MUT กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด
MUT  กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด
"ยิ้ม ชาวิกา วัตรสังข์"

มิใช่แค่เสียงเชียร์เท่านั้น หากแต่ ณ ปัจจุบันเป็นที่น่าสังเกตว่าเสียงแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ หรือแม้กระทั่งเสียงแห่งการเรียกร้องในสิ่งที่ตนเองต้องการของบรรดาคนที่ยืนอยู่ในสถานะที่ถูกเรียกว่า "แฟนคลับ" ทั้งหลายนั้นดูเหมือนจะยิ่ง "ดัง" และ "ส่งผล" ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยทีเดียว

        โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาเติมเต็มทางด้านการสื่อสารของโลกโซเชียล

        หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมคงจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับเวทีการประกวด "มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์" เมื่อปีที่ผ่านมาเมื่อบรรดาคนรักนางงามส่วนใหญ่ต่างเห็นตรงกันถึงความไม่เหมาะสมของสาวงามที่ได้รับตำแหน่งชนะเลิศรวมถึงรองอันดับ 2 จนพากันส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักผ่านโลกออนไลน์ ผลที่ตามมาก็คือคนหนึ่งถอนตัว คนหนึ่งถูกถอดตำแหน่ง

        เรื่องนี้หากย้อนกลับไปในอดีตโอกาสที่ปรากฏการณ์ที่ว่าจะเกิดขึ้นนั้นต้องบอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้

        มาในปีนี้ยังไม่ทันที่การประกวดเวทีนี้จะเริ่มขึ้นบรรดาคนรักนางงามก็สร้างกระแสขึ้นมาอีกครั้งหลังหลายต่อหลายคนได้พากันทำตัวเป็นแมวมอง, นักปั้น ฯ คัดสรรหาสาวงามที่ตนเองมองว่ามีความเหมาะสมพร้อมโพสต์ผ่านโลกโซเชียลเพื่อหาแนวร่วมกระทั่งทำสาวๆ เอาบางคนที่ถูกพูดถึงนั้นกลายเป็นที่จับตาทั้งๆ ที่เจ้าตัวเองยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำไป

        "สำหรับการประกวดนางงาม ความจริงก็เป็นความฝันของคุณแม่ยิ้มมาก่อน คุณแม่จะคอยติดตามนางงามรุ่นต่างๆ ส่วนยิ้มจะคอยซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว มันก็เลยกลายมาเป็นความฝันของยิ้มอีกคนหนึ่งด้วย สำหรับการสมัครยิ้มยังไม่ได้คอมเฟิร์มว่าจะสมัครในปีนี้ค่ะ แต่ยิ้มก็มีการเตรียมความพร้อมมาโดยตลอด ตอนนี้มาเข้มข้นขึ้น มาเทรนด์ตัวเองให้หนักขึ้น"

        "สำหรับพี่ๆ แฟนๆ นางงาม ยิ้มก็อยากขอบคุณทุกๆ ท่านที่คอยเป็นแรงเชียร์แรงใจให้ยิ้ม ยิ้มสัญญาว่ายิ้มจะทำให้ดีที่สุดค่ะ" เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ "ยิ้ม ชาวิกา วัตรสังข์" สาววัย 18 ปี 1ม.อัสสัมชัญกับทีมข่าว TOPNEWSช่อง 3 SD หลังชื่อของเธอถูกคนรักนางงามเชียร์ให้เข้าประกวดเวที MUT ในปีนี้

        เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสอบถามความเห็นไปยัง "กบ" จากเวบนางงามชื่อดังของไทย T-Pageant ก็ได้รับคำตอบว่าจริงๆ เรื่องนี้มีมานานแล้วแต่ที่เรื่องนี้มาเป็นกระแสในช่วงนี้ก็เพราะการเข้ามาของโลกโซเชียลที่ทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกส่งผ่านกันได้ง่ายนั่นเอง

        "มันมาจากกระแสทางอินเตอร์เน็ต ในระยะหลังคนที่ดูนางงามเขาจะมีการรวมกลุ่มคอมมูนิตี้กัน คุยกัน แล้วเขาก็จะแชร์ข้อมูลกัน บางคนก็จะเอารุ่นพี่รุ่นน้องมาบอก แล้วเดี๋ยวนี้การประกวดในระหว่างปีมันจะมีเยอะ ทั้งประกวดนางแบบนู่นนี่นั่น แล้วข่าวก็ลงเน็ตตลอด เวลามีคนไหนสวยๆ เขาก็จะไปหามาแชร์กันว่าใครรู้จักคนนี้บ้าง แล้วคอมมูนิตี้ของเราก็จะมีคนเข้าออกเป็นหลายหมื่นคน บางทีส่วนใหญ่ก็จะรู้จักว่าคนนี้เป็นญาติคนนี้ ก็เหมือนเป็นการทาบทามไปในตัว"

        "อย่างปีที่แล้วน้องเมญ่า (นนธวรรณ ทองเหล็ง-มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014) ก็เป็นกระแสที่แฟนนางงามเรียกร้องอยากให้เข้ามาประกวดกันหลายปี แล้วเมญ่าเธอตัดสินใจมาเข้าประกวดทั้งๆ ที่เธอติดสัญญากับค่ายเพลงอยู่ซึ่งไม่แน่ใจว่าอาร์สยามหรือเปล่า เขาก็ยังไปคุยกับทางอาร์สยามเลยว่าขอลามาประกวดอะไรแบบนี้ครับ เพราะว่าเขาเองก็อยากเดินตามความฝัน อย่างเมญ่าเองก็เป็นอีกเคสหนึ่งนะ ที่แฟนๆ ของเขาอยากจะให้มาประกวด แล้วตัวเขาเองก็มาประกวดจริงๆ"

        ต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆ เสียงจากคนที่เรียดตัวเองว่าคนรักนางงามนั้นค่อนข้างจะมีอิทธิพลพอสมควรทีเดียวยกตัวอย่างจากเวทีมิสยูนิเวิร์สปีที่แล้ว เคยคิดมั้ยว่ากระแสเชียร์กันตั้งแต่เริ่มแรกตรงนี้มันจะไปรบกวนกองประกวดหรือกดดันการทำงานของคณะกรรมการอะไรหรือไม่?
        "คือพูดตรงๆ นะครับแฟนคลับเองก็มีหน้าที่แค่เชียร์เท่านั้นเอง คือเคสที่ใกล้เคียงที่สุดอย่างปีที่แล้วพูดเลยว่า พิมบงกช จันทร์แก้ว น้องแอลลี่ ก็เป็นนางงามที่อยู่ในกระแสตั้งแต่ปี 2012 คือปีนั้นจำได้ว่าสักประมาน 2010 หรือ 2011 น้องแอลลี่ เคยมาเมืองไทยแล้วก็เคยได้สัมภาษณ์คอลัมน์ในเวบเมเนเจอร์ผู้จัดการด้วยว่าน้องเขาอยากจะเข้าประกวด แล้วน้องเขาก็ไปได้ตำแหน่งมิสไทยนิวเยียร์นางสงกรานต์ที่แอลเอด้วย"

        "คนไทยที่แอลเอลก็เลยมีการแชร์รูปกันมา เราก็อยากให้เด็กคนนี้เข้ามาประกวด อีกอย่างน้องแอลลี่เคยไปดูการประกวดนางงามจักรวาลเมื่อปี 2012 แล้วก็มีข่าวออกมาแล้วคนเห็นว่าเด็กคนนี้หน่วยก้านดี จนกระทั่งน้องแอลลี่มาประกวดเมื่อปี 2014 ปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วมันไม่ได้มีใครโดดเด่นและทุกคนก็คิดว่าแอลลี่ต้องได้ แต่ทางกรรมการเขาได้ตัดสินใจเลือกอีกคนมา คือมันก็ช็อค แล้วมันก็เลยกลายมามีปัญหา"

        ตอนที่ออกมาวิจารณ์ตอนนั้นกลัวคนนอกจะมองว่าเอ๊ะ ทำไมคนกลุ่มนี้มันถึไม่เคารพกติกามั้ย?
        "เราก็เคารพนะ แต่บางทีกรรมการเขาก็คิดเยอะไป บางที่ตัวเกร็งที่มาแต่แรกข้อดีคือได้กระแส แต่ข้อเสียคือมันจะคล้ายๆ กับว่ามันโดนไฟสปอร์ตไลท์จับจ้องเยอะจนเกินไป ก็เหมือนกับเรามองคนจากศูนย์ให้ขึ้นไปที่ร้อย แต่เด็กบางคนแต้มเขามาร้อยแล้ว ซึ่งมันเอาเขาขึ้นไปกว่านี้ไม่ได้แล้วก็จะมาแต่คนหาข้อติแล้ว คะแนนเขาก็จะดาวน์ลงมาเรื่อยๆ ในสายตาของกรรมการนะครับ แต่ว่าบางทีอย่างไปคิดเยอะบอกกรรมการ เพราะถ้าดีก็คือต้องให้ อย่าไปคัดค้านหรือทรยศความรู้สึกตัวเอง"

        ทั้งนี้กับกระแสที่เกิดขึ้นทางด้านผู้ดูแลเวบนางงามชื่อดังได้มองว่าเรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือทำให้บรรยากาศของการประกวดคึกคักขณะที่ข้อเสียก็อาจจะทำให้คนที่เข้าประกวดถูกจับจ้องจนเกินไป หรือบางส่วนก็อาจะถูกใส่ร้ายโจมตีด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จโดยใช้โลกโวเชียลเป้นเครื่องมือก็เป็นไปได้

        "ข้อดี มันก็ทำให้การประกวดดูคึกคักมากขึ้น ในวงการนางงามมันมีการบูม การให้ความสนใจ ยังมีคนสวยๆ เตรียมตัวจะมา มันทำให้มีความรู้สึกว่ามันมีการตื่นตัวตลอดเวลา เหมือนเราได้ภูมิใจกับสิ่งที่เราเลือกมา มันก็คล้ายๆ แบบว่าในแต่ละปีก็จะมีการเริ่มไปหากันแล้วว่าจะเอาคนไหนดี"

        "คืออย่างสมัยก่อนแมวมองก็จะมีแค่กลุ่มเล็กๆ ก็มีแค่ร้านทำผม ช่างแต่งหน้าที่ไปรู้จักเด็กสวยๆ ตามมหา'ลัย แต่ทีนี้ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว คนทั่วไปคนธรรมดาอย่างพวกเราไปเห็นที่ไหนเราก็ไปถ่ายรูปมาได้แล้ว อย่างน้องคนนี้สวยถ่ายมาลงเน็ตแล้ว เหมือนกับว่าตอนนี้ใครๆ ก็เป็นแมวมองได้แล้ว"

        "ข้อเสียถามว่ามีไหม มันอาจจะมีตรงที่ว่าเด็กบางคนอาจจะดีมากจริงๆ ได้รับการจับจ้องเยอะยังไม่ทันมาประกวดเลย ทีนี้ก็มีคู่แข่งที่เป็นพี่เลี้ยงนางงามค่ายอื่นๆ ที่เขาส่งเด็กของเขาแล้วไม่อยากให้เด็กคนอื่นดีกว่าก็เริ่มใส่ร้ายป้ายสีกันแล้ว ไปตัดต่อภาพ ไปสร้างประวัติไม่ดีเอามาใส่ร้ายป้ายสีนางงามกันแล้ว"

        "และทีนี้กรรมการก็ต้องมานั่งพิจารณาหนักว่ามันเรื่องจริงหรือไม่จริง ก็ต้องมีการมานั่งสืบประวัติให้มันวุ่นวายมากขึ้น มันก็อาจสร้างความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายความจริงมันก็ต้องปรากฏ..."

        เชื่อเหตุที่เวทีนางงามเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นในระยะหลังๆ เป็นเพราะทุกคนต้องการเข้ามาหาผลประโยชน์ทางธุรกิจกันมากขึ้นนั่นเอ'..."เอาจริงๆ นะ คือช่วงหลังๆ มีการประกวดมากมายหลายเวทีมากขึ้น แล้วก็มีคนเขามาสู่ธุรกิจนี้เยอะมากขึ้น คนที่เกี่ยวข้องก็มีทั้งพี่เลี้ยง ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ออแกไนซ์เซอร์ ผู้จัด ทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วทุกคนมีผลประโยชน์หมด บางทีอาจจะมีวาระซ้อนเร้น ใส่ร้ายป้ายสี"

        "แล้วอีกอย่างหนึ่งระยะหลังก็ต้องพูดตรงๆ ของการเช็คประวัติ มันเช็คกันไม่ได้จริงๆ นางงามบางคนยอมลงทุนเปลี่ยนทั้งชื่อเปลี่ยนทั้งนามสกุลนะครับ เพราะว่าเวลาเข้าไปค้นหาในอินเตอร์เน็ตมันจะไม่เจอ คือนางงามที่เปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุลอันตรายที่สุดเลย อันนี้อยากฝากถึงกองประกวดทุกกองเลย"

        "ถ้าเข้าไปค้นหาในระบบฐานข้อมูลแล้วชื่อนามสกุลนี้ไม่เจออะไรเลย ให้พยายามเช็คให้ละเอียดที่สุด ดูทะเบียนราษฎร์หรือให้สันติบาลเช็คได้เลยว่าคนนี้เปลี่ยนชื่อเพราะอะไร ให้ละเอียดจริงๆ ไปเลย..."

MUT  กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด
"แนท นัฐยา ศยามลกุล" อีกหนึ่งสาวที่แฟนคลับนางงามในโลกโซเชียลส่งเสียงเชียร์


MUT  กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด


MUT  กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด


MUT  กับกระแสเต็งตั้งแต่ยังไม่(สมัคร)ประกวด



Create Date : 15 มิถุนายน 2558
Last Update : 15 มิถุนายน 2558 0:20:04 น.
Counter : 2442 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty-queen.BlogGang.com

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]

บทความทั้งหมด