเป็นตัวเก็ง 1 ใน 5 เลยทีเดียวจากสำนักข่าวเทเลมุนโด

ปี 2007 ล่าสุดกับน้องใหม่
กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรมแม้ว่าเธอจะได้เปรียบตรงที่ความสูงเปรียว แต่กวางยังดูผอมไป และไม่อึ๋มเท่าที่ควร แต่ด้วยความสามารถของกวาง เธอสามารถอึ๋มได้ทันทีในช่วงโค้งสุดท้าย เล่นเอาแฟนคลับนางงามปลื้มๆๆไปตามๆกัน งานนี้ต้องขอขอบคุณชุดว่ายน้ำ บี เอส ซี ชุดว่ายน้ำแบรนด์ไทย ที่ช่วยให้กวางดูอึ๋มๆๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนพาเธอเข้ารอบได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน

ขอบคุณบทความดีๆจากคุณ Dolce_Romanzo จาก mardoo.net