หนึ่งในร้อย... (ล้าน) "กวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม
คงจะเป็นคำถามยอดฮิตสมัยวัยเยาว์ ที่เชื่อว่าหลายคนก็คงจะผ่านการตอบคำถามนี้มาเช่นกัน กับคำสั้นๆ ว่า ''โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร??'' และหลายคนคงจะให้คำตอบที่แตกต่างกันออกไป บ้างอยากเป็นทหาร บ้างอยากเป็นตำรวจ บ้างอยากเป็นหมอ บ้างอยากเป็นนักธุรกิจ ก็แล้วแต่เด็กแต่ละคนจะครุ่นคิดกันได้ในเวลานั้น หรือบางคนก็อาจจะถูกปลูกฝังจากครอบครัวว่าหากโตขึ้นต้องดำรงอาชีพตามที่พ่อ-แม่ วางแผนไว้ให้เท่านั้น
แต่สำหรับเด็กหญิง
''ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม'' หรือที่คนใกล้ชิดเรียกกันติดปากว่า
''น้องกวาง'' เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล วัย 5 ขวบ จากโรงเรียนบ้านพลอย (ย่านรังสิต) ได้ตอบคำถามเดียวกันนี้แบบไม่ต้องคิด ว่า
''หนูอยากเป็นนางงามค่ะ!!'' ทำเอาคุณครูที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมกับบรรดาเพื่อนร่วมห้องถึงกับอดรนทนไม่ไหวที่จะหลุดขำออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ กับความคิดของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาก็สุดแสนจะ ธรรมด๊า...ธรรมดา แต่ใฝ่สูงอยากจะเป็น
นางฟ้า!! ของเมืองไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาผ่านไปกว่า 15 ปี คำพูดที่ถูกเพื่อนๆ หัวเราะกลับเป็นจริงขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์ แบบที่ไม่ทันให้ใครได้คาดคิด แม้กระทั่งเจ้าตัวเองก็ตาม เมื่อชื่อของ
''น้องกวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ถูกประกาศท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาเป็นสักขีพยานภายในห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว หลายร้อยคน
พร้อมกับประชาชนทั้งประเทศที่เฝ้าชมการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี เมื่อค่ำคืนวันที่ 24 มี.ค. 50 ที่ผ่านมา แถมคำพูดนั้นยังผ่านริมฝีปากสาวงามระดับนางงามจักรวาล อย่าง ''ซูเลย์ก้า เรเวร่า เมนโดซ่า'' มิสยูนิเวิร์ส 2006 เป็นภาษาอังกฤษ ที่ไม่ต้องคิด และไม่ต้องแปล แต่ก็จับใจความได้ว่า ขณะนี้น้องกวาง คือ
''มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส'' คนใหม่ พร้อมกับการรับหน้าที่เป็นตัวแทนสาวไทยไปเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศเม็กซิโกกลางปีนี้ด้วย

ซึ่งนั่นคือการเดินทางตามหาความฝันของเด็กผู้หญิงคนนึง ที่ต้องบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในไม่กี่คน ที่โชคดี เพราะสามารถทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมาได้สำเร็จ โดยใช้ความมุ่งมั่น พร้อมกับการวางเป้าหมายชีวิตอย่างมีแบบแผน โดยไม่เปลี่ยนแปลงความคิดหรือทิศทางชีวิตของตัวเองไปไหน แต่ในระหว่างทางเธอจะผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้เราจะพาไปรู้จักและพูดคุยกับ
''น้องกวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ''มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส'' ประจำปี 2550ก่อนอื่นต้องแนะนำตัว???สวัสดีค่ะชื่อ
''น้องกวาง'' ชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่า นางสาวฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ปัจจุบัน อายุ 19 ปี ตอนนี้สัดส่วน 33-24-33 สูง 179 ซม. น้ำหนัก 54 กก. กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ประยุกต์ เอกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล วิชาโทภาษาจีน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นคนปทุมธานี โดยกำเนิดค่ะ
ไปไงมาไงถึงได้มาประกวด ''มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส''นางงามคือความใฝ่ฝันของกวาง ซึ่งอาจจะบอกได้ว่ากวางถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณแม่ประยูรศรี ยุติธรรม แม่ของกวางอดีตเค้าเคยคว้ามงกุฎจากเวที
''นางสาวลำปาง'' ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปี 2525 และปีต่อมาก็ได้ตำแหน่ง
รองอันดับ 1 ''นางสาวเชียงใหม่'' ด้วย ส่วนคุณพ่อฟาร์เลย์ ยุติธรรม ซึ่งปัจจุบันถึงแม้อาชีพการงานของท่านจะเป็นรองผู้บัญชาการเรือนจำปทุมธานี ก็ตามทีเถอะ แต่ประวัติและดีกรีก็ไม่มีคำว่าน้อยหน้าคุณแม่นะ (หัวเราะ) เพราะแต่ก่อนพ่อก็เป็นถึงนายแบบบนแคตวอร์กใหญ่ๆ แถมยังถ่ายแฟชั่นลงปกนิตยสารดังๆ อีกด้วย
เพราะเหตุนี้ ถึงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากครอบครัวก็มีส่วนนะคะ เพราะตอนเด็กๆ กวางเห็นรูปคุณแม่ที่ยืนรับมงกุฎบนเวที หรือเห็นภาพคุณพ่อบนปกนิตยสารที่ท่านเก็บไว้ ทำให้กวางมีความคิดแวบเข้ามาในสมองว่า ต่อไปในภายภาคหน้าจะต้องเป็นแบบนี้ให้ได้ และภาพมงกุฎก็ลอยเข้ามาอีก ทำให้กวางตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า จะต้องคว้าตำแหน่งนางงามบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศมาให้ได้ ซึ่งพ่อกับแม่พอท่านเห็นความตั้งใจของกวางแล้วท่านก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพราะสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องเสียหายค่ะ
แสดงว่าเตรียมตัวมาตั้งแต่เด็กพูดแล้วจะหาว่าโม้ค่ะ!! (หัวเราะ) คือตั้งแต่วันที่กวางคิดว่าตัวเองอยากจะเป็นนางงาม บอกตามตรงว่ากวางจะดื่มนมมาตลอด เพราะคุณแม่บอกว่านางงามสมัยนี้ต้องมีรูปร่างดี ที่สำคัญต้องสูง เพราะจะได้สู้กับชาวต่างชาติได้ กวางก็เลยดื่มไม่หยุด เพราะอยากจะสูง จนตอนนี้ 179 แล้วเจ้าค่ะ
แล้วอย่างนี้ผ่านเวทีอะไรมาบ้างจ๊ะมันเป็นไปตามสเต็ปค่ะ ตอนแรกเลยในช่วงวัยรุ่นก็ต้องเป็นเวที
''มิสทีนไทยแลนด์'' ซึ่งตอนกวางประกวดปี 2003 นั้น ''ฟาง'' พิชญา ศรีเทพย์ ได้ตำแหน่งไปครอง และกวางก็ทำใด้ดีที่สุดแค่รอบ 12 คนสุดท้ายเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากมายนะคะ เพราะถือว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้แนวทางของการประกวด จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย และปีที่ผ่านมากวางก็เลยตัดสินใจเข้าประกวด
''มิสไทยแลนด์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ลีก'' ซึ่งปรากฏว่าได้รับตำแหน่งนั้นมานอนกอด ดีใจมากๆ กับรางวัลแรกในชีวิตค่ะ
พูดถึงวินาทีแรกที่รู้ว่าตัวเองได้เป็นนางงามเหมือนกับที่ฝันไว้เลยค่ะ ตอนที่เหลือแค่สองคนกับจูน (รองอันดับ 1) กวางค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองนะคะว่าน่าจะเป็นเรา แต่พอประกาศชื่อตัวเองจริงๆ กลับทำอะไรไม่ถูก เป็นวินาทีที่ยากยิ่งที่จะพูด แต่มันก็รู้สึกได้ว่าเป็นสิ่งพิเศษ และกวางก็จะเก็บวินาทีนั้นไว้ในความทรงจำไม่มีวันลืม
ถามจริงเหอะ ได้บนอะไรไว้หรือเปล่าคุณแม่ค่ะ คุณแม่จะเป็นคนที่ชอบบนบานศาลกล่าว เพราะท่านจะชอบเข้าวัดเข้าวา ครั้งนี้เห็นท่านบอกเหมือนกันว่าไปบนไว้ที่วัดใหม่ชัยมงคล จ.อยุธยา ซึ่งพอว่างจากภารกิจ กวางก็คงต้องรีบไปแก้บนแน่นอนค่ะ
คิดว่าเพราะอะไรทำไมกรรมการถึงเลือกเรา ไสยศาสตร์หรือเปล่าจ๊ะ?ไม่หรอกค่ะ คือ กวางจะเป็นตัวของตัวเองตลอด ที่บ้านเป็นยังไง ที่กองประกวดกวางก็จะเป็นอย่างนั้น คือกวางจะเข้ากับเพื่อนๆ ค่อนข้างง่าย อีกอย่างตอบคำถามบนเวทีก็คงจะมีส่วน ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่า พี่น้อด (ชนันภรณ์ รสจันทร์) ถามกวางว่า
''ผู้ชายจะเรียนรู้อะไรจากผู้หญิง'' ซึ่งกวางก็ตอบไปว่า ความอดทนและความรอบคอบ เพราะกวางคิดว่าผู้หญิงเรามีความอดทนในการทำสิ่งที่บางครั้งผู้ชายยังทำไม่ได้ สุดท้ายสิ่งที่ทำให้ได้มงกุฎมาต้องบอกว่าเพราะความสูงมั้งคะ (หัวเราะ)
แสดงว่าภูมิใจกับความสูงของตัวเองมั่กๆ เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย จะเรียกกวางว่า
''ยัยโย่ง'' บ้าง
''เสาไฟฟ้า'' บ้าง ซึ่งกวางก็ว่ามันน่ารักดีเหมือนกันนะ และพอมาที่กองประกวดเพื่อนสาวงามเค้าจะเรียกกวางว่า
''กวนอิม'' '' เพราะเวลากวางทาแป้ง หน้ากวางจะขาวเหมือนกวนอิม เค้าก็เลยเรียกกันค่ะ และหลายคนก็ถามเหมือนกันว่าทำไมสูงแบบนี้กวางไม่ไปเป็นนางแบบ อยากเป็นนางงามทำไม ซึ่งเรื่องนี้กวางคิดว่ามันต่างกันนะ นางแบบจะพรีเซนต์เสื้อผ้า เหมือนกับเราเป็นไม้แขวนเสื้อ แต่การเป็นนางงาม มันคือการพรีเซนต์ตัวเอง ให้คนได้รู้จักในตัวตนของเรา ซึ่งกวางว่ามันมีเสน่ห์มากกว่า
อยากเป็นอะไรในอนาคตความใฝ่ฝันอีกอย่างที่กวางตั้งใจไว้ คือการได้เป็นทูต เพราะทูตสามารถทำให้คนที่อยู่คนละประเทศคนละศาสนาหันหน้ามาช่วยเหลือและรักกันได้ อยากให้โลกสงบสุขค่ะ ส่วนงานในวงการบันเทิงถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำ ถ้าให้เป็นนางเอกช่อง 7 ก็ดี แต่ก็คงจะหาพระเอกที่สูงๆ แสดงด้วยยากหน่อย (หัวเราะ) แต่จะให้ทำอะไรก็คงขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่จะผู้พิจารณาค่ะ
ความสามารถอะไรที่จะไปสู้สาวต่างชาติ ในเวทีโลกก็คงต้องเป็นเปียโนนี่แหละค่ะ เชื่อมั้ยค่ะว่าตอนเด็กๆ ช่วงที่เริ่มเล่น กวางก็ไม่ค่อยชอบเครื่องดนตรีชนิดนี้เท่าไหร่ แต่เพราะพ่อกับแม่อยากให้เรียนเราก็ไม่อยากขัดใจท่าน แต่พอเรียนไปเรียนมาก็รู้สึกมันมีเสน่ห์ และที่สำคัญถ้าเราอยากเป็นนางงามเราก็ต้องมีความสามารถพิเศษ ก็เลยเริ่มจริงจังมากยิ่งขึ้น จนปัจจุบันกวางเป็นครูสอนเปียโนอยู่ที่โรงเรียนสยามกลการ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ค่ะ
หนุ่มๆ เค้ารอฟัง หนูมีแฟนหรือยังคะยังค่ะ!! (เสียงดังฟังชัด) คือกวางเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม และต้องสอนเปียโนด้วย เวลาก็เลยจะหมดไปกับการทำกิจกรรมซะเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยจะมีแต่เพื่อนๆ กันซะมากกว่า ถ้าถามว่ามีใครมาจีบมั้ย?? มันก็มีบ้าง แต่กวางคิดว่ายังไม่ถึงเวลา ส่วนสเปกก็ไม่ได้เน้นอะไรนะคะ ขอให้เค้าเป็นคนดี เข้าใจและให้เกียรติเรา แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ
ทำฝันของตัวเองเป็นจริงแล้วอยากขอบคุณใครมั้ยแน่นอนค่ะ ก็ต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ ที่คอยสนับสนุนในสิ่งที่ดีๆ มาโดยตลอด ขอบคุณคณะกรรมการและผู้สนับสนุนการประกวดทุกท่านที่ให้โอกาสกวางได้เดินตามฝันของตัวเอง และกวางก็สัญญาค่ะว่าจะทำหน้าที่มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ให้ดีที่สุด
สุดท้าย ท้ายสุด ให้นิยามของคำว่า ''ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม'' หน่อยตอนเด็กๆ เค้าจะเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบเพราะเป็นลูกคนเดียว ไม่มีเพื่อนเล่น มีดื้อบ้างเป็นบางครั้ง พอโตมาก็จะเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมอยู่ว่างๆ ไม่ค่อยเป็น พ่อ-แม่จะสอนตลอดว่าให้ช่วยเหลือตัวเอง อย่างตอนนี้ก็สอนเปียโนหาเงินผ่อนรถเองด้วย และที่สำคัญเค้าเป็นคนสนุกสนาน และรักเพื่อนๆ ค่ะ''
และนั่นก็คงจะทำให้คุณๆ ท่านๆ ได้รู้จักกับผู้หญิงที่เพิ่งจะคว้ามงกุฎ จากเวทีขาอ่อน ''มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส'' ประจำปี 2550 มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนคงจะได้จากการใช้ชีวิตของนางงามคนล่าสุดนี้ คือแง่คิดดีๆ กับการกล้าที่จะฝัน และก็ใช้ความพยายามเดินตามหนทางของมัน ซึ่งซักวันความฝันนั้นก็จะมาถึงเอง ดั่งที่ ''น้องกวาง'' ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ได้ทำให้คนทั้งประเทศได้ประจักษ์มาแล้ว *ขอบคุณบทสัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์บันเทิงสยามดารา มีนาคม 2550*
*ภาพ beauty-queen*
หุ่นไม่ผ่า น คิคิ