ครบ 1 ปีที่ย้ายมาอยู่ภูเก็ต และครบ 1 ปีที่ไม่ได้เห็นหน้าใครคนนั้นอีกต่อไปแล้ว
ฉันเฝ้าแต่ถามเธอว่า มันจะดีไหมเราจะเป็นอย่างไรถ้าฉันย้ายมาทำงานที่ภูเก็ต เธอบอกฉันว่า อย่าไปเพราะเธออยากให้ฉันอยุ่กับเธอที่นี่ ที่กรุงเทพ ฉันกลับไปบอกเจ้านายด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า หนูขอไม่ไปค่ะ
แต่แล้ว หน้าที่การงานของเธอกลับทำให้เราห่างกันๆ เธอดึงฉันเอาไว้ให้อยู่กับคำว่ารอ เธอบอกฉันเสมอว่า ให้เข้าใจ ให้รอ รอหน่อยตอนนี้ฉันทำงาน สร้างอนาคตเพื่อเรา เธอขอฉันแต่งงานก่อนหน้านี้หลายเดือน และฉันก็ตอบตกลง เธอบอกว่า เธออยากจะมีลูกกับฉัน ลูกของเราคงน่ารักมาก คงเป็นเด็กตัวน้อยๆ ผมสีทองตาสีเทาเหมือนเธอ
สุดท้าย ฉันเองที่เหนื่อยคำว่า รอ และการอยู่คนเดียวตลอดเวลา 4 เดือน ที่เราติดต่อกันทางอีเมล์ ไม่ได้ยินเสียงเธอนานเท่าไรแล้วนะ ฉันจำไม่ได้จริงๆ
เพราะชีวิตเธอขณะนั้น มีแต่ งาน งาน และ งาน
เธอคงไม่ต้องแปลกใจ เมื่อทุกครั้งที่ฉันส่งอีเมล์หรือข้อความหา ฉันจะบอกเธอว่าฉันนั่งดื่มอยู่กับเพื่อน เธออาจจะมองว่าฉันเหลวไหล แต่จะให้ฉันทำอะไรได้ฉันมีชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ห่างครอบครัว ฉันมีแค่เพื่อน ดูหนัง กินข้าว นั่งเม้าส์ เล่นกีฬา แค่นี้จริงๆ
และเหมือนทุกครั้งจะเป็นแค่ฉันที่เป็นห่วงเธออยู่ฝ่ายเดียว ฉันเห็นข่าวน้ำท่วมที่โคราชเมื่อปีที่แล้วฉันพยายามโทรหาเธอ แต่เธอไม่รับสาย ส่งข้อความไปกว่าจะตอบ ก็เมื่อเธออยุ่สนามบิน เตรียมจะบินไปเชียงใหม่ต่อ ฉันละท้อใจ
ชีวิตรักของเราเป็นแบบนี้ ต่างคนต่างดูแลตัวเอง จาก สค.-พย. วันที่แตกหัก และระหว่างนี้เราไม่มีเวลาเจอกันแม้เสี้ยวนาที
เธอส่งข้อความมาให้ฉันว่า เดี๋ยวจะส่งอีเมล์มาให้ เมื่อถึงสนามบิน เธออยู่ระหว่างทางไปสนามบินเพื่อบินไปจีน นาทีนั้น ฉันรู้ทันทีว่า มันต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
เธอบอกให้ฉัน ไม่ต้องรอเธออีกต่อไป... อ้าว แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร?? หรือฉันเอาหัวใจไปผูกไว้กับเธอเอง จากการได้อ่านอีเมล์ฉบับนั้น น้ำตาฉันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว
ฉันจึงตัดสินใจไปบอกเจ้านายอีกรอบว่า ฉันต้องการย้ายไปอยู่ภูเก็ต ฉันอยากเปลี่ยนเส้นทางชีวิตตัวเอง ฉันอยากหนีไปจากตรงนี้ กรุงเทพ เมืองที่ฉันใช้ชีวิตมากว่า 8 ปี ฉันไม่อยาก โดยสาร BTS เพื่อจะผ่าน สถานีอโศก ฉันเห็นแค่คอนโดฯ เธอ น้ำตาฉันยังไหลเลยเธอเชื่อไหม เธอคงแค่รู้แต่ไม่ใส่ใจและสงสาร บางครั้งผู้คนที่ยืนข้างฉันบนBTS คงจะมองหน้า ผู้หญิงคนนี้อยู่ดีๆก็ร้องไห้ ทำไม??
แต่ฉันก็ยังตัดเธอไม่ขาด ฉันยังบอกเธอว่าฉันจะไปแล้วนะ นับถอยหลังให้ด้วยฉันแค่อยากเจอกับเธอเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง แต่เธอก็ยังเงียบ เพื่อนฉันจัดงานเลี้ยงส่งให้ฉันไม่เว้นแต่ละวัน ตลอดสองอาทิตย์ก่อนการเดินทางเปลี่ยนชีวิตครั้งนี้ เที่ยวบิน นกแอร์ เช้าวันที่ 1 ธค. 53 เวลากี่โมงฉันจำไม่ได้แล้ว
ฉันจำได้แค่ว่า เพื่อนเลี้ยงส่งฉันจนคืนสุดท้ายที่ใช้ชีวิตใน กทม. 30 พย.53 ฉันนั่งเมาอยู่กับเพื่อนแถวอนุเสาวรีย์ชัยฯ จะเธอส่งข้อความมาในตอนดึกว่า คืนนี้มาค้างที่คอนโดฯได้ ฉันทิ้งเพื่อน ทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองหมดสิ้นในตอนนั้น แค่หวังว่าจะได้เจอหน้าเธออีกครั้งก่อนไป ฉันไม่ได้เจอเธอหลายเดือนมาก นานจนจำหน้าเธอแทบไม่ได้
ในนาทีที่ฉันเข้าไปกอดเธอ ฉันก็รู้ว่า ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะอะไรนะเหรอ แม้แต่อ้อมกอดของเธอมันก็ยังไม่อุ่นเหมือนเดิม เธอไม่ใช่แพททริค คนที่ฉันเคยรักอีกต่อไป
นั่นเป็นวันสุดท้ายที่เราได้เห็นหน้ากัน แต่ฉันก็อยากจะขอบคุณ
ขอบคุณ ที่เธอเย็นชากับฉัน ตลอดมา
ขอบคุณ ที่เธอบอกว่าไม่ต้องรอ
ขอบคุณ ที่ทำให้ฉันตัดสินใจมาอยู่ที่นี่
ขอบคุณ ที่ทำให้ฉันได้พบกับผู้ชายที่รักและพร้อมจะอยู่กับฉันเสมอเวลาฉันต้องการเค้า
