"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 116 "ชิน"
"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 116 "ชิน" โดยคุณเป็ดสวรรค์ (เอนทรี่นี้ไม่ต้องโหวตครับ ส่วนท่านที่ยังติดตาม: เดินเล่นที่บ้านป่า"สุดรก" วางแผนเก็บกวาดต้อนรับอากาศเย็นฉ่ำ **ขอเชิญที่นี่ครับ**)
เมื่อวันที่ไปโหวตโจทย์ครั้งนี้ ก็ไปนั่งนึกว่าทั้งสามโจทย์นั้นน่าจะเขียนอะไรได้บ้าง ดูแล้วก็นึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไรได้ จะโยนหัวโยนก้อยเลือกก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเศษกะตังค์มันไม่ได้มี สามหัวให้เลือก อยากจะเลือกอะไรที่มันกลางๆ ไม่ง่ายไม่ยากเกินสติปัญญากลวงๆของกระผม ก็เลยเลือกโจทย์ที่ 2 ชิน ก็มันอยู่ตรงกลางระหว่าง 1 กับ 3 อ่ะ ถูกป่ะ อิอิ เริ่มจะป่วน
เลือกแล้วก็ผันตัวเองมาสิงบ้านป่าเพราะมันมีอะไรๆ ต้องทำเยอะไปหมดรวมทั้งคุมไม่ให้คนสวนอู้ ขนาดคุมนะ ตอนกลางวันพักเที่ยงกลับไปกินข้าวที่บ้านเขา เพราะเขาไม่เกี่ยวกินกะบ้านเรา ตอนบ่ายหาเสด็จกลับมาไม่ วันนี้มาบอกว่า เมื่อวานฝนตกตอนบ่าย ผมเลยไม่มา เจ้านี้คงเป็นก้อนขี้หมา โดนฝนแล้วละลายเละ ผมก็บอกเค้าว่า บ่ายวานฝนตกตอนไหนฟระ ไม่เห็นรู้ เค้าบอกว่า ตกนิดเดียวครับ อ่ะ ผมว่า แล้วทำไมต้องหยุดงาน ผมเห็นคนสวนบ้านตรงข้ามตัดหญ้าเหย็งๆ ตลอดบ่าย ไอ้พวกนี้ชอบนึกว่าผมกินทั้งแกลบและหญ้า วันนี้เลยสั่งงานซะยาวเป็นหางว่าว
เอ้า แล้วชินเรื่องอะไรเหรอ... คุณคงอยากถาม แหะๆ แค่อารัมภบทเยอะไปหน่อยอะค้าบ
คิดว่าจะเขียนถึงคนชอบให้ ให้เพราะเห็นคนอื่นอยากได้หรืออยากทำ การช่วยเหลือผู้อื่นทั้งด้วยกำลังกาย กำลังสมองและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น นับว่าเป็นทานบารมีที่สมควรสั่งสม ท่านว่า ทำโดยไม่หวังผลตอบแทน ผลที่ได้รับเห็นๆคือความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือเจือจานผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
คนที่ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน มักทำไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบวกลบคูณหารผลได้ผลเสีย กำไรหรือขาดทุน เช่นนี้อาจกล่าวได้ว่า ทำด้วยความเคยชินในกมลสันดาน
แต่ก็จริงอีกแหละที่ท่านบอกว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด คนที่คุ้นชินในเรื่องการทำดี ก็ยังมีคนพยายามมองว่า ทำดีเพราะต้องการสิ่งตอบแทน หรือแค่สร้างภาพ มันก็คือการมองโลกในแง่ร้ายของคนที่ไม่เคยคิดจะทำดีเสียเองน่ะแหละ
การทำความดีจนคุ้นชิน ไม่ว่าจะในแนวทางไหน บุญกุศลจะคุ้มหัวคุ้มตัวให้คนผู้นั้นตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แต่บางครั้ง การทำความดีก็คงต้องมีขอบเขต ข้อยกเว้นหรือหยุดกระทำเสียบ้าง หากสังเกตเห็นว่า สิ่งที่เรากำลังทำ จะบังเกิดผลที่น่ารำคาญโดยไม่จำเป็น เพราะบางทีเราอาจไม่พร้อมให้ความช่วยเหลือในบางเรื่องซึ่งเราไม่มีความสารถหรือไม่มีปัจจัยพอจะช่วยได้อีก กรณีนี้จะเห็นบ่อยที่ผู้ต้องการความช่วยเหลือมักนินทาว่า เมื่อก่อนคนคนนี้น่ารักและใจดีมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่คนเก่าแล้ว ทั้งใจแคบ ใจดำ เงินงี้ไม่มีกระเด็นสักบาท คนที่เคยแต่ให้จนชินก็ต้องเรียนรู้ว่า คนที่เขาช่วยเริ่มชินให้เขาช่วยไปหมด เป็นความพอใจที่จะแบมือขอไปเรื่อยๆ เลยอาจจะกลายเป็นว่า เราทำให้เขาเสียนิสัยเพระเราเคยชินที่จะให้จนกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ถึงขั้นนี้ก็ไม่ต้องหยุดชินทำความดีหรอก เอาแค่เลือกทำเสียบ้าง เลือกคนที่รู้จักความพอดี และเรียนรู้ที่จะหัดช่วยตัวเองด้วย สังคมมนุษย์จำเป็นต้องอาศัยการพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดของผู้ด้อยโอกาส และความอยู่รอดอย่างสงบสุขของสังคมด้วย
บางคนชินแล้วทั้งการทำความดีแล้วถูกมองเป็นร้าย และทำความดีแล้วมีคนชื่นชมมากๆจนผู้คนหมั่นไส้และริษยา จึงมีคำกล่าวเตือนว่า ทำดีอย่าให้เด่น จะเป็นภัย เช่นนี้แล้ว เขาจะยังทำดีต่อไปและรับผลจากการกระทำนั้นๆทั้งดีและร้ายเพื่อผจญมารให้บารมีได้เกิดบ้างหรือเปล่า
อยากเป็นคนที่ชินและไม่ท้อถอยในการทำความดีและชินกับผลลัพธ์ที่ไม่ใช่แนวบวก กรรมดีทำยากแต่ก็คงไม่ยากที่จะทำ ทำให้ชินและชินที่จะรับผลกระทบทั้งลบและบวก เชื่อว่า บุญจะถึงพร้อมเพราะมีความอดทนและอดกลั้น
ลาวแพน - บรรเลงกู่เจิ้ง
Special thanks to uploader, Pravich Chaichana.
ภาพดอกไม้ประกอบบล็อกคือ พวกฟูเชียซึ่งเป็นพวกเดียวกับตุ้มหูนางฟ้า แต่ชื่อเฉพาะยังไม่มั่นใจครับ
Create Date : 22 ตุลาคม 2557 |
|
40 comments |
Last Update : 23 ตุลาคม 2557 15:36:56 น. |
Counter : 3592 Pageviews. |
|
|
|
ชินแบบนี้ดีจังนะคะ เค้าว่ากันว่างานเขียน
จะบอกถึงความเป็นตัวตน
อ่านงานตะพาบที่นี่รู้เลยว่า มองโลกบวกมากๆ
ผิดกับงานตะพาบที่บ้านเลยค่า ลบสุดๆๆ 5555
.....
ปล.คนงานที่ฟาร์มก็อู้บ่อยๆค่าา พ่อบ่นๆประจำ
จนนี่พอดุนิดดุหน่อย ก็หนีไปเลยซ่ะงั้น
(ก็จะไม่ให้ดุได้ไงเนอะ มาทำงานก็โน้นปาไปบ่าย
แถมพาเพื่อนมาทเี่ยวฟาร์มอีก ยังไงเนี่ย)
เหนื่อยใจจริงๆค่ะ.....